สวัสดียามเช้าวันสุข สุขแห่งชาติ สุดสัปดาห์ ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call option
เมื่อวานนี้ SET index แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้า และ บ่าย แต่พอมาช่วงท้ายตลาด
บ่ายสามโมง เป็นต้นไป เริ่มมีแรงเทขายออกมา อย่างหนัก นำโดย สามกลุ่มหลักๆ พลังงาน สื่อสาร ธนาคาร
เนื่องจาก นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงกังวลสถานการณ์การชุมนุมทางเมืองภายในประเทศ ที่ค่อนข้างยืดเยื้อ และ ปัจจัยต่างประเทศ
ที่นักลงทุนกังวลว่า ธนาคาร กลางสหรัฐ อาจจะ ลดวงเงินในนโยบาย QE เร็วๆ นี้ ทำให้ SET index ไหลร่วงลงมากว่า 10 จุด
และปิดไปที่ระดับ 1356 จุด -13 จุด วันนี้มา ติดตามกันต่อว่า จะสามมารถกลับมาฟื้นตัว ได้หรือไม่ ?
Fundamental "เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 15,316.89 จุด ลดลง 24.93 จุด หรือ -0.16%
เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเหนือกรอบ
103 เยน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ
เพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้า
ประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์
ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลาย
เชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,739.43 จุด ร่วงลง 104.10 จุด หรือ -0.66%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,998.40 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.14%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,775.50 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.38%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะปรับลดขนาด QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่ม
ขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน
เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้าประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยาย
ตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับ QE ของเฟดยังมีขึ้นหลังจากผู้นำการเจรจางบประมาณในสภา
คองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าว
จะกำหนดระดับการใช้จ่ายสำหรับรัฐบาลกลางในอีก 2 ปีข้างหน้า และจะยุติมาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า sequester
บางส่วน ในอีก 2 ปีข้างหน้าเช่นกัน
-หุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วงลง 2.8% หลังจากอาร์บีเอส แคปิตอล มาร์เก็ต ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว พร้อมกับปรับ
ลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทออราเคิลลงด้วย
-หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ ปรับตัวลง 1.8% หลังจากผู้บริหารของบริษัทได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อแนวโน้มผลประกอบการ อันเนื่องมาจาก
การชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
-หุ้นเฟซบุ๊กดีดตัวขึ้น 5% ขณะที่หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 7.5% ปิดที่ 21.50 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคา IPO
*นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์
คาดว่า ดัชนี PPI เดือนพ.ย.จะทรงตัว และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยตลาดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจ
ที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 310.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,069.12 จุด ลดลง 17.74 จุด หรือ -0.43%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,017.00 จุด ลดลง 60.11 จุด หรือ -0.66%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,445.25 จุด ลดลง 62.47 จุด หรือ -0.96%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะลดขนาด QE ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาด
คาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า
จะเพิ่มขึ้น 0.6% และยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติยุโรปหรือยูโรสแตทเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนร่วงลง 1.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งส่วนทาง
กับการคาดการณ์ที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 0.3%
-หุ้นเปอร์โยต์ ร่วงลง 7.6% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง
-หุ้นเมโทร เอจี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่แข็งแกร่งในปี 2557
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis : S50Z13 TF day เมื่อวานนี้ ยังคง แกว่งตัวในกรอบแคบๆ (933-924)
ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนนำ แต่ ยังโดน สถานการณ์การชุมภายในประเทศ กดดันไว้อยู่ แนวโน้มยังคงมองลง
ลุ้นฟื้นตัวใหม่แถวๆ 915 Fibo 38.2% หรือ ลงไปปิด Gap 911 เสียก่อน ถ้าไม่สามารถฟื้นตัวได้ มีโอกาสลงไปหา
900 ต้นๆ หรือต่ำกว่า ก็เป็นได้
TF60 เมื่อวานนี้ ค่อยๆ Sideway Down ตามคาด และแกว่งตัวต่ำกว่า EMA25 วัน จนช่วงท้ายตลาด
เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ ปิดหลุด "Support Line" ลงมา ซึ่งทำให้ภาพรวมดูแย่ลงไปอีก
มีโอกาสที่จะไหลร่วง ลงมาแรงๆ ก็เป็นได้ / ดังนั้น แนวโน้มวันนี้ ลงต่อ
Resistance 930 935
Support 920 915 911 905
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
พี่ๆ น้องๆ ท่านใดมี iDea เจ๋งๆ เชิญขนมาแชร์กันได้ ครับ / สายจินตนาการ เล่นสั้น เล่นยาว
*สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (13 Dec 13)
สวัสดียามเช้าวันสุข สุขแห่งชาติ สุดสัปดาห์ ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call option
เมื่อวานนี้ SET index แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงเช้า และ บ่าย แต่พอมาช่วงท้ายตลาด
บ่ายสามโมง เป็นต้นไป เริ่มมีแรงเทขายออกมา อย่างหนัก นำโดย สามกลุ่มหลักๆ พลังงาน สื่อสาร ธนาคาร
เนื่องจาก นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงกังวลสถานการณ์การชุมนุมทางเมืองภายในประเทศ ที่ค่อนข้างยืดเยื้อ และ ปัจจัยต่างประเทศ
ที่นักลงทุนกังวลว่า ธนาคาร กลางสหรัฐ อาจจะ ลดวงเงินในนโยบาย QE เร็วๆ นี้ ทำให้ SET index ไหลร่วงลงมากว่า 10 จุด
และปิดไปที่ระดับ 1356 จุด -13 จุด วันนี้มา ติดตามกันต่อว่า จะสามมารถกลับมาฟื้นตัว ได้หรือไม่ ?
Fundamental "เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 15,316.89 จุด ลดลง 24.93 จุด หรือ -0.16%
เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนีนิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเหนือกรอบ
103 เยน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ
เพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้า
ประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์
ปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลาย
เชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,739.43 จุด ร่วงลง 104.10 จุด หรือ -0.66%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,998.40 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือ -0.14%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,775.50 จุด ลดลง 6.72 จุด หรือ -0.38%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเฟดจะปรับลดขนาด QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่ม
ขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน
เนื่องจากยอดขายยานยนต์และสินค้าประเภทอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยาย
ตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจแล้ว ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับ QE ของเฟดยังมีขึ้นหลังจากผู้นำการเจรจางบประมาณในสภา
คองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.แล้ว โดยข้อตกลงดังกล่าว
จะกำหนดระดับการใช้จ่ายสำหรับรัฐบาลกลางในอีก 2 ปีข้างหน้า และจะยุติมาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า sequester
บางส่วน ในอีก 2 ปีข้างหน้าเช่นกัน
-หุ้นออราเคิล คอร์ป ร่วงลง 2.8% หลังจากอาร์บีเอส แคปิตอล มาร์เก็ต ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว พร้อมกับปรับ
ลดเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัทออราเคิลลงด้วย
-หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ ปรับตัวลง 1.8% หลังจากผู้บริหารของบริษัทได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อแนวโน้มผลประกอบการ อันเนื่องมาจาก
การชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่
-หุ้นเฟซบุ๊กดีดตัวขึ้น 5% ขณะที่หุ้นฮิลตัน เวิล์ดไวด์ โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 7.5% ปิดที่ 21.50 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคา IPO
*นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์
คาดว่า ดัชนี PPI เดือนพ.ย.จะทรงตัว และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยตลาดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจ
ที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 310.24 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,069.12 จุด ลดลง 17.74 จุด หรือ -0.43%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,017.00 จุด ลดลง 60.11 จุด หรือ -0.66%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,445.25 จุด ลดลง 62.47 จุด หรือ -0.96%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะลดขนาด QE ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่ตลาด
คาดการณ์ไว้ โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า
จะเพิ่มขึ้น 0.6% และยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติยุโรปหรือยูโรสแตทเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนร่วงลง 1.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งส่วนทาง
กับการคาดการณ์ที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 0.3%
-หุ้นเปอร์โยต์ ร่วงลง 7.6% เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับยอดขายรถยนต์ที่ชะลอตัวลง
-หุ้นเมโทร เอจี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของเยอรมนี พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ยอดขายที่แข็งแกร่งในปี 2557
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis : S50Z13 TF day เมื่อวานนี้ ยังคง แกว่งตัวในกรอบแคบๆ (933-924)
ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ๆ มาหนุนนำ แต่ ยังโดน สถานการณ์การชุมภายในประเทศ กดดันไว้อยู่ แนวโน้มยังคงมองลง
ลุ้นฟื้นตัวใหม่แถวๆ 915 Fibo 38.2% หรือ ลงไปปิด Gap 911 เสียก่อน ถ้าไม่สามารถฟื้นตัวได้ มีโอกาสลงไปหา
900 ต้นๆ หรือต่ำกว่า ก็เป็นได้
TF60 เมื่อวานนี้ ค่อยๆ Sideway Down ตามคาด และแกว่งตัวต่ำกว่า EMA25 วัน จนช่วงท้ายตลาด
เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา จนทำให้ ปิดหลุด "Support Line" ลงมา ซึ่งทำให้ภาพรวมดูแย่ลงไปอีก
มีโอกาสที่จะไหลร่วง ลงมาแรงๆ ก็เป็นได้ / ดังนั้น แนวโน้มวันนี้ ลงต่อ
Resistance 930 935
Support 920 915 911 905
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
พี่ๆ น้องๆ ท่านใดมี iDea เจ๋งๆ เชิญขนมาแชร์กันได้ ครับ / สายจินตนาการ เล่นสั้น เล่นยาว
*สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ