นี่คือครอบครัวของเรา
เราสองคนมาจากต่างที่,ต่างภาษา, ต่างวัฒนธรรม, ต่างพื้นฐานทางครอบครัว, ต่างสังคม, ต่างชาติ , ต่างนิสัย ฯลฯ
เรียกว่าต่างในทุกด้าน
เรามาเป็นหนึ่งเดียวกันในบ้านหลังนี้อย่างพอเพียงและเพียงพอ ไม่เล็กจนคับแคบ และก็ไม่ใหญ่โตจนต้องเอาไว้ให้แม่บ้านอยู่ดูแล
สามีไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใหม่ตั้งแต่แต่งงานมา เพราะไม่ได้ไปไหนหรือต้องเข้าสังคม ทำงานอยู่บ้าน 7/24 เป็นความโชคดี (หรือโชคร้ายของเรา) ต้องขอบคุณงานดี ๆ ที่เขารักและตั้งใจทำ
ส่วนเราก็เป็นแม่บ้านที่ดูแลทุกอย่างในบ้าน สามีและลูก
(ทุกอย่างจริง ๆ) ยกเว้นทำงานหาเงิน เสื้อผ้าซื้อบ้างตามความจำเป็น ตัวไม่เคยแต่ง หน้าไร้เครื่องสำอางค์ ร้านเสริมสวยไม่เคยเข้า (ยกเว้นตัดผม)
ของแบรนด์เนมไม่เคยคิดจะซื้อ (ถ้าให้ฟรีก็เอา อิ อิ)
ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อโชว์
ทุกอย่างมีไว้ใช้จริง ๆ
ต่างประเทศไปมารอบแล้ว ขอย้ายมาอยู่เมืองไทยสบายใจสุด
ชีวิตครอบครัวมีกระทบกระทั่งกันตลอดแต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีทุกครั้ง เพราะเราใช้หลักและเหตุผล จบคือจบ
ไม่เคยขุดขุ้ย มีปัญหาครั่งต่อไปค่อยแก้กันใหม่ เรามาเจอกันตรงกลาง บ้างครั้งการเห็นต่างก็ทำให้ทุกอย่างลงตัว
ทุกวันนี้มีลูกเป็นจุดหมายปลายทางเป็นหลักชัย ทำทุกอย่างเพื่อสร้างเขาให้เป็นคนดี
ดีต่อครอบครัว ดีต่อสังคม ดีต่อประเทศชาติ (2 สัญชาติ) เขาไม่ต้องเรียนได้ที่ 1 ขอให้เขาสามารถเอาวิชาความรู้มาใช้ประโยชน์อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยสันติ รู้จัก ผิด ชอบ ชั่ว ดี และสามารถพัฒนาตนเองได้ในอนาคต เท่านี้ก็น่าจะพอสำหรับครอบครัวเรา
(วันข้างหน้าถ้าอยากได้มากกว่านี้จะมาบอกใหม่ อิ อิ).
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็แค่อยากจะเตือนตัวเอง ออกมาเป็นตัวหนังสือและบอกให้เพื่อนได้รับรู้ถึงความเป็นครอบครัวเรา
ถ้าใครเห็นด้วยจะกดไลค์ก็ไม่ว่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องคอมเม้นท์ปล่อยผ่านไป ก็เท่านี้ล่ะ
ต้องขอบคุณ สามี, ตัวเอง, ลูก, ครอบครัว, เพื่อน, และกัลยาณมิตร ที่ทำให้มีวันนี้
นี่คือครอบครัวของเรา (อย่างที่เป็น)
เราสองคนมาจากต่างที่,ต่างภาษา, ต่างวัฒนธรรม, ต่างพื้นฐานทางครอบครัว, ต่างสังคม, ต่างชาติ , ต่างนิสัย ฯลฯ
เรียกว่าต่างในทุกด้าน
เรามาเป็นหนึ่งเดียวกันในบ้านหลังนี้อย่างพอเพียงและเพียงพอ ไม่เล็กจนคับแคบ และก็ไม่ใหญ่โตจนต้องเอาไว้ให้แม่บ้านอยู่ดูแล
สามีไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใหม่ตั้งแต่แต่งงานมา เพราะไม่ได้ไปไหนหรือต้องเข้าสังคม ทำงานอยู่บ้าน 7/24 เป็นความโชคดี (หรือโชคร้ายของเรา) ต้องขอบคุณงานดี ๆ ที่เขารักและตั้งใจทำ
ส่วนเราก็เป็นแม่บ้านที่ดูแลทุกอย่างในบ้าน สามีและลูก
(ทุกอย่างจริง ๆ) ยกเว้นทำงานหาเงิน เสื้อผ้าซื้อบ้างตามความจำเป็น ตัวไม่เคยแต่ง หน้าไร้เครื่องสำอางค์ ร้านเสริมสวยไม่เคยเข้า (ยกเว้นตัดผม)
ของแบรนด์เนมไม่เคยคิดจะซื้อ (ถ้าให้ฟรีก็เอา อิ อิ)
ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เพื่อโชว์
ทุกอย่างมีไว้ใช้จริง ๆ
ต่างประเทศไปมารอบแล้ว ขอย้ายมาอยู่เมืองไทยสบายใจสุด
ชีวิตครอบครัวมีกระทบกระทั่งกันตลอดแต่ทุกอย่างก็จบลงด้วยดีทุกครั้ง เพราะเราใช้หลักและเหตุผล จบคือจบ
ไม่เคยขุดขุ้ย มีปัญหาครั่งต่อไปค่อยแก้กันใหม่ เรามาเจอกันตรงกลาง บ้างครั้งการเห็นต่างก็ทำให้ทุกอย่างลงตัว
ทุกวันนี้มีลูกเป็นจุดหมายปลายทางเป็นหลักชัย ทำทุกอย่างเพื่อสร้างเขาให้เป็นคนดี
ดีต่อครอบครัว ดีต่อสังคม ดีต่อประเทศชาติ (2 สัญชาติ) เขาไม่ต้องเรียนได้ที่ 1 ขอให้เขาสามารถเอาวิชาความรู้มาใช้ประโยชน์อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้โดยสันติ รู้จัก ผิด ชอบ ชั่ว ดี และสามารถพัฒนาตนเองได้ในอนาคต เท่านี้ก็น่าจะพอสำหรับครอบครัวเรา
(วันข้างหน้าถ้าอยากได้มากกว่านี้จะมาบอกใหม่ อิ อิ).
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็แค่อยากจะเตือนตัวเอง ออกมาเป็นตัวหนังสือและบอกให้เพื่อนได้รับรู้ถึงความเป็นครอบครัวเรา
ถ้าใครเห็นด้วยจะกดไลค์ก็ไม่ว่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องคอมเม้นท์ปล่อยผ่านไป ก็เท่านี้ล่ะ
ต้องขอบคุณ สามี, ตัวเอง, ลูก, ครอบครัว, เพื่อน, และกัลยาณมิตร ที่ทำให้มีวันนี้