"ปานเทพ" ชำแหละสมัครเลือกตั้งวันแรกส่อโมฆะทุกพรรค

สมัครผิดเวลา ผิดสถานที่ (ภาพจากเฟซบุ๊ก "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์")



ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัคร (ภาพจากเฟซบุ๊ก "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์")




"ปานเทพ" ชำแหละรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.วันแรก ส่อโมฆะทั้งหมด เหตุทำผิดจากราชกิจจานุเบกษา ระบุ 8 รายสมัครก่อนเวลา ส่วน 26 ราย ผิดสถานที่ อีกทั้งไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียมทำให้ไม่ครบขั้นตอน เตือน กกต. เดินหน้าต่อเสี่ยงตะราง พร้อมแนะ กปปส. ชูเนื้อหาปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อครองใจคนไทยรวมถึงเสื้อแดง จะได้ลดโอกาสเกิดสงครามประชาชน เชื่อสามารถพัฒนาไปสู่การปฏิวัติประชาชนได้
       
       วันนี้ (23 ธ.ค.) นายปานเทพ พังพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม" ทางเอเอสทีวี ว่า จดหมายที่ กกต. ออกตอน 2 ทุ่ม ของวันที่ 22 ธ.ค. เป็นความตื่นตระหนกของ กกต. โดยให้พรรคการเมืองไปแจ้งความที่สน.ดินแดง เพื่อรักษาสิทธิในการจับสลาก ไม่ใช่การรับสมัคร ถ้าไม่ออกจดฉบับนี้สถานการณ์จะง่ายกว่านี้ แต่นี่ต้องยุ่งเหยิงจน กกต. ไม่กล้าดำเนินการจับสลาก เนื่องจากว่ามี 8 พรรคการเมืองได้เข้าไปลงชื่อที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 โดย กกต. แก้ตัวว่าเป็นเพียงรายชื่อคนที่มาแสดงสิทธิว่ามาต่อคิวกี่โมง แต่ดูหัวเอกสารเขียนว่า "บันทึกลงเวลาการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ" ฉะนั้นนี่คือการยื่นใบสมัคร อีกทั้งทุกคนยืนยันตรงกันว่าได้ยื่นเอกสารการสมัครตามเวลาที่ลงไว้ทุกคน
       
       มันสำคัญตรงที่ว่าในในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ข้อที่ 1ระบุว่า "ให้ยื่นหลักฐานประกอบการยื่นบัญชีรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2556 ระหว่าง 8.30 น. ถึง 16.30 น." ดังนั้นทำให้ขั้นตอนการรับสมัครอยู่นอกเหนือจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา อาจทำให้การสมัครของ 8 พรรคการเมืองเข้าข่ายเป็นโมฆะ
       
       ประการที่ 2 ราชกิจจานุเบกษา ยังระบุด้วยว่ารับสมัคร "ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดน กรุงเทพมหานคร" การประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นมีความหมายว่าเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ดังนั้นการที่ กกต. ประกาศให้ไปแจ้งความที่ สน.ดินแดง เพื่อรักษาสิทธิในการจับสลาก แต่ปรากฎว่าที่สน.เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. คอยตรวจเอกสาร ถือเป็นการรับสมัครนอกสถานที่นอกเหนือจากที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
       
       นายปานเทพ กล่าวต่อว่า กกต. สรุปว่ามี 34 พรรคการเมืองที่มีสิทธิจับสลาก แต่ในเมื่อ 8 ราย สมัครนอกเหนือจากเวลาที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และ 20 กว่าราย สมัครนอกเหนือจากสถานที่ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่มีรายไหนถูกต้องสักรายเดียว ข้อสำคัญที่สุดคนที่ยื่นใบสมัครยังไม่ทำตามขั้นตอนที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข้อ 1.2 ที่ให้พรรคการเมืองที่สมัครต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียม 5 พันบาท ตรวจแล้วเจ้าหน้าที่ไม่กล้ารับเงิน เพราะกลัวเสี่ยงเจอคดี ก็แปลว่าทั้ง 34 ราย ไม่มีใครสมัครครบขั้นตอนสักรายเดียว
       
       ตนเชื่อว่าตอนนี้ กกต. แตกแยกภายใน เพราะสุ่มเสี่ยงมากหากมีการจัดเลือกตั้ง เห็นได้จากการที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พูดขัดแย้งกันเองในแต่ละครั้ง กกต.จะแก้ไขหรือเดินหน้าต่อไป ถ้าแก้ไขต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาใหม่ ตารางการเลือกตั้งก็จะรวนไปหมด ทำให้ไม่สามารถเลือกตั้งได้ในวันที่ 2 ก.พ.
       
       นายปานเทพ กล่าวอีกว่า การที่ กปปส. ไปที่สนามกีฬาไทย - ญี่ปุ่น วันเดียว สะเทือนไปหมด ลองคิดง่ายๆสมมติ กกต.เดินหน้าต่อ ให้ 34 รายจับสลาก แล้วคนมาสมัครวันที่ 24 ธ.ค. เป็นรายที่ 35 แล้วปรากฎว่าจับสลากที่ไหนเกิดการชุมนุมที่นั่น ผู้สมัครใน 34 ราย มีสักรายที่ไม่ไป แล้วไปแจ้งความว่าเข้าในพื้นที่ไม่ได้ เมื่อไม่ครบ 34 ราย ก็ไม่สามารถจับสลากได้ หรือ กกต. จะอ้างว่าสละสิทธิ ก็คงไม่ยอม
       
       แต่หากดำเนินการจับสลากผ่านไปได้ ก็จะเจออีกด่าน คือ มาตรา 93 วรรค 7 บอกว่า การเลือกตั้งต้องได้ ส.ส. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด ถึงเรียกได้ว่าเป็นสภาผู้แทนราษฎร และเปิดประชุมสภาได้ ดังนั้นการเลือกตั้งไม่สำเร็จ 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป 500 คน ก็คือ 26 คนเท่านั้น ไม่ครบ 95 เปอร์เซ็นต์ทันที ประชาธิปัตย์มี ส.ส. ภาคใต้ 50 คน แค่ครึ่งเดียวหากทำอารยะขัดขืนไม่ให้การเลือกตั้งเกิดได้ ก็จะต้องเลือกตั้งซ่อมไปเรื่อยๆ จนกว่าภาคประชาชนจะบรรลุวัตถุประสงค์ คือ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่