โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เช่น BYD NIO ใช้หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ (ฮิวแมนนอยด์) มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

กระทู้ข่าว
‘หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์’ เข้ามามีบทบาทในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยบริษัทรถชั้นนำอย่าง BYD และ NIO ได้นำหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์มาใช้ในกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน
.
เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ชั้นนำอย่าง “บีวายดี” (BYD) และ “นีโอ” (NIO) ได้นำ “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์” ซึ่งทั้งเดินได้ พูดได้ และยกของได้มาใช้ในโรงงาน เนื่องจากจีนกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานผลิต
.
ในปีนี้ BYD ได้นำเสนอหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Walker S1 จากบริษัทสตาร์ทอัพ UBTech Robotics ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง มาใช้ในโรงงานของตนในมณฑลหูหนาน
.
หุ่นยนต์เหล่านี้มีความสูง 172 เซนติเมตร น้ำหนัก 76 กิโลกรัม และติดตั้งเซ็นเซอร์ภาพ เสียง และระยะทาง สามารถหยิบกล่องและบรรจุลงในยานพาหนะนำทางอัตโนมัติ
.
“นอกจากงานเบาแล้ว หุ่นยนต์ Walker ที่ติดตั้งกล้องยังสามารถตรวจสอบคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ามนุษย์” ไมเคิล แทม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายแบรนด์ของ UBTech กล่าว
.
ด้านสตาร์ทอัพอีวีจากเซี่ยงไฮ้อย่าง NIO ได้นำหุ่นยนต์ UBTech มาใช้งานในโรงงานของตนที่มณฑลอันฮุย หุ่นยนต์เดินไปรอบ ๆ รถยนต์ ตรวจสอบล็อคประตูโดยใช้กล้องและดึงเข็มขัดนิรภัยเพื่อตรวจสอบความบกพร่อง บางตัวหยิบโลโก้ และวางบนฝากระโปรงรถ จากนั้นใช้เครื่องมือยึดให้เข้าที่
.
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการใช้งานที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น เช่น โรงงานแห่งหนึ่งที่ผลิตรถ Zeekr สำหรับ Geely ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อีกแห่งของจีน ได้ให้หุ่นยนต์ Walker S1 ขึ้นไปที่รถยนต์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อตรวจสอบว่าระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สั่งงานด้วยเสียงในรถ ทำงานถูกต้องหรือไม่
.
แทมกล่าวว่า ประมาณ 70% ของงานในโรงงานสามารถจัดการได้โดยหุ่นยนต์ที่มีอยู่ โดย 30% ที่เหลือทำโดยมนุษย์ เขาเสริมว่า ในอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์อีก 20%
.
ณ สิ้นเดือนตุลาคม UBTech ได้จัดส่งหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์หลายสิบตัวไปยังโรงงานเป็นหลัก และได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมอีกประมาณ 500 ยูนิต
.
ตามการคาดการณ์ของสถาบันวิจัย Shenzhen Gaogong Industry Research ยอดขายหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของจีนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2,000 ยูนิตในปี 2024 เป็นมากกว่า 2 ล้านยูนิตในปี 2035 โดยเมื่อถึงปี 2035 เป็นที่คาดการณ์ว่า ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมจะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดสำหรับใช้ในครัวเรือนก็มีแนวโน้มเติบโตไม่น้อยเช่นกัน ด้วยมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความต้องการใช้ในการดูแลบ้านและผู้สูงอายุ
.
ทั้งนี้ บริษัทในจีนกว่า 80 แห่งกำลังพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ โดยทั่วไปแต่ละยูนิตมีราคาหลายแสนหยวน (100,000 หยวนเท่ากับ 4.7 แสนบาท)
.
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
.
https://www.bangkokbiznews.com/world/1158456?anm=


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่