ก่อนที่จะล่อเป้ามากกว่านี้ 55
แนวคิดของผมก็คือ ภาษีเงินได้คนรวยควรจะลดลงจาก 37 หรือตอนนี้ 35 ไม่รู้ มาเป็นไม่ต้องเท่ากัน rate ต่ำสุดก็ได้ ให้ลดลงมาสักเหลือ 25 % ส่วนขั้นอื่นๆ ก็ลดลงไปตามลำดับ
ส่วนภาษี vat ก็ควรจะขึ้นจาก 7 % เป็น 10 % เพื่อพบกันครี่งทาง ใครบริโภคมากก็ควรจ่าย vat มาก
ข้อดี
1. รายได้ของเราถูกกระจายไปสู่ผู้ค้าโดยตรงไม่ต้องเอาไปจ่ายผ่านรัฐ เพื่อเกิดการคอรัปชั่น เมื่อภาษีเงินได้ลด คนก็ใช้มากขึ้นเงินก็ถูกส่งต่อไปสู่เจ้าของธรุกิจต่างๆมากขึ้น โดนไม่ต้องถูกหักหัวคิดจากรัฐ เช่น คนรวยลดภาษี จากกินข้าวมือล่ะพัน ก็อาจจะขยับเป็นมื้อละสองพัน รายได้อีกพันก็จะตกกับเจ้าของธุรกิจโดยตรง
2.คนจนก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้ของเจ้าของกิจการที่ดีขึ้น
ข้อดีคือเงินไปสูผู้ประกอบการโดยตรง ไม่ต้องผ่านรัฐบาลเยอะในการคอรับชั่น แล้วเก็บ vat เยอะจะได้สร้างความเป็นเจ้าของประเทศในการเสียภาษีได้มากขึ้น คนรวยก็เห็นว่ายุติธรรมขึ้น คนจนก็รายได้มากขึ้นจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
แล้วไอ้ที่คิดมาไม่ได้มั่วนะครับ ดูจาก norway ภาษี income tax คนรวยกับจน rate ห่างกันไม่มาก หรือ rate เท่ากันด้วยซ้ำ
vat ที่ norway อยู่ที่ 25 %
http://en.wikipedia.org/wiki/Taxation_in_Norway
ขอตอบรวมๆจากกระทู้แรก
http://pantip.com/topic/31419923
ขอตอบโดยรวมว่า
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
แล้วขอตอบโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
แล้วขอตอนโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
แล้วขอตอนโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
ไม่ต้องกลัวว่าคนรวยจะเสียภาษีเท่าคนจน แค่จ่ายภาษีเงินเดือนรายได้เท่ากัน แค่ vat เวลาบริโภคก็ต้องจ่ายมากกว่าอยู่ดี
สรุปคนรวยเสียภาษี มากกว่าอยู่ดี เพราะว่า ภาษี vat คิดเท่ากัน คนรวยกินข้าว 10000 บาท เสียภาษี 700 บาท คนจนกินข้าว 100 เสียภาษี 7 บาท ถ้ากินข้าวข้างทางภาษีไม่ต้องเสียด้วยซ้ำ
แค่เสียภาษีเงินได้ ให้มันยุติธรรม
การที่ มีผู้ตอบกระทู้ว่า เพราะว่ารายได้มาก มาจากการผลาญทรัพยากรมาก ยกตัวอยากเช่นตั้งโรงงาน bla bla bla อาชีพอื่นไม่เยอะที่รายได้สูงแล้วไม่ได้พลาญอะไร
ผมขอถามกลับว่า
สมมุติ มีช่างภาพ 2 คน ผีมือห่างกันเยอะ คนนึง ถ่ายงานครั้งล่ะ พัน อีกคนครั้งล่ะแสน คนที่ถ่ายครั้งละแสน ผลาญทรัยพาการมากกว่าตรงไหนครับ รายได้ที่มากกว่าก็เพระาฝีมือมากกว่า ทำไมสองคนนี้ต้องเสียภาษีต่างกัน มันยุติธรรมมั้ย ในเมื่อรายได้ที่มากกว่าก็เพราะฝีมือเจ๋งกว่า
ส่วนผู้ที่บอกต้องเสียภาษีเยอะ ใข้ถนน มากว่า อย่าลืมว่าใช้ถนนก็ต้องซื้อรถ ซื้อรถก็ต้องจ่าย vat ดังนั้นภาษีสร้างถนนก็มาจาก vat ที่เสียอยู่แล้ว น้ำมันที่ซื้อก็เสียภาษี การที่คุณจะมาคิดในภาษีเงินได้มันคนล่ะเรื่องกันเลย ส่วนที่บอกบริโภคมากก็ต้องจ่ายมาก มันก็จ่ายจาก vat อยู่แล้ว
ที่พูดหมายถึงภาษีรายได้เฉยๆ คุณคิดว่า ceo เงินเดือน 1 ล้าน กับ พนักงานเงินเดือน 3 หมื่น ใช้ทรัพยากรอะไรต่างกันครับ นอกจากฝีมือกับสมองในการทำงาน ถ้าอุปกรณ์ต่างมันก็เสียจากใน vat ที่ซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นคุณจะมาหักซ้ำซ้อนทำไม
1 คน 1 เสียงก็ถูกแล้ว เห็นด้วย
ที่ดูจะฟังขึ้น ก็คือ คนรวยต้องจ่ายภาษีมากเพราะต้องเห็นใจคนจน แต่คนจนเคยเห็นใจคนจ่ายภาษีมากบ้างป่าวคับ คนจนก็เลือกแต่คนที่เอาประโยชน์ให้ตัวเอง เช่นจำนำข้าว จากการสำรวจคนก็จะเลือกคนที่ทำประโยขน์ให้ตัวเองถึงแม้จะโกง แล้วก็พลาญภาษี ถ้าจะพลาญภาษีงั้นภาษีเงินเดือนก็ควรจะลดให้มันเท่ากัน ส่วนภาษี vat คนรวยก็เสียมากว่าอยู่แล้วจากการบริโภคมาก รถคันนึงภาษีก็เป็นแสนแล้ว ค่าเครื่องบิน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็บวกไปหมดแล้ว ดังนั้นจะมาบอกว่าเสียภาษีเงินเดือนมากเพราะบริโภคมากไม่ได้เพราะมันคิดใน vat แล้ว
ส่วนที่บอกว่า ผมเสียภาษีเยอะเลยโวยวาย 55 จะบอกว่าเล่นหุ้นกำไรไม่ต้องเสียภาษี แต่สงสารคนที่ต้องเสียภาษีเยอะๆที่มันไม่ยุติธรรม
ส่วนไอ่พวกที่มาบอกว่าโง่ งั้นก็ช่วยอ่านแล้วก็ตอบที ว่าคิดยังไงดีกว่า จะบอกแค่ว่าโง่อย่างเดียวเพราะมันดูไม่ฉลาด
จากกระทู้เดิม
###########################
คนรวยภาษีก็เสีย rate สูงกว่า คิดเป็นจำนวนเงินก็มากว่า
ไอ้ตอนอยากได้ 1 คน 1 เสียงบอกเป็นประชาธิปไตย
วันหลังช่วยแก้ด้วย คนไทยทำงานทุกคนเสียภาษีคนล่ะ คิดเป็นตัวเลข (สมมุติ 2 หมื่นบาท)เท่ากัน ใครเงินเดือน 1 ล้านก็เสียปีล่ะ 2 หมื่น
เงินเดือน 10 ล้านก็เสีย 2 หมื่นบาท
เงินเดือน 3 หมื่นก็เสียปีล่ะ 2 หมื่น จะได้ยุติธรรม ส่วนใครเงินเดือนไม่ถึง 1 หมื่นต่อเดือนก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็ได้สิทธิเลือกตั้ง 1 คน 1 เสียงเท่ากัน
ส่วนภาษี vat ก็เก็บปรกติ คนรวยก็จ่ายมากกว่าอยู่แล้วเพราะว่า เงินมาก ก็ซื้อของมาก จ่าย vat ก็มากกว่า
1 คน 1 เสียงไม่มีปัญหา แต่ภาษีช่วยเก็บให้เท่าๆกันได้สิ อย่าเอาเปรียบกันให้มากนัก 2 มือสองเท้าก็มี เหมือนกัน คนมันเก่งทำงานหาเงินได้เยอะก็เรื่องของเค้า ใครเก่งได้ได้เยอะ ใครไม่เก่งก็ช่วยไม่ได้
เก็บเท่าๆกันแฟร์ๆไปเลย ส่วนเลือกตั้งก็ 1 คน 1 เสียงไป ตามความยุติธรรม
1 คน 1 เสียงถูกต้องแล้ว แต่ ทำไมคนรวยต้องเสียภาษีมากกว่าคนจนด้วยครับ มันไม่ยุติธรรมใช่มั้ย part2
แนวคิดของผมก็คือ ภาษีเงินได้คนรวยควรจะลดลงจาก 37 หรือตอนนี้ 35 ไม่รู้ มาเป็นไม่ต้องเท่ากัน rate ต่ำสุดก็ได้ ให้ลดลงมาสักเหลือ 25 % ส่วนขั้นอื่นๆ ก็ลดลงไปตามลำดับ
ส่วนภาษี vat ก็ควรจะขึ้นจาก 7 % เป็น 10 % เพื่อพบกันครี่งทาง ใครบริโภคมากก็ควรจ่าย vat มาก
ข้อดี
1. รายได้ของเราถูกกระจายไปสู่ผู้ค้าโดยตรงไม่ต้องเอาไปจ่ายผ่านรัฐ เพื่อเกิดการคอรัปชั่น เมื่อภาษีเงินได้ลด คนก็ใช้มากขึ้นเงินก็ถูกส่งต่อไปสู่เจ้าของธรุกิจต่างๆมากขึ้น โดนไม่ต้องถูกหักหัวคิดจากรัฐ เช่น คนรวยลดภาษี จากกินข้าวมือล่ะพัน ก็อาจจะขยับเป็นมื้อละสองพัน รายได้อีกพันก็จะตกกับเจ้าของธุรกิจโดยตรง
2.คนจนก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้ของเจ้าของกิจการที่ดีขึ้น
ข้อดีคือเงินไปสูผู้ประกอบการโดยตรง ไม่ต้องผ่านรัฐบาลเยอะในการคอรับชั่น แล้วเก็บ vat เยอะจะได้สร้างความเป็นเจ้าของประเทศในการเสียภาษีได้มากขึ้น คนรวยก็เห็นว่ายุติธรรมขึ้น คนจนก็รายได้มากขึ้นจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
แล้วไอ้ที่คิดมาไม่ได้มั่วนะครับ ดูจาก norway ภาษี income tax คนรวยกับจน rate ห่างกันไม่มาก หรือ rate เท่ากันด้วยซ้ำ
vat ที่ norway อยู่ที่ 25 %
http://en.wikipedia.org/wiki/Taxation_in_Norway
ขอตอบรวมๆจากกระทู้แรก http://pantip.com/topic/31419923
ขอตอบโดยรวมว่า
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
ใข้ทรัพยการมากกว่าจ่ายไปใน vat แล้วครับ
แล้วขอตอบโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
แล้วขอตอนโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
แล้วขอตอนโดยรวมว่า ยังมีอาชีอีกเยอะที่รายได้เยอะโดยไม่ผลาญทรัพยกร แต่มันขึ้นกับฝีมือ เช่นช่างภาพ ครีเอทีฟ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทกับ ceo อย่าคิดว่ารายไ้ดเยอะต้องผลาญเยอะ ถ้าผลาญเยอะคือบริโภคเยอะมั้นจ่ายใน vat แล้ว
ไม่ต้องกลัวว่าคนรวยจะเสียภาษีเท่าคนจน แค่จ่ายภาษีเงินเดือนรายได้เท่ากัน แค่ vat เวลาบริโภคก็ต้องจ่ายมากกว่าอยู่ดี
สรุปคนรวยเสียภาษี มากกว่าอยู่ดี เพราะว่า ภาษี vat คิดเท่ากัน คนรวยกินข้าว 10000 บาท เสียภาษี 700 บาท คนจนกินข้าว 100 เสียภาษี 7 บาท ถ้ากินข้าวข้างทางภาษีไม่ต้องเสียด้วยซ้ำ
แค่เสียภาษีเงินได้ ให้มันยุติธรรม
การที่ มีผู้ตอบกระทู้ว่า เพราะว่ารายได้มาก มาจากการผลาญทรัพยากรมาก ยกตัวอยากเช่นตั้งโรงงาน bla bla bla อาชีพอื่นไม่เยอะที่รายได้สูงแล้วไม่ได้พลาญอะไร
ผมขอถามกลับว่า
สมมุติ มีช่างภาพ 2 คน ผีมือห่างกันเยอะ คนนึง ถ่ายงานครั้งล่ะ พัน อีกคนครั้งล่ะแสน คนที่ถ่ายครั้งละแสน ผลาญทรัยพาการมากกว่าตรงไหนครับ รายได้ที่มากกว่าก็เพระาฝีมือมากกว่า ทำไมสองคนนี้ต้องเสียภาษีต่างกัน มันยุติธรรมมั้ย ในเมื่อรายได้ที่มากกว่าก็เพราะฝีมือเจ๋งกว่า
ส่วนผู้ที่บอกต้องเสียภาษีเยอะ ใข้ถนน มากว่า อย่าลืมว่าใช้ถนนก็ต้องซื้อรถ ซื้อรถก็ต้องจ่าย vat ดังนั้นภาษีสร้างถนนก็มาจาก vat ที่เสียอยู่แล้ว น้ำมันที่ซื้อก็เสียภาษี การที่คุณจะมาคิดในภาษีเงินได้มันคนล่ะเรื่องกันเลย ส่วนที่บอกบริโภคมากก็ต้องจ่ายมาก มันก็จ่ายจาก vat อยู่แล้ว
ที่พูดหมายถึงภาษีรายได้เฉยๆ คุณคิดว่า ceo เงินเดือน 1 ล้าน กับ พนักงานเงินเดือน 3 หมื่น ใช้ทรัพยากรอะไรต่างกันครับ นอกจากฝีมือกับสมองในการทำงาน ถ้าอุปกรณ์ต่างมันก็เสียจากใน vat ที่ซื้ออยู่แล้ว ดังนั้นคุณจะมาหักซ้ำซ้อนทำไม
1 คน 1 เสียงก็ถูกแล้ว เห็นด้วย
ที่ดูจะฟังขึ้น ก็คือ คนรวยต้องจ่ายภาษีมากเพราะต้องเห็นใจคนจน แต่คนจนเคยเห็นใจคนจ่ายภาษีมากบ้างป่าวคับ คนจนก็เลือกแต่คนที่เอาประโยชน์ให้ตัวเอง เช่นจำนำข้าว จากการสำรวจคนก็จะเลือกคนที่ทำประโยขน์ให้ตัวเองถึงแม้จะโกง แล้วก็พลาญภาษี ถ้าจะพลาญภาษีงั้นภาษีเงินเดือนก็ควรจะลดให้มันเท่ากัน ส่วนภาษี vat คนรวยก็เสียมากว่าอยู่แล้วจากการบริโภคมาก รถคันนึงภาษีก็เป็นแสนแล้ว ค่าเครื่องบิน เครื่องใช้ไฟฟ้าก็บวกไปหมดแล้ว ดังนั้นจะมาบอกว่าเสียภาษีเงินเดือนมากเพราะบริโภคมากไม่ได้เพราะมันคิดใน vat แล้ว
ส่วนที่บอกว่า ผมเสียภาษีเยอะเลยโวยวาย 55 จะบอกว่าเล่นหุ้นกำไรไม่ต้องเสียภาษี แต่สงสารคนที่ต้องเสียภาษีเยอะๆที่มันไม่ยุติธรรม
ส่วนไอ่พวกที่มาบอกว่าโง่ งั้นก็ช่วยอ่านแล้วก็ตอบที ว่าคิดยังไงดีกว่า จะบอกแค่ว่าโง่อย่างเดียวเพราะมันดูไม่ฉลาด
จากกระทู้เดิม
###########################
คนรวยภาษีก็เสีย rate สูงกว่า คิดเป็นจำนวนเงินก็มากว่า
ไอ้ตอนอยากได้ 1 คน 1 เสียงบอกเป็นประชาธิปไตย
วันหลังช่วยแก้ด้วย คนไทยทำงานทุกคนเสียภาษีคนล่ะ คิดเป็นตัวเลข (สมมุติ 2 หมื่นบาท)เท่ากัน ใครเงินเดือน 1 ล้านก็เสียปีล่ะ 2 หมื่น
เงินเดือน 10 ล้านก็เสีย 2 หมื่นบาท
เงินเดือน 3 หมื่นก็เสียปีล่ะ 2 หมื่น จะได้ยุติธรรม ส่วนใครเงินเดือนไม่ถึง 1 หมื่นต่อเดือนก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่ก็ได้สิทธิเลือกตั้ง 1 คน 1 เสียงเท่ากัน
ส่วนภาษี vat ก็เก็บปรกติ คนรวยก็จ่ายมากกว่าอยู่แล้วเพราะว่า เงินมาก ก็ซื้อของมาก จ่าย vat ก็มากกว่า
1 คน 1 เสียงไม่มีปัญหา แต่ภาษีช่วยเก็บให้เท่าๆกันได้สิ อย่าเอาเปรียบกันให้มากนัก 2 มือสองเท้าก็มี เหมือนกัน คนมันเก่งทำงานหาเงินได้เยอะก็เรื่องของเค้า ใครเก่งได้ได้เยอะ ใครไม่เก่งก็ช่วยไม่ได้
เก็บเท่าๆกันแฟร์ๆไปเลย ส่วนเลือกตั้งก็ 1 คน 1 เสียงไป ตามความยุติธรรม