http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5qSTVNelEwTnc9PQ==§ionid=
ตัดเนื้อความที่เกี่ยวข้องมาบางส่วนครับ
135 อาจารย์มหา"ลัยต้านทปอ.
วัน เดียวกันคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศรวม 135 คน ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกต่อท่าทีของที่ประชุมอธิการบดีในสถานการณ์วิกฤต การเมือง ระบุว่าข้าพเจ้า ผู้มีรายนามดังต่อไปนี้ มีความเห็นว่าท่าทีของที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) ในสถานการณ์ วิกฤตการเมืองในห้วงเวลานี้ไม่ได้สะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาคมทางวิชาการ ของประเทศ และไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาวด้วยเหตุผลสี่ประการ
1. ในการประชุมและการแถลงท่าทีของทปอ. ต่อสถานการณ์ทางการเมือง ทปอ.จัดการประชุมกันเองโดยไม่ได้จัดรับฟังความเห็นและข้อถกเถียงจากประชาคม มหาวิทยาลัยของตนเองเลย การบริหารของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้นมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ซับซ้อน และคำนึงถึงหลัก ธรรมาภิบาล โดยเฉพาะหลักการมีส่วนร่วมและพร้อมรับผิดชอบ มิได้ปล่อยให้อธิการบดีเอาความเป็นสถาบันและภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยออกไป ใช้ในทางการเมืองโดยไม่ฟังเสียงประชาคม ของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิตนักศึกษา
ค้านเสนอทางออกขัดหลักปชต.
2.การ นำเสนอความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองของทปอ.ในระยะที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนำเสนอทางออกต่อวิกฤตทางการเมืองโดยการนำเสนอเรื่องของรัฐบาล รักษาการที่เป็นกลาง มีแนวโน้มที่จะขัดต่อหลักการและเจตจำนงของรัฐธรรมนูญเนื่องจากขาดการยึดโยง กับหลักการประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นหลักของความเป็นตัวแทนจากการเลือกตั้งและเสียงข้างมาก อีกทั้งยังขัดต่อหลักนิติธรรมเองในแง่ความถูกต้องทางกฎหมายและตามขั้นตอนของ กฎหมาย การนำเสนอความเห็นจากที่ประชุมอธิการบดีไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายาม อย่างถึงที่สุดที่จะผดุงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ อย่างชัดแจ้ง กลับเปิดทางให้เกิดการตีความที่คลุมเครือและสุ่มเสี่ยงที่จะเกี่ยวพันกับ เงื่อนไขนอกวิถีทางของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
แนะควรเตือนสติขั้วขัดแย้ง
3. ข้อเสนอของ ทปอ.ที่ผ่านมา ส่งผลต่อประโยชน์และความได้เปรียบทางการเมืองของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่าง ชัดเจน ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้คือ นอกจากนำเอามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันสาธารณะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัด แย้งทางการเมืองแล้ว ทปอ. ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่มีกฎหมายรองรับ ยังไม่ได้ปกป้องการทำหน้า ที่หลักของมหาวิทยาลัย นั่นคือการให้บริการการเรียนการสอนต่อนิสิตนักศึกษาของตน เมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมืองจนถึงขั้นที่มีแนวโน้มหรือมีการใช้ความ รุนแรงบนท้องถนน ผู้บริหารสถาบันการศึกษาและที่ประชุม ทปอ.ควรแถลงเรียกร้องให้กลุ่มต่างๆ จำกัดพื้นที่ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยของประชาคม มหาวิทยาลัย เพื่อให้การเรียนการสอนดำเนินได้อย่างปกติ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรยืนหยัดต่อเจตนารมณ์ดังกล่าว และเตือนสติขั้วขัดแย้งทางการเมืองให้ตระหนักถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบ ร้อยของสังคมเป็นสำคัญ การประกาศงดการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัยต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนั้นเป็น สิ่งที่ควรกระทำ แต่ต้องตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมาว่าการประกาศงดการเรียนการสอนในบางกรณี อาจกลายเป็นเครื่องมือสนับ สนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มได้เช่นกัน
เรียกร้องเป็นกลางทางการเมือง
4. ทปอ. ต้องเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองและช่วยนำพาสังคม ข้ามพ้นจากวิกฤตทางการเมืองในระยะยาว ซึ่งหมายความว่ามหาวิทยาลัยจะต้องคำนึงถึงความหลากหลายของความคิดเห็นและ เสรีภาพทางวิชาการของประชาคมของตนและของสังคมโดยรวม การที่ทปอ.นำมหาวิทยาลัยไปผูกอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของผู้บริหาร มหาวิทยาลัยบางคนจึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างบรรยากาศที่เชิดชูเสรีภาพ ความหลากหลายทางความคิด และความอดทนอดกลั้นของประชาคมมหาวิทยาลัยและผู้คนในสังคม อันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำพาสังคมข้ามพ้นจากความขัดแย้งทางการเมืองเฉพาะ หน้า และจะทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันสาธารณะที่รับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว
เปิดชื่ออ.มหา"ลัยดังร่วมต้าน
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า คณาจารย์ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกนี้มีทั้งจากคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ คณะอื่นๆ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคประเทศไทย ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยอุบล ราชธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ฯลฯ รายชื่ออาจารย์ที่ร่วมลงชื่อ อาทิ นายเกษียร เตชะพีระ นายสุรชาติ บำรุงสุข นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอแสดงความนับถือท่านอาจารย์ทุกท่านด้วยใจจริง
หากนักวิชาการยังคงยึดมั่นในหลักการ ไม่โอนเอนตามกระแส คอยเป็นหลักยึดให้สังคมที่เปราะบาง
ประเทศชาติก็ยังคงมีหวังเสมอ
ขอแสดงความนับถือ 135 อาจารย์ที่ร่วมค้าน ทปอ.
ตัดเนื้อความที่เกี่ยวข้องมาบางส่วนครับ
135 อาจารย์มหา"ลัยต้านทปอ.
วัน เดียวกันคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศรวม 135 คน ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกต่อท่าทีของที่ประชุมอธิการบดีในสถานการณ์วิกฤต การเมือง ระบุว่าข้าพเจ้า ผู้มีรายนามดังต่อไปนี้ มีความเห็นว่าท่าทีของที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) ในสถานการณ์ วิกฤตการเมืองในห้วงเวลานี้ไม่ได้สะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาคมทางวิชาการ ของประเทศ และไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาวด้วยเหตุผลสี่ประการ
1. ในการประชุมและการแถลงท่าทีของทปอ. ต่อสถานการณ์ทางการเมือง ทปอ.จัดการประชุมกันเองโดยไม่ได้จัดรับฟังความเห็นและข้อถกเถียงจากประชาคม มหาวิทยาลัยของตนเองเลย การบริหารของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งนั้นมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่ซับซ้อน และคำนึงถึงหลัก ธรรมาภิบาล โดยเฉพาะหลักการมีส่วนร่วมและพร้อมรับผิดชอบ มิได้ปล่อยให้อธิการบดีเอาความเป็นสถาบันและภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยออกไป ใช้ในทางการเมืองโดยไม่ฟังเสียงประชาคม ของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิตนักศึกษา
ค้านเสนอทางออกขัดหลักปชต.
2.การ นำเสนอความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองของทปอ.ในระยะที่ผ่านมา โดยเฉพาะการนำเสนอทางออกต่อวิกฤตทางการเมืองโดยการนำเสนอเรื่องของรัฐบาล รักษาการที่เป็นกลาง มีแนวโน้มที่จะขัดต่อหลักการและเจตจำนงของรัฐธรรมนูญเนื่องจากขาดการยึดโยง กับหลักการประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นหลักของความเป็นตัวแทนจากการเลือกตั้งและเสียงข้างมาก อีกทั้งยังขัดต่อหลักนิติธรรมเองในแง่ความถูกต้องทางกฎหมายและตามขั้นตอนของ กฎหมาย การนำเสนอความเห็นจากที่ประชุมอธิการบดีไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายาม อย่างถึงที่สุดที่จะผดุงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตยที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ อย่างชัดแจ้ง กลับเปิดทางให้เกิดการตีความที่คลุมเครือและสุ่มเสี่ยงที่จะเกี่ยวพันกับ เงื่อนไขนอกวิถีทางของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย
แนะควรเตือนสติขั้วขัดแย้ง
3. ข้อเสนอของ ทปอ.ที่ผ่านมา ส่งผลต่อประโยชน์และความได้เปรียบทางการเมืองของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มอย่าง ชัดเจน ปัญหาสำคัญในเรื่องนี้คือ นอกจากนำเอามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันสาธารณะเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัด แย้งทางการเมืองแล้ว ทปอ. ซึ่งเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่มีกฎหมายรองรับ ยังไม่ได้ปกป้องการทำหน้า ที่หลักของมหาวิทยาลัย นั่นคือการให้บริการการเรียนการสอนต่อนิสิตนักศึกษาของตน เมื่อเกิดความขัดแย้งทางการเมืองจนถึงขั้นที่มีแนวโน้มหรือมีการใช้ความ รุนแรงบนท้องถนน ผู้บริหารสถาบันการศึกษาและที่ประชุม ทปอ.ควรแถลงเรียกร้องให้กลุ่มต่างๆ จำกัดพื้นที่ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ให้กระทบต่อความปลอดภัยของประชาคม มหาวิทยาลัย เพื่อให้การเรียนการสอนดำเนินได้อย่างปกติ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรยืนหยัดต่อเจตนารมณ์ดังกล่าว และเตือนสติขั้วขัดแย้งทางการเมืองให้ตระหนักถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบ ร้อยของสังคมเป็นสำคัญ การประกาศงดการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัยต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนั้นเป็น สิ่งที่ควรกระทำ แต่ต้องตระหนักถึงผลกระทบที่ตามมาว่าการประกาศงดการเรียนการสอนในบางกรณี อาจกลายเป็นเครื่องมือสนับ สนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มได้เช่นกัน
เรียกร้องเป็นกลางทางการเมือง
4. ทปอ. ต้องเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยต้องมีความเป็นกลางทางการเมืองและช่วยนำพาสังคม ข้ามพ้นจากวิกฤตทางการเมืองในระยะยาว ซึ่งหมายความว่ามหาวิทยาลัยจะต้องคำนึงถึงความหลากหลายของความคิดเห็นและ เสรีภาพทางวิชาการของประชาคมของตนและของสังคมโดยรวม การที่ทปอ.นำมหาวิทยาลัยไปผูกอยู่กับจุดยืนทางการเมืองของผู้บริหาร มหาวิทยาลัยบางคนจึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างบรรยากาศที่เชิดชูเสรีภาพ ความหลากหลายทางความคิด และความอดทนอดกลั้นของประชาคมมหาวิทยาลัยและผู้คนในสังคม อันเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำพาสังคมข้ามพ้นจากความขัดแย้งทางการเมืองเฉพาะ หน้า และจะทำให้มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันสาธารณะที่รับผิดชอบต่อสังคมในระยะยาว
เปิดชื่ออ.มหา"ลัยดังร่วมต้าน
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า คณาจารย์ที่ร่วมลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกนี้มีทั้งจากคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ คณะอื่นๆ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคประเทศไทย ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยอุบล ราชธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ฯลฯ รายชื่ออาจารย์ที่ร่วมลงชื่อ อาทิ นายเกษียร เตชะพีระ นายสุรชาติ บำรุงสุข นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายยุกติ มุกดาวิจิตร คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอแสดงความนับถือท่านอาจารย์ทุกท่านด้วยใจจริง
หากนักวิชาการยังคงยึดมั่นในหลักการ ไม่โอนเอนตามกระแส คอยเป็นหลักยึดให้สังคมที่เปราะบาง
ประเทศชาติก็ยังคงมีหวังเสมอ