เรื่องโกงการหาเสียงนี่จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบนะครับ
แต่เท่าที่ผมเคยสังเกต และเผลอจินตนาการดู
ผมว่าทำได้ไม่ยากครับ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ
คือไกลย่านชุมชน หรืออยู่ในย่านอิทธิพลของใครคนใดคนหนึ่ง
และเป็นการโกงโดยไม่ต้องอาศัยชาวบ้านหรอกครับ
แค่ซื้อใจกรรมการประจำหน่วยและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ไม่เกินหน่วยละ 20 คนได้ก็สบายแล้วโยม(ฮา)
ซื้อใจคือทำให้ประทับใจนะ ผมไม่ได้ไปดูใครว่า ถูกซื้อด้วยเงิน...อิอิ
ก็อย่างที่พรรคเพื่อไทยบอกนั่นแหละครับ ใช้เวลาช่วงบ่ายที่แสนจะเงียบ และ หงอยเหงา
คณะกรรมการประจำหน่วยที่ "ประทับใจ" นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง นั่นแหละ ลงมือบรรเลงกันซะเอง(ฮา)
เพราะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนี่เขาจะมี “ขาประจำ” ที่รู้ใจกันครับ
(จริง ๆ แล้วเขาเกณฑ์ข้าราชการประจำมานั่ง มีเบี้ยเลี้ยงให้ แต่ไม่มาก จึงไม่ค่อยมีใครอยากเป็นกรรมการ)
เวลามีเลือกตั้งทีพวกนี้ก็จะ “จัดทีม” แล้วแบ่งงานกันใครจะนั่งโต๊ะไหน จนไปถึงการดูแลรอบ ๆ หน่วย
อย่างคนที่คอยตรวจบัตรประชาชนนี่ หากได้อยู่ตรงนั้นซะสองสามหนก็จะรู้ละครับว่า
บ้านไหนชอบมาลงคะแนนช่วงไหน และบ้านไหน “นอนหลับทับสิทธิ”
การโกงก็เริ่มตรงนี้แหละครับ..
ฉีกบัตรเลือกตั้งส่งโต๊ะต่อไป ต่อไป จนกระทั่ง “โล่งจริง ๆ” ก็ให้อีกคนเอาบัตรไปหย่อน ค่อย ๆ ทำครับไม่ต้องรีบร้อน
ล่อหน่วยละ 15 คนอย่างพรรคเพื่อไทยประเมินไว้ก็พอ (ฮา)
จากคั่นนั้นก็มาถึงคั่นเปิดหีบนับคะแนน
ในสมัยก่อนจะมีการเตรียมหีบบัตรสำเร็จรูป คือ บรรจุบัตรเลือกตั้งเบอร์ที่จะต้องได้เอาไว้เสร็จสรรพ
ระหว่างขนย้ายก็ยกหีบหนี เอ๊ย เปลี่ยนหีบซะ(ฮา)
แบบนี้หน่วยนั้นได้มากกว่า 15 คน ตามที่พรรคเพื่อไทยต้องการ เอ๊ย ประมาณการซะอีก
ต่อมาก็ตอน “ขานคะแนน” ตรงนี้ก็โกงสนุกครับ
เริ่มจากคนหยิบบัตรเลือกตั้งมาขาน “บัตรดี...”แล้วก็ขานเบอร์ คนนี้ต้องตาไวครับ ไม่ใช่ไวในการดูเบอร์ในบัตรนะครับ
แต่ต้องตาไวดู คนรอบ ๆ คูหา หากไม่ค่อยมีคนสนใจมองบัตรในมือที่ส่ายไปซ้ายที-ขวาที หรือไม่ !
แล้วก็ขานเลขที่รับจ้างเขามาทันที หากไม่มีใครท้วงก็สบายไป
แล้วคนที่ขีดเส้นทะแยงบนกระดานก็ต้องไวเหมือนกันนะครับ พอคนขานเลข ขานเสร็จก็ต้องรีบขีดเส้นทะแยงทันทีครับ
ก็เหมือนกันครับ ขีดเส้นลงในช่องที่าเบอร์ "ประทับใจ" อยู่แล้วนั่นแหละ (ฮา)
ถ้ามีคนท้วงก็แกล้งเดินไปหยิบแปลงลบกระดาน ตอนที่ตัวเองบังกระดาน ก็ขีดเส้นในช่องเลขที่มีผู้เลือกลงไปอีกขีดนึงเมื่อลบแล้วก็ยังได้คะแนนอยู่ดี
ล่อกันอย่างนี้แหละครับใครจะทำไม หรือใครจะกล้าโวย
(ยิ่งเป็นหน่วยที่ห่างไกลความเจริญ หรืออยู่ในอิทธิพลของใครคนใดคนหนึ่ง คนโวยก็อา่จได้รับแจกขนมตุ๊บตั๊บซิโยม – ฮา)
และอีกเยอะแยะครับ เขียนไปก็เหมือนชี้กองขี้ให้หมากิน เอ๊ย ชี้โพรงให้กระรอกเปล่า ๆ เอาเป็นว่า หากจะโกงกันซะอย่างยังไงก็โกงได้ครับ
ดังนั้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ รัฐบาลไม่ประสานไปยังองค์การกลางการเลือกตั้งที่เป็นภาคเอกชนให้เข้าไปร่วมเป็นกรรมการตรวจนับด้วยครับ(ยังมีอยู่หรือเปล่าก็ไม่ทราบ)
หรือจะให้งดงามกว่านั้น ก็เชิญภาคเอกชนที่เขามีอาสาสมัครเยอะ ๆ ไปร่วมจับโกงด้วยละครับ
ท่านเล่นขนคนเสื้อแดงไปเป็นกรรมการแบบนั้น ระวังจะปะทะกับกรรมการของอีกฝั่งหนึ่งนะครับ
และที่ผมค่อนข้างเป็นห่วงก็คือ หากคูหาไหนคะแนนของผู้สมัครเพื่อไทยแพ้
แล้วเกิดมีคนเสื้อแดงอารมณ์ร้อนเผาคูหาเลือกตั้งขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบละเนี่ย
ก็หวังว่า ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ คงไม่มีใครประกาศว่า “เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” นะครับ(ฮา)
ทำไมประชาธิปปัตย์ถึงกลัวการเลือกตั้ง....เข้ามาดูกัน
แต่เท่าที่ผมเคยสังเกต และเผลอจินตนาการดู
ผมว่าทำได้ไม่ยากครับ โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ
คือไกลย่านชุมชน หรืออยู่ในย่านอิทธิพลของใครคนใดคนหนึ่ง
และเป็นการโกงโดยไม่ต้องอาศัยชาวบ้านหรอกครับ
แค่ซื้อใจกรรมการประจำหน่วยและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ไม่เกินหน่วยละ 20 คนได้ก็สบายแล้วโยม(ฮา)
ซื้อใจคือทำให้ประทับใจนะ ผมไม่ได้ไปดูใครว่า ถูกซื้อด้วยเงิน...อิอิ
ก็อย่างที่พรรคเพื่อไทยบอกนั่นแหละครับ ใช้เวลาช่วงบ่ายที่แสนจะเงียบ และ หงอยเหงา
คณะกรรมการประจำหน่วยที่ "ประทับใจ" นักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง นั่นแหละ ลงมือบรรเลงกันซะเอง(ฮา)
เพราะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งนี่เขาจะมี “ขาประจำ” ที่รู้ใจกันครับ
(จริง ๆ แล้วเขาเกณฑ์ข้าราชการประจำมานั่ง มีเบี้ยเลี้ยงให้ แต่ไม่มาก จึงไม่ค่อยมีใครอยากเป็นกรรมการ)
เวลามีเลือกตั้งทีพวกนี้ก็จะ “จัดทีม” แล้วแบ่งงานกันใครจะนั่งโต๊ะไหน จนไปถึงการดูแลรอบ ๆ หน่วย
อย่างคนที่คอยตรวจบัตรประชาชนนี่ หากได้อยู่ตรงนั้นซะสองสามหนก็จะรู้ละครับว่า
บ้านไหนชอบมาลงคะแนนช่วงไหน และบ้านไหน “นอนหลับทับสิทธิ”
การโกงก็เริ่มตรงนี้แหละครับ..
ฉีกบัตรเลือกตั้งส่งโต๊ะต่อไป ต่อไป จนกระทั่ง “โล่งจริง ๆ” ก็ให้อีกคนเอาบัตรไปหย่อน ค่อย ๆ ทำครับไม่ต้องรีบร้อน
ล่อหน่วยละ 15 คนอย่างพรรคเพื่อไทยประเมินไว้ก็พอ (ฮา)
จากคั่นนั้นก็มาถึงคั่นเปิดหีบนับคะแนน
ในสมัยก่อนจะมีการเตรียมหีบบัตรสำเร็จรูป คือ บรรจุบัตรเลือกตั้งเบอร์ที่จะต้องได้เอาไว้เสร็จสรรพ
ระหว่างขนย้ายก็ยกหีบหนี เอ๊ย เปลี่ยนหีบซะ(ฮา)
แบบนี้หน่วยนั้นได้มากกว่า 15 คน ตามที่พรรคเพื่อไทยต้องการ เอ๊ย ประมาณการซะอีก
ต่อมาก็ตอน “ขานคะแนน” ตรงนี้ก็โกงสนุกครับ
เริ่มจากคนหยิบบัตรเลือกตั้งมาขาน “บัตรดี...”แล้วก็ขานเบอร์ คนนี้ต้องตาไวครับ ไม่ใช่ไวในการดูเบอร์ในบัตรนะครับ
แต่ต้องตาไวดู คนรอบ ๆ คูหา หากไม่ค่อยมีคนสนใจมองบัตรในมือที่ส่ายไปซ้ายที-ขวาที หรือไม่ !
แล้วก็ขานเลขที่รับจ้างเขามาทันที หากไม่มีใครท้วงก็สบายไป
แล้วคนที่ขีดเส้นทะแยงบนกระดานก็ต้องไวเหมือนกันนะครับ พอคนขานเลข ขานเสร็จก็ต้องรีบขีดเส้นทะแยงทันทีครับ
ก็เหมือนกันครับ ขีดเส้นลงในช่องที่าเบอร์ "ประทับใจ" อยู่แล้วนั่นแหละ (ฮา)
ถ้ามีคนท้วงก็แกล้งเดินไปหยิบแปลงลบกระดาน ตอนที่ตัวเองบังกระดาน ก็ขีดเส้นในช่องเลขที่มีผู้เลือกลงไปอีกขีดนึงเมื่อลบแล้วก็ยังได้คะแนนอยู่ดี
ล่อกันอย่างนี้แหละครับใครจะทำไม หรือใครจะกล้าโวย
(ยิ่งเป็นหน่วยที่ห่างไกลความเจริญ หรืออยู่ในอิทธิพลของใครคนใดคนหนึ่ง คนโวยก็อา่จได้รับแจกขนมตุ๊บตั๊บซิโยม – ฮา)
และอีกเยอะแยะครับ เขียนไปก็เหมือนชี้กองขี้ให้หมากิน เอ๊ย ชี้โพรงให้กระรอกเปล่า ๆ เอาเป็นว่า หากจะโกงกันซะอย่างยังไงก็โกงได้ครับ
ดังนั้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ รัฐบาลไม่ประสานไปยังองค์การกลางการเลือกตั้งที่เป็นภาคเอกชนให้เข้าไปร่วมเป็นกรรมการตรวจนับด้วยครับ(ยังมีอยู่หรือเปล่าก็ไม่ทราบ)
หรือจะให้งดงามกว่านั้น ก็เชิญภาคเอกชนที่เขามีอาสาสมัครเยอะ ๆ ไปร่วมจับโกงด้วยละครับ
ท่านเล่นขนคนเสื้อแดงไปเป็นกรรมการแบบนั้น ระวังจะปะทะกับกรรมการของอีกฝั่งหนึ่งนะครับ
และที่ผมค่อนข้างเป็นห่วงก็คือ หากคูหาไหนคะแนนของผู้สมัครเพื่อไทยแพ้
แล้วเกิดมีคนเสื้อแดงอารมณ์ร้อนเผาคูหาเลือกตั้งขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบละเนี่ย
ก็หวังว่า ก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯ คงไม่มีใครประกาศว่า “เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” นะครับ(ฮา)