เกือบสุดทาง ...... คม คิด ฅน เขียน .. “เขื่อนขันธ์” เดลินิวส์ออนไลน์

กระทู้สนทนา
ปรับแนวทางการเคลื่อนไหว มาใช้แนวทางเดินสายแจงแนวทาง “ปฏิรูปประเทศ” ของ
“กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส. หวังแจงเป้าหมาย


ปรับแนวทางการเคลื่อนไหว มาใช้แนวทางเดินสายแจงแนวทาง “ปฏิรูปประเทศ” ของ
“กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส. หวังแจงเป้าหมายกับกลุ่มต่าง ๆ แม้กระทั่ง
กองทัพ ยอมถึงขั้นกวักมือเรียกคนเสื้อแดง ให้เข้าร่วมเขียนบทอนาคตประเทศใหม่

ข่าววงในแพลมออกมาว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ครั้งนี้ คงจะมาจากการหารือของระดับปรมาจารย์
ด้านกฎหมาย เนื่อง จากมีข้อสรุปตรงกันว่า ไม่ว่าจะใช้ ข้อกฎหมายอะไรก็ตาม ไม่สามารถกดดันให้
“น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” พ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ได้ ดังนั้นถ้า กปปส. จะเลือกเล่นเกมยาว
จัดกิจกรรมชุมนุมต่อไป จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ เลยต้องหาแนวร่วมมาช่วยสนับสนุน
มวลหมู่มหาประชาชน ให้มากที่สุด

ต้องยอมรับว่า การเคลื่อนไหวของแนวร่วม กปปส. หวังขุดรากถอนโคน ’ระบอบทักษิณ“ นอกจาก
จะปลุก “ไทยเฉย” ให้เป็น “ไทยสู้” ทำให้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องถูกยับยั้งไว้ชั่วคราว
“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เลยต้องสั่งให้น้องสาวสุดที่รักยอมถอย ตัดสินใจ “ยุบสภา” ส่งผลให้
พ.ร.ก.บริหารจัดการระบบน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน ถูกแช่แข็งไป
โดยปริยาย

ยิ่งวันนี้บรรดา นิสิต นักศึกษา นักธุรกิจ นักวิชาการ และภาคประชาชน สาขาอาชีพต่าง ๆ กล้าเปิด
หน้าท้าชนกับคนคุมอำนาจรัฐ ยอมแสดงตนเลือกข้าง จนทำให้ “พรรคเพื่อไทย” กลายเป็นปัญหา
ของประเทศ ถูกตั้งคำถามเพราะสร้างเงื่อนไขหลายประเด็น ทั้งออกกฎหมายล้างผิด แก้รัฐธรรมนูญ
เพื่อประโยชน์ของตนเอง เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นช่วงเป็นฝ่ายบริหาร

แม้มวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหว ยังไม่มากพอ ที่จะแปรสภาพ ให้กลายเป็นรูปแบบ “ปฏิวัติประชาชน”
ได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปยึดสถานที่ราชการทั้งหมด ให้เกิดภาวะอัมพาตต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
ได้อย่างถาวร แต่ก็ช่วยจุดประกายให้คนในประเทศรู้ว่า การเมือง ไม่ใช่เป็นเรื่องของ นักเลือกตั้ง
เพียงเท่านั้น


ส่วนที่มีนักวิชาการบางกลุ่ม ซึ่งยอมตกเป็นข้าทาสบริวาร ’นายใหญ่“ อ้างว่า การเลือกตั้ง
วันที่ 2 ก.พ. 57 ต้องเดินหน้า ไม่ต้องรอให้จัดระเบียบประเทศ กลับไม่มีน้ำหนักให้สังคมส่วนใหญ่
คล้อยตาม คงเป็นเพราะพฤติกรรมและท่าทีก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเสนอให้ แก้ไขกฎหมายอาญา
มาตรา 112 หวังทำให้สถาบันอ่อนแอ กล้าคิดถึงห้ามไม่ให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมี
พระราชดำรัสกับประชาชน

รวมทั้งยังเคยสนับสนุนให้รัฐบาลผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีเนื้อหาเช่นเดียวกับข้อเสนอของ
“นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์” สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่แปรญัตติล้างผิดเลยเถิด ไปถึงลบล้างคำพิพากษา
ของ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนกลายเป็นจุดเริ่มของวิกฤติศรัทธา
ของฝ่ายบริหาร

และจะกลายเป็น เงื่อนไขสำคัญ และก่อให้เกิดผลกระทบกับ “พรรคเพื่อไทย” แม้ว่า “นายกฯ ยิ่งลักษณ์”
จะเล่นบทยื้อ ขอทำงานในฐานะบริหารอยู่ต่อไป จนถึงวันเลือกตั้ง เพราะมีข่าวว่า กปปส. จะเดินหน้า
ชุมนุมต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อเปิดโปงความล้มเหลวของฝ่ายบริหาร

ใช้ยุทธศาสตร์ให้มวลชนสลับหมุนเวียนมาร่วมชุมนุม เพื่อจับตามองการใช้อำนาจรัฐ ทำให้เกิดการ
เสียเปรียบได้เปรียบในการเลือกตั้ง หรือหวังใช้ “รัฐตำรวจ” เข้าไปช่วยพรรคเพื่อไทย อย่างโจ่งแจ้ง

ยิ่งบทบาทของกองทัพ กำลังถูกจับตามองว่า ’เหยียบเรือสองแคม“ หวังได้ประโยชน์ความขัดแย้ง
ของประชาชน หาก “คนเสื้อแดง” เกิดปะทะกับ “กลุ่มต่อต้านระบบทักษิณ” จะขอรับบทอัศวินขี่ม้าขาว
เข้ามายุติความขัดแย้ง ผลักดันพี่ใหญ่ของ “บูรพาพยัคฆ์” ให้เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ได้แต่หวังว่า ผู้มีบทบาทสำคัญในบ้านเมือง คงไม่ปล่อยให้ ชาติบ้านเมืองพังไปต่อหน้าต่อตา เพื่อ
หวังเข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เพราะ คนไทย คงรับพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ได้จริง ๆ.



http://www.dailynews.co.th/Content/Article/201484/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87

"เกือบสุดทาง"   เพราะสุดทางก็คิอ  "เพลงมาร์ช"  
นั่นคือการรอคอยของมวลมหาประชาชน
นั่นคือ รันเวย์  ที่เป็นทางลงของมวลมหาประชาชน
"เขื่อนขันธ์"  เองก็รอคอย  "เพลงมาร์ช"  เพราะเขาฝากความหวังไว้ใน
ย่อหน้าสุดท้ายของ  บทความนี้  

เมื่อมีมวลมหาประชาชน สนับสนุนทั้งประเทศ แบบประกาศแล้วประกาศอีก
กลัวไปทำไมกับการเลือกคั้ง  สภาประชาชน  ตั้งได้ไม่ยาก  เมื่อชนะการเลือกตั้ง
เขียนรธน.ใหม่ทั้งฉบับ  ปฏิรูปอะไรก็ได้  ที่ต้องการ  ทำไมต้องมาข่มขืน  คนที่เขา
ไม่ต้องการด้วย  ...
ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่