ไทยมองถึงปัญหานี้ไว้รึยังครับ ผมเริ่มเห็นเค้าลางของปัญหานี้แล้ว
คือเด็กจบใหม่ออกมาแล้วไม่มีงานทำ หรือมีงานทำแต่โอกาสบรรจุเป็นพนักงานประจำยาก
ส่วนนึงคือตำแหน่งงานต่างๆเต็มหมดแล้ว คนเก่าๆที่เกษียณออกไป
มีน้อยกว่าคนที่จบใหม่ออกมาหลายเท่าตัว   อีกส่วนนึงคือใช้เราเลือกใช้แรงงานต่างด้าว
ซึ่งมีค่าแรงถูกกว่า เรามีเด็กม.ปลายจบมาปีละหลายแสนคนเพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
         ซึ่งเราได้ป้อนต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว จนตำแหน่งงานต่างๆเริ่มจะเต็มหมดแล้ว
สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ โรงงานต่างๆเลิกที่จะบรรจุพนักงานให้เป็นพนักงานประจำ
แต่...เลือกที่จะจ้างพนักงานซับคอนแทคแทนเพราะ ไม่ต้องจ่ายสวัสดิการมากมายเหมือนพนักงานประจำ
รุ่นน้องที่ทำงานด้วยกันกับผม เป็นพนังงานซับคอนแทค ทำงานด้วยกันข้างๆกันเหนื่อยด้วยกัน
แต่รายได้ไม่เท่ากัน  ซึ่งแนวโน้มทุกบริษัทจากนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ต่อไป
       แต่นี่ยังไม่ร้ายแรงเท่าหากวันนึงเราสามารถมีหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพทำงานแทนคนได้จริงๆ
ไม่ต้อง 100เปอร์เซ็นต์เอาแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ก็พอเราจะจัดการกับแรงงานที่ล้นตลาดยังไงครับ
ทั้งแรงงานเก่าที่มีอยู่แล้ว กับแรงงานใหม่ที่เพิ่งเรียนจบมา จะให้กลับไปทำไร่ไถนา
ก็ไม่รู้ว่าจะมีเหลือให้ทำเท่าไร
       ข่าวการทุ่มซื้อบริษัทผลิตหุ่นยนต์ของกูเกิ้ล ทำให้ผมเริ่มเห็นความจริงจังอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อใช้แทนคน ผมเคยอ่านบทความที่ไหนสักแห่ง ผมจำไม่ได้
บทความนั้นวิเคราะห์ไว้ว่า อเมริกาจะเลิกผลิตสินค้าปลายน้ำเพื่อขาย เพราะต้นทุนการผลิตไม่สามารถแข่งจีนได้
สหรัฐจะมุ่งเป้าเพื่อผลิตสินค้าเพื่อการบริการแทน......หนึ่งในนั้นก็คือการผลิตหุ่นยนต์เพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพ
ที่เป็นที่หมายปองของโรงงานต่างๆ เพราะแรงงานมนุษย์มีข้อจำกัดมากมาย ในเรื่องความอดทน
การทำงานซ้ำซาก สิทธิมนุษยชน ฯลฯ ซึ่งหุ่นยนต์จะมาทำลายข้อจำกัดตรงนี้ไปเพื่อลดต้นทุนการผลิต
       ซึ่งหากวันนั้นมาถึงจริงๆเรามีแผนรับมือกับแรงงานล้นตลาดรึยังครับ