ทริปนี้จะแบกจักรยานขึ้นรถไฟแล้วไปปั่นเที่ยวกัน ปั่นไม่ไกลมากนัก เราเน้นเที่ยวมากกว่าระยะทาง ถนนเรียบ วิวสวยงาม รถน้อย ปั่นสบายๆความเร็วประมาณ 20 ก.ม./ช.ม.(ความเร็วน้อยกว่านี้ก็ยังทัน) จักรยานทุกชนิดไปได้ จำเป็นต้องพึ่งรถไฟ ขบวนรถเร็ว เพราะมีตู้สัมภาระ
แผ่นที่เส้นทาง
http://bit.ly/1cAbil9

สองวันรวมปั่นเล่นด้วยได้ระยะทาง 120 ก.ม.
วันแรก
6.15 น. พร้อมกันที่หัวลำโพง (หรือดักขึ้นรถไฟสถานีไหนก็ได้ที่รถจอด เช่น บางซื่อ, รังสิต) ซื้อตั๋วสำหรับคนก่อนคนละ 60 บาท แล้วเข็นจักรยานไปจุดรับสัมภาระ คันละ 90 บาท แล้วไปรอยกจักรยานขึ้นตู้สัมภาระ
6.40 น. ออกเดินทางด้วยรถเร็วขบวน 135 ออกจากหัวลำโพง 6.40 น. ถึงชุมทางแก่งคอย 9.22 น. (ออกตรงเวลาแต่ถึงช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย) เตรียมตัวก่อนถึงที่หมายไปอยู่ใกล้ๆตู้สัมภาระ เพราะรถไฟจอดแป๊บเดียว ยกลงมาแล้วก็ตรวจเช็คจักรยานให้เรียบร้อยพร้อมปั่น
9.45 น. ชุมทางแก่งคอย - ทุ่งทานตะวัน ท่าคล้อ 11 ก.ม. ปั่นออกมาตรงๆจากหน้าสถานีรถไฟข้ามสะพาน เลี้ยวซ้ายแล้วปั่นตรงตามถนนหลักเรื่อยๆ เนื่องจากปีนี้ท่าคล้อยังไม่เริ่มปลูกทานตะวันเลยมีแต่ทุ่งข้าวโพดให้ดู เลี้ยวซ้ายหน้าวัดท่าศาลา (อย่าไปตามป้ายที่ชี้ไปเขื่อนป่าสัก เพราะป้ายพาไปทางอ.วังม่วง ขากลับของเรา) แล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ

นี่คือทุ่งปอเทือง เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน สวยดี ดอกเล็กๆสีเหลือ ต้นเหมือนเอากิ่งไม้ไปปักลงดิน
11.00 น. ทุ่งทานตะวันท่าคล้อ - ทุ่งทานตะวัน หินซ้อน 11 ก.ม. เลยโรงงานที่เป็นโดมตรงไปนิดนึงจะเห็นทุ่งทานตะวันอยู่ทางขวามือ กว้างใหญ่มาก มีรถไฟแล่นผ่านด้านหลังด้วย (ททท.มีจัดทริปนั่งรถไฟชมด้วย ขบวนเดียวกับที่เรามานี่แหละ แต่นั่งรถไฟตลอดทริป ไม่ต้องปั่นจักรยาน เริ่ม 14 ธ.ค.)

ทุ่งทานตะวันนี้ไม่มีคนเฝ้า เข้าไปชมได้ฟรี^^
12.00 น. ทุ่งทานตะวัน - เขื่อนป่าสัก 21 ก.ม. สองข้างทางจะเห็นทุ่งทานตะวันเป็นระยะๆ พอใกล้เขื่อนป่าสักจะเห็น 2 ทุ่งที่มีการออกร้านขายของด้านหน้า และเก็บค่าเข้าไปถ่ายรูป 10 บาท
13.30 น. กางเต๊นท์นอนเขื่อนป่าสัก 1 คืน มาถึงเขื่อนปั๊บให้รีบไปจองจุดกางเต๊นท์ทันดี เพราะช่วงหนาวๆคนเยอะมาก กางเต๊นท์ติดกันเรียงยาวตลอดแนว มาช้าก็อดได้ที่ริมน้ำ ต้องกางบนสนามหญ้าเอา จุดกางเต๊นท์หาไม่ยาก มีป้ายบอก
อยู่ที่เขื่อนไม่ต้องกลัวอดตาย เพราะมีของขาย คืนวันเสาร์มีตลาดนัดถนนคนเดิน ขายถึง 4 ทุ่ม ด้านหน้าเขื่อนก็มีร้านอาหารเพียบ
16.00 น. กางเต๊นท์เสร็จปลดสัมภาระให้รถเบาๆแล้วปั่นเล่นบนสันเขื่อนกัน ข้ามไปไหว้พระอีกฝั่งหนึ่ง ปกติบนสันเขื่อนเขาจะไม่ให้รถยนต์วิ่ง(เพราะเขาจะให้นักท่องเที่ยวนั่งรถบริการของเขื่อน) แต่จักรยานปั่นเข้าไปได้เลย
ถ้ามาปั่นฝั่งด้านหน้าเขื่อนเลี้ยวไปด้านขวามือไปสุดทาง จะมีจุดที่เห็นรถไฟวิ่งผ่านน้ำ ถ้ามาตรงช่วงตารางเวลารถไฟนะ
วันที่ 2
7.00 น. ตื่นมาปั่นเล่นรอบเขื่อนอีกรอบ คราวนี้ด้านล่างของเขื่อน แถวสถานีรถไฟแก่งเสือเต้น หาอะไรกิน ก่อนจะเก็บของเตรียวตัวออกเดินทาง
9.00 น. เขื่อนป่าสัก - ทุ่งทานตะวัน วังม่วง 10 ก.ม. ปั่นมุ่งหน้าอ.วังม่วง จะเห็นทุ่งทานตะวันใหญ่ๆ สวยๆ 3 ทุ่งทางขวามือ
10.00 น. ทุ่งทานตะวัน วังม่วง - อุโมงค์ต้นไม้ 8 ก.ม. ช่วงอุโมงค์ต้นไม้เนินยาวมาก ให้เข็นมากกว่าปั่น
10.30 น. อุโมงค์ต้นไม้ - น้ำตกเจ็ดสาวน้อย 12 ก.ม. พอเริ่มเห็นรีสอร์ทสวยๆแสดงว่าหมดเนินแล้ว เป็นทางลงล้วนๆ สบายเลย
12.00 น. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย - สถานีรถไฟมวกเหล็ก 10 ก.ม. จนถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อย พักกินอะไรที่นี่ แช่น้ำสัก 1 ชั่วโมง จากน้ำตกไปสถานีรถไฟมวกเหล็กปั่นครึ่งชั่วโมงก็ถึง
14.48 น. กลับด้วยรถเร็วขบวน 136 ออกจากมวกเหล็ก 14.48 ถึงหัวลำโพง 18.40 น. รถมาจะช้าประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ต้องเช็กก่อนว่าตู้สัมภาระเต็มมาตั้งแต่ต้นทางหรือเปล่า ถ้าเต็มเราก็เอาจักรยานขึ้นไม่ได้ ต้องรอเที่ยวถัดไป 17.11 น. (แต่ถ้าเป็นรถพับขึ้นได้เลย) ก็จะทำให้เราถึงหัวลำโพง 4 ทุ่ม (ใครจะลงที่ไหนลงได้ทุกสถานีที่รถไฟจอด)
สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วย
- ตรวจเช็คจักรยานให้พร้อม,
ยางในสำรอง(จำเป็นอย่างยิ่ง ใครเข็นลงข้างทางไปถ่ายรูป โอกาสยางรั่วสูง), ที่งัดยาง, ชุดปะยาง, ไฟหน้า, ไฟท้าย (เผื่อปั่นเที่ยวจนมืด)
- หมวก, ผ้าบั๊ฟ, ปลอกแขนกันร้อน,
เสื้อกันหนาว (บนเขื่อนกลางคืนหนาวใช้ได้)
- เต๊นท์+เครื่องนอน(ไม่เอาไปก็ได้ มีให้เช่าที่เขื่อนป่าสัก 280 บาท), อุปกรณ์แคมปิ้งต่างๆ,
แบตสำรองโทรศัพท์
- ชุดใส่นอน,ชุดใส่วันที่ 2,รองเท้าแตะ
- สบู่,ยาสีฟัน,แปรงสีฟัน
- เงิน(ค่ารถไฟคน+จักรยานไปกลับประมาณ 300 บาท,ค่าอาหาร,ค่ากางเต๊นท์)
ติดต่อสอบถาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานลพบุรี รับผิดชอบพื้นที่ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี โทร. 0-3677-0096 - 7
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.facebook.com/BicycleTrips
ปล.ทริปนี้เราจัดไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 7-8 ธ.ค.ที่ผ่านมา เอามารีวิวให้ดูเผื่อกลุ่มไหนจะจัดบ้าง ขออภัยที่ไม่ได้เอามาโพสต์ในนี้ก่อน^^
[CR] ทัวริ่งมือใหม่ ขึ้นรถไฟไปปั่นชุมทุ่งทานตะวัน-เขื่อนป่าสัก-อุโมงค์ต้นไม้-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย
แผ่นที่เส้นทาง
http://bit.ly/1cAbil9
สองวันรวมปั่นเล่นด้วยได้ระยะทาง 120 ก.ม.
วันแรก
6.15 น. พร้อมกันที่หัวลำโพง (หรือดักขึ้นรถไฟสถานีไหนก็ได้ที่รถจอด เช่น บางซื่อ, รังสิต) ซื้อตั๋วสำหรับคนก่อนคนละ 60 บาท แล้วเข็นจักรยานไปจุดรับสัมภาระ คันละ 90 บาท แล้วไปรอยกจักรยานขึ้นตู้สัมภาระ
6.40 น. ออกเดินทางด้วยรถเร็วขบวน 135 ออกจากหัวลำโพง 6.40 น. ถึงชุมทางแก่งคอย 9.22 น. (ออกตรงเวลาแต่ถึงช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย) เตรียมตัวก่อนถึงที่หมายไปอยู่ใกล้ๆตู้สัมภาระ เพราะรถไฟจอดแป๊บเดียว ยกลงมาแล้วก็ตรวจเช็คจักรยานให้เรียบร้อยพร้อมปั่น
9.45 น. ชุมทางแก่งคอย - ทุ่งทานตะวัน ท่าคล้อ 11 ก.ม. ปั่นออกมาตรงๆจากหน้าสถานีรถไฟข้ามสะพาน เลี้ยวซ้ายแล้วปั่นตรงตามถนนหลักเรื่อยๆ เนื่องจากปีนี้ท่าคล้อยังไม่เริ่มปลูกทานตะวันเลยมีแต่ทุ่งข้าวโพดให้ดู เลี้ยวซ้ายหน้าวัดท่าศาลา (อย่าไปตามป้ายที่ชี้ไปเขื่อนป่าสัก เพราะป้ายพาไปทางอ.วังม่วง ขากลับของเรา) แล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ
นี่คือทุ่งปอเทือง เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน สวยดี ดอกเล็กๆสีเหลือ ต้นเหมือนเอากิ่งไม้ไปปักลงดิน
11.00 น. ทุ่งทานตะวันท่าคล้อ - ทุ่งทานตะวัน หินซ้อน 11 ก.ม. เลยโรงงานที่เป็นโดมตรงไปนิดนึงจะเห็นทุ่งทานตะวันอยู่ทางขวามือ กว้างใหญ่มาก มีรถไฟแล่นผ่านด้านหลังด้วย (ททท.มีจัดทริปนั่งรถไฟชมด้วย ขบวนเดียวกับที่เรามานี่แหละ แต่นั่งรถไฟตลอดทริป ไม่ต้องปั่นจักรยาน เริ่ม 14 ธ.ค.)
ทุ่งทานตะวันนี้ไม่มีคนเฝ้า เข้าไปชมได้ฟรี^^
12.00 น. ทุ่งทานตะวัน - เขื่อนป่าสัก 21 ก.ม. สองข้างทางจะเห็นทุ่งทานตะวันเป็นระยะๆ พอใกล้เขื่อนป่าสักจะเห็น 2 ทุ่งที่มีการออกร้านขายของด้านหน้า และเก็บค่าเข้าไปถ่ายรูป 10 บาท
13.30 น. กางเต๊นท์นอนเขื่อนป่าสัก 1 คืน มาถึงเขื่อนปั๊บให้รีบไปจองจุดกางเต๊นท์ทันดี เพราะช่วงหนาวๆคนเยอะมาก กางเต๊นท์ติดกันเรียงยาวตลอดแนว มาช้าก็อดได้ที่ริมน้ำ ต้องกางบนสนามหญ้าเอา จุดกางเต๊นท์หาไม่ยาก มีป้ายบอก
อยู่ที่เขื่อนไม่ต้องกลัวอดตาย เพราะมีของขาย คืนวันเสาร์มีตลาดนัดถนนคนเดิน ขายถึง 4 ทุ่ม ด้านหน้าเขื่อนก็มีร้านอาหารเพียบ
16.00 น. กางเต๊นท์เสร็จปลดสัมภาระให้รถเบาๆแล้วปั่นเล่นบนสันเขื่อนกัน ข้ามไปไหว้พระอีกฝั่งหนึ่ง ปกติบนสันเขื่อนเขาจะไม่ให้รถยนต์วิ่ง(เพราะเขาจะให้นักท่องเที่ยวนั่งรถบริการของเขื่อน) แต่จักรยานปั่นเข้าไปได้เลย
ถ้ามาปั่นฝั่งด้านหน้าเขื่อนเลี้ยวไปด้านขวามือไปสุดทาง จะมีจุดที่เห็นรถไฟวิ่งผ่านน้ำ ถ้ามาตรงช่วงตารางเวลารถไฟนะ
วันที่ 2
7.00 น. ตื่นมาปั่นเล่นรอบเขื่อนอีกรอบ คราวนี้ด้านล่างของเขื่อน แถวสถานีรถไฟแก่งเสือเต้น หาอะไรกิน ก่อนจะเก็บของเตรียวตัวออกเดินทาง
9.00 น. เขื่อนป่าสัก - ทุ่งทานตะวัน วังม่วง 10 ก.ม. ปั่นมุ่งหน้าอ.วังม่วง จะเห็นทุ่งทานตะวันใหญ่ๆ สวยๆ 3 ทุ่งทางขวามือ
10.00 น. ทุ่งทานตะวัน วังม่วง - อุโมงค์ต้นไม้ 8 ก.ม. ช่วงอุโมงค์ต้นไม้เนินยาวมาก ให้เข็นมากกว่าปั่น
10.30 น. อุโมงค์ต้นไม้ - น้ำตกเจ็ดสาวน้อย 12 ก.ม. พอเริ่มเห็นรีสอร์ทสวยๆแสดงว่าหมดเนินแล้ว เป็นทางลงล้วนๆ สบายเลย
12.00 น. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย - สถานีรถไฟมวกเหล็ก 10 ก.ม. จนถึงน้ำตกเจ็ดสาวน้อย พักกินอะไรที่นี่ แช่น้ำสัก 1 ชั่วโมง จากน้ำตกไปสถานีรถไฟมวกเหล็กปั่นครึ่งชั่วโมงก็ถึง
14.48 น. กลับด้วยรถเร็วขบวน 136 ออกจากมวกเหล็ก 14.48 ถึงหัวลำโพง 18.40 น. รถมาจะช้าประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ต้องเช็กก่อนว่าตู้สัมภาระเต็มมาตั้งแต่ต้นทางหรือเปล่า ถ้าเต็มเราก็เอาจักรยานขึ้นไม่ได้ ต้องรอเที่ยวถัดไป 17.11 น. (แต่ถ้าเป็นรถพับขึ้นได้เลย) ก็จะทำให้เราถึงหัวลำโพง 4 ทุ่ม (ใครจะลงที่ไหนลงได้ทุกสถานีที่รถไฟจอด)
สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วย
- ตรวจเช็คจักรยานให้พร้อม, ยางในสำรอง(จำเป็นอย่างยิ่ง ใครเข็นลงข้างทางไปถ่ายรูป โอกาสยางรั่วสูง), ที่งัดยาง, ชุดปะยาง, ไฟหน้า, ไฟท้าย (เผื่อปั่นเที่ยวจนมืด)
- หมวก, ผ้าบั๊ฟ, ปลอกแขนกันร้อน, เสื้อกันหนาว (บนเขื่อนกลางคืนหนาวใช้ได้)
- เต๊นท์+เครื่องนอน(ไม่เอาไปก็ได้ มีให้เช่าที่เขื่อนป่าสัก 280 บาท), อุปกรณ์แคมปิ้งต่างๆ, แบตสำรองโทรศัพท์
- ชุดใส่นอน,ชุดใส่วันที่ 2,รองเท้าแตะ
- สบู่,ยาสีฟัน,แปรงสีฟัน
- เงิน(ค่ารถไฟคน+จักรยานไปกลับประมาณ 300 บาท,ค่าอาหาร,ค่ากางเต๊นท์)
ติดต่อสอบถาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานลพบุรี รับผิดชอบพื้นที่ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี โทร. 0-3677-0096 - 7
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.facebook.com/BicycleTrips
ปล.ทริปนี้เราจัดไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 7-8 ธ.ค.ที่ผ่านมา เอามารีวิวให้ดูเผื่อกลุ่มไหนจะจัดบ้าง ขออภัยที่ไม่ได้เอามาโพสต์ในนี้ก่อน^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น