ก่อนอื่น ขอสวัสดี ทุกท่านนะครับ ผมอยากขะแชร์ประสบการณ์เรื่องราวชีวิต ของผมให้ทุกท่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้วิ่งเข้าสู่ฝันของตัวเอง
ทุกอย่างไม่จำเป็น ต้องมีเงินทุน หรือ มีความพร้อมเสมอไปครับ ทุกอย่างอยู่ที่โอกาศความตั้งใจ และความพยายามครับ
(ตอนนี้ผม 24 ครับ มากราคม นี้ก็จะ 25)
ผมเป็นคนนึงครับที่บ้านมีฐานะค่อนข้างไปในทิศทางที่เกือบจะลำบาก ผมขออนุญาตนะครับ เริ่มจากสมัยมัธยมเลยครับ บ้านผมเกิดการล้มละลายของคุณแม่ เราจึงขายรถ ขายบ้าน ย้ายหนีหนี้จากย่านนนทบุรี มาสู่จังหวัดปทุมธานี (ผมเรียนหอวังนนทบุรีครับเลยย้ายมาใกล้โรงเรียนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย) จากเด็กที่มีคนขับรถมารับ-มาส่ง กลายเป็นผมต้องเริ่มกลับบ้านด้วยตัวเอง จากครอบครัวที่ใช้เงินไม่คิดหน้าคิดหลัง ต้องมานั่งกินข้าวน้ำพริก - ไข่เจียว ทุกวันครับ ชีวิตช่วงเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย ผมลำบากพอสมควรเลยครับ ผมทำงานช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน โดยการขายขนมจีบ หน้าคอนโด เสาร์-อาทิตย์หยุดเรียนก็ไปทำงานเป็นกรรมกร (แบกดินแบกทราย) , ลวกก๋วยเตี๊ยว , ได้วันละ 100 -150 บาท เอาเงินมากินขนม ไปโรงเรียนบ้างครับ ตามวาระ ตามสภาพ จนผ่านชีวตช่วงมัธยม ระหว่างมัธยม ผมได้ไปเรียนติวศิลปะ ที่ศิลปากรครับ ไปเรียนบ้างขาดบ้าง ตามเงินที่หาได้จากการขายขนมจีบ ผมใฝ่ฝันที่จะสอบเข้าศิลปากร พอมาลองใช้ชีวิตมาเรียนพบว่า ชีวิตที่นี่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องอยู่หอ ต้องมีภาระทางสังคมอีก ผมเลยตัดสินใจละทิ้ง ศิลปากร มาเรียนยังราชมงคล (โชติเวช) ระหว่างเรียนผมก็ทำงาน ไปด้วยเรียนไปด้วยครับช่วงปี 1 ผมเห็นความเหน็ดเหนื่อยของคุณแม่ที่ยังไงก็ไม่ยอมให้ลูกมีหนี้สิน ไม่ยอมให้ลูกยืมเงินจาก กยส. ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้เรียน ผมจึงตัดสินใจ เรียนบ้างโดดบ้าง ทำงานผสมๆกันไป ซึ่งการทำงานของผมได้โอกาศ จาก พี่คนหนึ่ง พี่เค้าเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์ที่พันธ์ทิพย์ ผมจึงไปทำงานเป็นเด็กขายของ ทำจนเริ่ม จัด Spec คอม ไปสู่ประกอบคอม และซ่อมเป็นในที่สุด ระหว่างนั้นเป็นช่วงที่มหาลัยมีการเรียนการสอนโปรแกรม 3D MAXS ผมตั้งใจมากในช่วงนั้น เพราะมีคนบอกมาตลอดว่า ทำ 3D ได้เงินเยอะ ผมก็หมั่นฝึกฝนกับคอมเครื่องเก่าสมัยโบราณที่บ้าน จนสุดท้ายไปขอที่เจ้าของร้านผ่อนคอม แต่เจ้าของไม่ให้ครับ เลยไปขอลุง (ญาติพี่น้องคุณแม่มีเงินมีทองกันทุกคนครับ แต่คุณแม่เป็นคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่เอาคือไม่เอา) ลุงเลยมาซื้อให้โดยต้องผ่อนชำระคืนทุถกๆเดือน
ผมทำงานร้านคอมได้เงินวันละประมาณ 350 - 450 บาท ทำเดือนนึงประมาณ 10 -12 วันก็ได้เดือนๆ 5,000 - 6,500 จนวันนึงได้รับมอบหมายจากเจ้าของร้านให้ออกแบบตู้โชว์เพื่อไปขอการสนับสนุน จากบริษัท (ขอตู้ฟรีนะละครับ) ระหว่างนั่งทำก็มีลูกค้ามาประกอบคอมเห็นผมทำ 3D ได้เลยชักชวนให้ทำ Freelance คุยไปคุยมาผมเลยขอเค้าไปฝึกงานเพราะที่มหาลัยอีก 4 เดือนจะมีการสหกิจ พอถึงเวลาผมก็ไปฝึก ไปทั้งๆที่ไม่มีความรู้การตกแต่งภายในเลย ไปซึมซับการทำภาพ Perspective การเขียน Drawing เวลาก็ผ่านไป 3 เดือน ออกมาจากการฝึกงานครังนี้ผมก็พอทำ 3D ได้มากขึ้น ระหว่างนั้นก็ยังทำร้านคอมประปราย จนขึ้นปี 4 ร้านคอมที่ทำอยู่ที่เกิดสภาวะขาดดุลทางการค้าจึงปิดกิจการร้าน ผมจึงต้องหางานใหม่เพื่อจะได้ประครองชีพได้เหมือนเดิม โชคดีตรงที่เจ้าของบริษัทที่ผมเคยฝึกงานโทรมาตามให้ไปซ่อมคอม คุยไปคุยมา ช่วงนั้นแกขาด โฟร์แมน แกเลยให้ผมไปช่วย ช่วงปี 4 ผมจะเรียนแค่ 2 วัน/สัปดาห์ เจ้าของก็ใจดีให้ไปเรียน โดยให้เงินเดือน เดือนละ 10,000 คราวนี้ประสบการณ์เต็มๆครับ 4 เดือนที่ทำงานได้รู้อะไรเยอะมาก คุมงานดูหน้างาน ทำแบบ ไม่มีพี่เค้าผมก็ไม่มีวันนี้นะครับ
จนวันนึงเกิดมีปัญหาผิดใจกัยเมียเจ้าของ ผมเลยออกมา มาตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ ระหว่างนั้นผมเริ่มมี Job ออกแบบ BOOTH มาเป็นค่าครองชีพโดยไม่ต้องไปทำงานตามร้าน
จุดหักเหที่ทำให้ผมแทบล้มคือ THESIS ตอนแรกเริ่มทำใช้เงินไม่เยอะครับ ทำไปทำมา ใช้เงินร่วม 35,000
ผมจะไปหาจากไหนละครับ ผมเลยลองพยายามหาวิธี มีเพื่อนคนนึงเป็นพริตตี้งานค่อนข้างเยอะไม่มีเวลาทำ Thesis
ก็เลยจ้างผมทำ ตั้งแต่ออกแบบ ยัน Present เลยครับ ( 3D และ Drawing )
เลยเห็นหนทาง สรุปผมรับทำไปทั้งหมด 7 งานครับ ได้เงินมาทั้งหมด เกือบ 25,000
ได้ทุนมหาลัยมาอีก 5,000 ยืมเพื่อนอีก 5,000 เลยรอดตัวไปครับ
จากนี้ผมจะเข้าสู่โหมดการทำงาน เหมืนคนทั่วไปครับ ผมเริ่มทำงานตอน 22 (ผมเก็บเงิน 5 ล้านในเวลา 3 ปี อย่างไร?)
[แรงบันดาลใจ]จากความฝันสู่ความจริง (มีเงิน 5 ล้านก่อนอายุ 25)
ทุกอย่างไม่จำเป็น ต้องมีเงินทุน หรือ มีความพร้อมเสมอไปครับ ทุกอย่างอยู่ที่โอกาศความตั้งใจ และความพยายามครับ
(ตอนนี้ผม 24 ครับ มากราคม นี้ก็จะ 25)
ผมเป็นคนนึงครับที่บ้านมีฐานะค่อนข้างไปในทิศทางที่เกือบจะลำบาก ผมขออนุญาตนะครับ เริ่มจากสมัยมัธยมเลยครับ บ้านผมเกิดการล้มละลายของคุณแม่ เราจึงขายรถ ขายบ้าน ย้ายหนีหนี้จากย่านนนทบุรี มาสู่จังหวัดปทุมธานี (ผมเรียนหอวังนนทบุรีครับเลยย้ายมาใกล้โรงเรียนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย) จากเด็กที่มีคนขับรถมารับ-มาส่ง กลายเป็นผมต้องเริ่มกลับบ้านด้วยตัวเอง จากครอบครัวที่ใช้เงินไม่คิดหน้าคิดหลัง ต้องมานั่งกินข้าวน้ำพริก - ไข่เจียว ทุกวันครับ ชีวิตช่วงเรียน ม.ต้น และ ม.ปลาย ผมลำบากพอสมควรเลยครับ ผมทำงานช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน โดยการขายขนมจีบ หน้าคอนโด เสาร์-อาทิตย์หยุดเรียนก็ไปทำงานเป็นกรรมกร (แบกดินแบกทราย) , ลวกก๋วยเตี๊ยว , ได้วันละ 100 -150 บาท เอาเงินมากินขนม ไปโรงเรียนบ้างครับ ตามวาระ ตามสภาพ จนผ่านชีวตช่วงมัธยม ระหว่างมัธยม ผมได้ไปเรียนติวศิลปะ ที่ศิลปากรครับ ไปเรียนบ้างขาดบ้าง ตามเงินที่หาได้จากการขายขนมจีบ ผมใฝ่ฝันที่จะสอบเข้าศิลปากร พอมาลองใช้ชีวิตมาเรียนพบว่า ชีวิตที่นี่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ต้องอยู่หอ ต้องมีภาระทางสังคมอีก ผมเลยตัดสินใจละทิ้ง ศิลปากร มาเรียนยังราชมงคล (โชติเวช) ระหว่างเรียนผมก็ทำงาน ไปด้วยเรียนไปด้วยครับช่วงปี 1 ผมเห็นความเหน็ดเหนื่อยของคุณแม่ที่ยังไงก็ไม่ยอมให้ลูกมีหนี้สิน ไม่ยอมให้ลูกยืมเงินจาก กยส. ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้เรียน ผมจึงตัดสินใจ เรียนบ้างโดดบ้าง ทำงานผสมๆกันไป ซึ่งการทำงานของผมได้โอกาศ จาก พี่คนหนึ่ง พี่เค้าเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์ที่พันธ์ทิพย์ ผมจึงไปทำงานเป็นเด็กขายของ ทำจนเริ่ม จัด Spec คอม ไปสู่ประกอบคอม และซ่อมเป็นในที่สุด ระหว่างนั้นเป็นช่วงที่มหาลัยมีการเรียนการสอนโปรแกรม 3D MAXS ผมตั้งใจมากในช่วงนั้น เพราะมีคนบอกมาตลอดว่า ทำ 3D ได้เงินเยอะ ผมก็หมั่นฝึกฝนกับคอมเครื่องเก่าสมัยโบราณที่บ้าน จนสุดท้ายไปขอที่เจ้าของร้านผ่อนคอม แต่เจ้าของไม่ให้ครับ เลยไปขอลุง (ญาติพี่น้องคุณแม่มีเงินมีทองกันทุกคนครับ แต่คุณแม่เป็นคนมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่เอาคือไม่เอา) ลุงเลยมาซื้อให้โดยต้องผ่อนชำระคืนทุถกๆเดือน
ผมทำงานร้านคอมได้เงินวันละประมาณ 350 - 450 บาท ทำเดือนนึงประมาณ 10 -12 วันก็ได้เดือนๆ 5,000 - 6,500 จนวันนึงได้รับมอบหมายจากเจ้าของร้านให้ออกแบบตู้โชว์เพื่อไปขอการสนับสนุน จากบริษัท (ขอตู้ฟรีนะละครับ) ระหว่างนั่งทำก็มีลูกค้ามาประกอบคอมเห็นผมทำ 3D ได้เลยชักชวนให้ทำ Freelance คุยไปคุยมาผมเลยขอเค้าไปฝึกงานเพราะที่มหาลัยอีก 4 เดือนจะมีการสหกิจ พอถึงเวลาผมก็ไปฝึก ไปทั้งๆที่ไม่มีความรู้การตกแต่งภายในเลย ไปซึมซับการทำภาพ Perspective การเขียน Drawing เวลาก็ผ่านไป 3 เดือน ออกมาจากการฝึกงานครังนี้ผมก็พอทำ 3D ได้มากขึ้น ระหว่างนั้นก็ยังทำร้านคอมประปราย จนขึ้นปี 4 ร้านคอมที่ทำอยู่ที่เกิดสภาวะขาดดุลทางการค้าจึงปิดกิจการร้าน ผมจึงต้องหางานใหม่เพื่อจะได้ประครองชีพได้เหมือนเดิม โชคดีตรงที่เจ้าของบริษัทที่ผมเคยฝึกงานโทรมาตามให้ไปซ่อมคอม คุยไปคุยมา ช่วงนั้นแกขาด โฟร์แมน แกเลยให้ผมไปช่วย ช่วงปี 4 ผมจะเรียนแค่ 2 วัน/สัปดาห์ เจ้าของก็ใจดีให้ไปเรียน โดยให้เงินเดือน เดือนละ 10,000 คราวนี้ประสบการณ์เต็มๆครับ 4 เดือนที่ทำงานได้รู้อะไรเยอะมาก คุมงานดูหน้างาน ทำแบบ ไม่มีพี่เค้าผมก็ไม่มีวันนี้นะครับ
จนวันนึงเกิดมีปัญหาผิดใจกัยเมียเจ้าของ ผมเลยออกมา มาตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ ระหว่างนั้นผมเริ่มมี Job ออกแบบ BOOTH มาเป็นค่าครองชีพโดยไม่ต้องไปทำงานตามร้าน
จุดหักเหที่ทำให้ผมแทบล้มคือ THESIS ตอนแรกเริ่มทำใช้เงินไม่เยอะครับ ทำไปทำมา ใช้เงินร่วม 35,000
ผมจะไปหาจากไหนละครับ ผมเลยลองพยายามหาวิธี มีเพื่อนคนนึงเป็นพริตตี้งานค่อนข้างเยอะไม่มีเวลาทำ Thesis
ก็เลยจ้างผมทำ ตั้งแต่ออกแบบ ยัน Present เลยครับ ( 3D และ Drawing )
เลยเห็นหนทาง สรุปผมรับทำไปทั้งหมด 7 งานครับ ได้เงินมาทั้งหมด เกือบ 25,000
ได้ทุนมหาลัยมาอีก 5,000 ยืมเพื่อนอีก 5,000 เลยรอดตัวไปครับ
จากนี้ผมจะเข้าสู่โหมดการทำงาน เหมืนคนทั่วไปครับ ผมเริ่มทำงานตอน 22 (ผมเก็บเงิน 5 ล้านในเวลา 3 ปี อย่างไร?)