หากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์การก่อกบฏของแต่ละภูมิภาค ต้องยอมรับว่าผืนแผ่นดินไทยในเชิงรัฐศาสตร์(การเมือง)ยังถูกรวมกันไม่สนิท ปัญหาชายแดนที่ภาคใต้คือตัวอย่าง ประเทศไทยกว่าจะเป็น “ขวานทอง” รัฐและแว่นแคว้นที่เป็นอิสระหรือจากอาณาจักรอื่นถูกผนวกช่วงต้นและช่วงกลางยุครัตนโกสินทร์นี่เอง....อย่างรัฐปัตตานีที่พยายามเรียกร้องอิสระคืนอยู่ทุกวันนี้ หรือ “กบฏเงี้ยว” (สมัยร.๕) ในเมืองแพร่ที่ลุกลามถึงเมืองน่านที่อดีตเคยเป็นแว่นแคว้นอิสระ หรือแม้แต่ “กบฏผีบุญ” ที่อย่างน้อยๆ เกิดขึ้นสามครั้งในภาคอีสานและครั้งสุดท้ายเกือบจะสำเร็จเมื่อยกไพร่พลทั่วอีสานรุกมาถึงโคราช(ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่าไทยหวุดหวิดจะต้องเสียดินแดนคืนให้เขมรและลาว ด้วยเพราะมีเงาฝรั่งเศสหนุนหลังกฏบผีบุญอยู่)
ทั้งกบฏผีบุญ กบฏเงี้ยวนั้น หนึ่งในสาเหตุหลักก็มาจากการที่ถูกกลุ่มคนจากส่วนกลางดูถูกเหยียดหยาม มีบันทึกไว้ในจดหมายจาก “คนชั้นสูง” ถึง “คนชั้นสูง” ด้วยกันว่า “อย่าไปไว้ใจลาวพวกนี้ มันเปรี้ยวนัก” อย่างที่บอกไว้...ที่ภาคอีสานอย่างน้อยๆ ก็มีการรวมตัวกันเป็นกบฏเรียกความความเป็นไทยอิสระจากกรุงเทพฯ ถึงสามครั้ง....ส่วนภาคใต้นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะยังมีการพยายามอยู่ทุกวันนี้ ภาคเหนือก็กบฏเงี้ยว.....
ตอนนี้ พฤติกรรม ถ้อยคำ และการแสดงออกของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคนดี ผู้ดี ผู้มีการศึกษา หรืออะไรอีกร้อยแปดที่ใช้เรียกตัวเองเพื่อสร้างความรู้สึกที่แบ่งแยกชาติพันธุ์ ชาติกำเนิด และถิ่นกำเนิดของคนไทยด้วยกันเองกำลังจะสกิด “บาดแผล” ในอดีตที่กำลังจะแห้งให้เจ็บปวดกันมาอีกครั้ง ไม่อยากจะนึกว่า....ถ้าเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กบฏผีบุญ กบฏเงี้ยวก่อตัวขึ้นที่ภาคอีสานและภาคเหนืออีก อะไรจะเกิดขึ้น??? สมัยก่อน...นั้นเป็นระบอบสมบูรณ์ฯ ที่สามารถตัดหัวใครต่อใครได้การปราบกบฏจึงสำเร็จ แต่สมัยนี้คงไม่ง่าย.......ภาวนาว่าอย่าให้เกิดเลย เพราะแค่เหตุการณ์ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยก็เสียเลือดเสียเนื้อมามากพอแล้ว........หยุดเสียทีเถอะ พวกผู้ดีทั้งหลาย พวกผู้มีการศึกษาทั้งหลาย และคนกรุงเทพฯ(ส่วนหนึ่ง) หยุดดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเสียที ถ้าหากพวกเขารู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว.....แล้วมีการลุกฮือขึ้นมาเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน คราวนี้....”ขวานทอง” คงจะไม่ร้อนระอุเฉพาะด้ามแน่ๆ.........
.....ฤา "ขวานทอง" จะถูกทำให้ร้อนระอุทั้งด้ามทั้งตัวขวาน??????.....
ทั้งกบฏผีบุญ กบฏเงี้ยวนั้น หนึ่งในสาเหตุหลักก็มาจากการที่ถูกกลุ่มคนจากส่วนกลางดูถูกเหยียดหยาม มีบันทึกไว้ในจดหมายจาก “คนชั้นสูง” ถึง “คนชั้นสูง” ด้วยกันว่า “อย่าไปไว้ใจลาวพวกนี้ มันเปรี้ยวนัก” อย่างที่บอกไว้...ที่ภาคอีสานอย่างน้อยๆ ก็มีการรวมตัวกันเป็นกบฏเรียกความความเป็นไทยอิสระจากกรุงเทพฯ ถึงสามครั้ง....ส่วนภาคใต้นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะยังมีการพยายามอยู่ทุกวันนี้ ภาคเหนือก็กบฏเงี้ยว.....
ตอนนี้ พฤติกรรม ถ้อยคำ และการแสดงออกของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าคนดี ผู้ดี ผู้มีการศึกษา หรืออะไรอีกร้อยแปดที่ใช้เรียกตัวเองเพื่อสร้างความรู้สึกที่แบ่งแยกชาติพันธุ์ ชาติกำเนิด และถิ่นกำเนิดของคนไทยด้วยกันเองกำลังจะสกิด “บาดแผล” ในอดีตที่กำลังจะแห้งให้เจ็บปวดกันมาอีกครั้ง ไม่อยากจะนึกว่า....ถ้าเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กบฏผีบุญ กบฏเงี้ยวก่อตัวขึ้นที่ภาคอีสานและภาคเหนืออีก อะไรจะเกิดขึ้น??? สมัยก่อน...นั้นเป็นระบอบสมบูรณ์ฯ ที่สามารถตัดหัวใครต่อใครได้การปราบกบฏจึงสำเร็จ แต่สมัยนี้คงไม่ง่าย.......ภาวนาว่าอย่าให้เกิดเลย เพราะแค่เหตุการณ์ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยก็เสียเลือดเสียเนื้อมามากพอแล้ว........หยุดเสียทีเถอะ พวกผู้ดีทั้งหลาย พวกผู้มีการศึกษาทั้งหลาย และคนกรุงเทพฯ(ส่วนหนึ่ง) หยุดดูถูกเหยียดหยามคนไทยด้วยกันเสียที ถ้าหากพวกเขารู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว.....แล้วมีการลุกฮือขึ้นมาเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน คราวนี้....”ขวานทอง” คงจะไม่ร้อนระอุเฉพาะด้ามแน่ๆ.........