[CR] ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #ตอนที่ 4 >ปลายหนาวนี้ ที่ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ขี่รถเที่ยว 2 วัน 1 คืน

ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #Chapter 4# ขี่รถมอเตอร์ไซค์เที่ยว "เขาใหญ่" 2 วัน 1 คืน
    >> ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ จนทำให้ผมนึกถึงทริปหนึ่งของผม ช่วงปลายหนาว ณ ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่บอกได้เลยว่าหลายๆ คนคงชอบไปเที่ยวที่นี่กัน เพราะเป็นสถานที่สัมผัสธรรมชาติ และสัตว์ป่าที่เดินทางจากกรุงเทพไปแค่ 100 กว่ากิโล ใช้เวลาเดินทางแค่ 2-3 ชั่วโมงเอง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างดีมาก การเดินทางก็สะดวก
    >> ซึ่งผมเลือกเดินทางวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ตามความสะดวกไม่มีอะไรมาก และการเดินทางครั้งนี้ของผมเลือกที่จะเดินทางขึ้นจากฝั่งปราจีนบุรี ตรงด่านตรวจเนินหอม เพราะจุดหมายแรกที่ผมจะแวะเที่ยวคือ ที่น้ำตกเหวนรก ที่จะอยู่ใกล้มากกว่าถ้าใช้เส้นทางขึ้นจากฝั่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมมาเที่ยวเขาใหญ่ 4 ครั้ง ไม่เคยได้แวะเที่ยวเลย และการขี่รถจากสมุทรปราการผมว่าผมชอบการขี่รถจากถนนฝั่งนี้มากกว่าเพราะไม่อยากวิ่งถนนมิตรภาพที่รถบรรทุกเยอะ อีกทั้งเส้นทางนี้ยังใกล้กว่า และที่สำคัญผมอยากเห็นช้างป่าครับ ซึ่งอันที่จริงเขาใหญ่สามารถขึ้นได้จาก 2 เส้นทาง คือ
    >> เส้นทางแรก ใช้ถนนหมายเลข 2090 ถนนธนะรัตน์ จากฝั่งปากช่อง นครราชสีมา ซึ่งรถยนต์ส่วนใหญ่จะใช้เส้นทางนี้เยอะ เพราะมีจุดแวะเที่ยวจุดอื่นๆ เยอะ ของกินเยอะ มีความเจริญมากกว่า โดยวิ่งผ่านศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เส้นทางนี้จะค่อนข้างชัน ทางโค้งคดเคี้ยวเยอะ มีจุดชมวิว กม.30 ให้แวะชมวิว แต่ระยะทางสั้นกว่า โอกาสพบช้างป่าค่อนข้างน้อยมาก แต่ก็มีลิงตามไหล่ทางเยอะช่วงป่าเริ่มแห้งแล้ง
    >> เส้นทางสอง ใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3077 จากฝั่งเนินหอม ปราจีนบุรี ซึ่งมีการสัญจรน้อยกว่าอีกฝั่ง แต่นักปั่นจักรยานใช้เส้นทางนี้เยอะ เพราะทางไม่ชันมาก ทางโค้งคดเคี้ยวน้อยกว่า แต่ระยะทางจะไกลกว่า ฝั่งนี้โอกาสพบช้างป่าสูง ช่วงหน้าแล้งอาจพบได้ทุกวัน ทั้งเดินบนถนน และป่าข้างถนน มีโอกาสพบสัตว์อื่นๆ ด้วย และเหมือนฝั่งนี้จะพบลิงน้อยกว่า
    >> ซึ่งถนนทั้ง 2 เส้น จะไปบรรจบกันที่ถนนที่เป็นทางแยกไปลานกางเต็นท์ลำตะคอง หรือทางไปน้ำตกเหวสุวัตนั่นเองครับ
    >> ถ้าถามความชอบของผมว่าส่วนตัวชอบเส้นทางไหน ก็คงตอบยาก เพราะขึ้นกับช่วงเวลา และฤดูกาล ถ้าช่วงหน้าฝน หลังฝนตกใหม่ๆ ผมก็ชอบขึ้นทางฝั่งปากช่อง เพราะจะได้ชมหมอกไหลที่บริเวณจุดชมวิว กม.30 และเส้นทางนี้ทางชัน โค้งเยอะ ขับขี่รถสนุกดี แต่ถ้าช่วงหน้าแล้ง หน้าฝนก็ดี ผมก็ชอบขึ้นทางฝั่งเนินหอม แต่เฉพาะตอนขี่รถมอเตอร์ไซค์นะ เพราะอยู่เจอช้างป่า เจอสัตว์ป่า ฝนตกมอสจะขึ้นเขียวตามริมถนน ต้นไม้ร่มลื่นดี แต่ถ้ามารถยนต์ทางนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะพอมีช้างป่า รถจะติดยาว และเสียเวลานานมากๆ
    >> โม้ยาวมานานละ ออกเดินทางกันดีกว่า555 ผมออกเดินทางจากสมุทรปราการตอนบ่ายโมง มาถึงด่านตรวจเนินหอม ประมาณ 16.00 น.
    >> ชำระค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท ค่ารถมอเตอร์ไซค์ 20 บาท เสร็จแล้วก็พร้อมลุยกันเลยครับ






    >> ก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปต่อกัน เราก็แวะเข้าห้องน้ำตรงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงเลยด่านตรวจไปสัก 30 เมตร แต่ห้องน้ำฝั่งนี้จะดูเงียบๆ ไม่ค่อยดีเท่าฝั่งปากช่อง ไม่มีร้านค้าขายของมากมายเห็นมีแค่ 1 ร้าน ที่ขายน้ำ และศูนย์บริการที่ปิดเงียบ







    >> หลังจากขี่รถมอเตอร์ไซค์ยาวต่อเนื่องมา เราก็เดินทางมาถึงลานจอดรถของน้ำตกเหวนรกที่เวลาประมาณ 16.25 น. โดยถนนช่วงที่ผ่านมานั้นจะมีโอกาสเจอช้างป่าได้น้อย เพราะทางมีความชันมากกว่าเส้นทางที่เราจะเดินทางต่อไปยังลานกางเต็นท์ลำตะคอง ซึ่งที่นี่ก็จะมีห้องน้ำ และร้านค้าขายน้ำดื่ม และของกินด้วย โดยเจ้าของร้านค้าบอกกับเราว่าตอนนี้มาช้างป่าลงบริเวณทางที่เราจะขี่รถผ่านไปต่อด้วย ซึ่งพี่ที่มากับผมเขาบอกเลยว่า ไม่อยากเจอช้างเลย เขากลัว
   >> โดยก่อนที่เราจะเข้าไปยังลานกางเต็นท์ เราจะไปจองส่องสัตว์ในคืนนี้ด้วยที่ทำการอุทยาน ซึ่งมีรอบตอน 19.00 น. และ 20.00 น. แต่ไม่รู้เราจะไปทันได้จองไหม เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว





    >> ได้เวลาเดินไปน้ำตกเหวนรกกัน ซึ่งเปิดให้เข้าเที่ยวได้ตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น. มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีทางเดินปกติไม่ชัน 850 เมตร และช่วงทางชันลงบันไดไปน้ำตก 80 เมตร





    >> เส้นทางเดินจะเป็นทางเดินคอนกรีต มีบันได และสะพานเป็นช่วงๆ เดินง่ายเลย และบรรยากาศก็ร่มลื่นเย็นสบายมากๆ




   >> และก็เดินมาถึงสะพานที่เป็นจุดข้าม คลองท่าด่าน ที่เป็นลำธารไหลลงไปเป็นนำตกเหวนรกนั่นเอง และก็เป็นน้ำที่ไหลลงไปที่เขื่อนขุนด่านปราการชลอีกที

   >> น้ำช่วงนี้น้อยมากๆ หวังว่าน้ำตกคงจะมีน้ำไหลอยู่นะ




   >> พอข้ามสะพานมาก็จะเป็นทางเดินเหมือนช่วงแรกๆ อีกครั้ง



   >> และก็จะเดินมาถึงจุดที่อุทยานทำเป็นเป็นรั้วกั้นช้าง ที่มีลักษณะเป็นเสาตั้งเรียงเป็นแนวรั้ว ประมาณ 400 เมตร กันข้ามตลอดแนวของลำธารที่จะไหลลงไปที่น้ำตก เพราะเมื่อปี 2542 มีช้างป่าพลัดข้ามไป และตกลงไปที่น้ำตกเหวนรกนั่นเอง




    >> พอพ้นจากรั้วกั้นช้างก็จะมาถึงจุดระเบียงชมวิวเหนือน้ำตก ซึ่งก็มองไม่เห็นน้ำตกเหรอ นอกจากลำธาร และแนวรั้วกั้นช้าง กับมีที่นั่งให้ได้นั่งพัก

   >> มีศาลานั่งพักอีกจุดก่อนถึงบันได ขึ้น-ลง ไปยังน้ำตกด้านล่าง









   >> หลังจากเดินลงบันไดชัน 80 เมตร เรามาถึงแล้ว น้ำตกเหวนรก น้ำช่วงนี้น้อยมากๆ แต่ก็ยังมีคนเข้ามาชมเยอะอยู่นะ ถึงแม้ที่นี้จะมาได้แค่ชมน้ำตก ไม่สามารถเล่นได้ก็ตาม






   >> ถ่ายภาพไปอวดเพื่อนสักหน่อย เที่ยวมาตั้ง 4 ครั้ง ในที่สุดครั้งที่ 5 เราก็ได้มาเที่ยวที่นี่สักที





   >> สักพักด้านความมัวแต่ถ่ายภาพ อ้าวคนไปไหนหมด ทำไหมเหลือแค่เราคนเดิน ตอนนี้ก็เวลา 17.00 น. แล้ว น้ำตกเหวนรกที่ไร้ผู้คน




ชื่อสินค้า:   เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงปลายหนาว 2 วัน 1 คืน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่