เคยมีประสบการณ์ถ่ายพลุจริงๆ เพียงแค่ครั้งเดียว ที่สวนหลวง ร.9 เมื่อ 2 ปีก่อน
ไปเข้าทางประตูด้านหน้า และปักหลักถ่ายตรงนั้น
ถึงเวลาจริง กลับกลายเป็นการยืนผิดมุม พลุที่ได้ จึงมีต้นไม้และกิ่งไม้บังเสียส่วนใหญ่
ปีนี้ เลยทำการบ้านมาพอสมควรครับ
ทำเล
มุมที่ถ่ายพลุได้แจ่มชัดที่สุด คือริมบึง หลังหอ 8 เหลี่ยม เยื้องๆ ออกมาหน่อย
จะเห็นพลุได้เต็มตาที่สุด
เลนส์
ครั้งแรก ผมใช้เทเล เพราะค่อนข้างไกล
แต่ครั้งนี้ไกล้กว่าเดิม ไม่แน่ใจว่าควรเป็นระยะไหนดี ผมจึงเอาไปหมด
ทั้ง 11-16, 24-70, 70-200 ไปถึงก็ลองเปลี่ยนเลนส์ดู จึงรู้ว่าใช้ไวด์ 11-16 ที่ระยะ 16 เหมาะที่สุดครับ
และเมื่อถึงเวลาถ่าย พลุถูกจุดมาแบบต่อเนื่อง ไม่มีเวลาเปลี่ยนเลนส์เลยครับ
ผมจึงใช้เลนส์แค่ตัวเดียว f ค่าเดียวตลอด
ที่เหลือเป็นเวลา (ชัตเตอร์ B)
เวลา
ตรงบริเวณที่ผมไปนั่งถ่าย (รูป) เป้นมุมมหาชนของเหล่าตากล้อง
และพวกเขารู้สถานการณ์ ผมไปตั้งแต่ 5 โมงเย็น ก็เจอพวกเขานั่งจับจองที่กันเป็นที่เรียบร้อย
โชคดีที่ยังพอมีที่ข้างๆ อีกนิดหน่อย ควรไปกันแต่หัววันนะครับ
กินข้าว กินน้ำ เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อยก่อน เพราะลุกแล้วจะเสียม้าครับ
อุปกรณ์
เลนส์ - อย่างที่ผมบอกว่า ถึงเวลาเราคงไม่มีโอกาสมานั่งเปลี่ยนเลนส์
ดังนั้น ใช้เลนส์ที่คิดว่าอยากใช้ เอาไปตัวเดียวก็พอครับ
ถ้าคุณเอาชนิดอื่นที่ต่างออกไป ก็เดินเลือกมุมที่เหมาะกับเลนส์ให้ดีเสียก่อนตั้งแต่ยังสว่าง
ขาตั้งกล้อง - ตัวนี้จำเป็น เพราะต้องถ่ายที่สปีดช้า
ขาตั้งกล้องที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักกล้องและเลนส์เป็นสิ่งจำเป็น
เมื่อประกอบเลส์กับขาตั้งกล้อง ควรลองพรีวิวดูเพื่อเช็คความเอียงของภาพ
และน้ำหนักที่กดลงไปบนพื้นไม่ให้ไหล ระวังขาตั้งจะไหลลงน้ำด้วยนะครับ
รีโมท - ผมใช้รีโมทแบบไร้สาย ซึ่งผมว่า ประสิทธิภาพมันไม่ค่อยดีนัก
หากเทียบกับแบบมีสาย บางครั้งกดผิดมุม กล้องไม่ทำงาน อาจพลาดภาพที่ต้องการได้
ถ้าเป็นไปได้ หาแบบมีสายดีๆ ดีกว่าครับ
กล้อง - เมื่อเสียบกับขาตั้งกล้องแล้ว เช็คดูให้ดี ว่าต้องล็อคกระจก
และปิดระบบกันสั่นที่เลนส์ ปิดระบบออโต้โฟกัสด้วยครับ
รวมถึงการปรับโฟกัสล่วงหน้า ซึ่งผมจะปรับไว้ที่อินฟินิตี้ครับ
ที่เหลือก็นั่งรอเวลาครับ
หมดแล้วครับ
ที่จริง ยังมีอีกหลายภาพที่ถ่ายมา
แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ จึงตั้งค่าผิดหลายอย่าง
เช่นการตั้งค่า f สูงไป จึงต้องขุดสีบรรยากาศขึ้นมา (ผมอยากให้พอมองเห็นบรรยากาศครับ)
นอยซ์เลยบานเบอะ รวมทั้งการใช้รีโมท ทำให้ไม่สามารถควบคุมความเร็วการเปิดรับแสงได้ดี
ภาพหลายภาพจึงกลายเป็นช่วงปลายไฟที่ย้อยลงมาแล้ว ซึ่งไม่สวยครับ
ผม (คิดเอาเองนะครับ) ว่า ช่วงไฟที่สวยที่สุด คือการเก็บภาพตั้งแต่จุดแล้วมีเส้นพุ่งขึ้นมา
ระเบิดออกจนสุด พ้นจากนั้นมันจะคล้อยปลายลงตามแรงโน้มถ่วง ซึ่งไม่สวยเท่าไหร่
ผมตั้งค่าไวท์บาลานซ์เป็นแบบทังสเตนครับ มาเร่งสีน้ำเงินอีกนิดหน่อย
อยากได้ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินครับ
โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ กับพลุไฟ
ไปเข้าทางประตูด้านหน้า และปักหลักถ่ายตรงนั้น
ถึงเวลาจริง กลับกลายเป็นการยืนผิดมุม พลุที่ได้ จึงมีต้นไม้และกิ่งไม้บังเสียส่วนใหญ่
ปีนี้ เลยทำการบ้านมาพอสมควรครับ
ทำเล
มุมที่ถ่ายพลุได้แจ่มชัดที่สุด คือริมบึง หลังหอ 8 เหลี่ยม เยื้องๆ ออกมาหน่อย
จะเห็นพลุได้เต็มตาที่สุด
เลนส์
ครั้งแรก ผมใช้เทเล เพราะค่อนข้างไกล
แต่ครั้งนี้ไกล้กว่าเดิม ไม่แน่ใจว่าควรเป็นระยะไหนดี ผมจึงเอาไปหมด
ทั้ง 11-16, 24-70, 70-200 ไปถึงก็ลองเปลี่ยนเลนส์ดู จึงรู้ว่าใช้ไวด์ 11-16 ที่ระยะ 16 เหมาะที่สุดครับ
และเมื่อถึงเวลาถ่าย พลุถูกจุดมาแบบต่อเนื่อง ไม่มีเวลาเปลี่ยนเลนส์เลยครับ
ผมจึงใช้เลนส์แค่ตัวเดียว f ค่าเดียวตลอด
ที่เหลือเป็นเวลา (ชัตเตอร์ B)
เวลา
ตรงบริเวณที่ผมไปนั่งถ่าย (รูป) เป้นมุมมหาชนของเหล่าตากล้อง
และพวกเขารู้สถานการณ์ ผมไปตั้งแต่ 5 โมงเย็น ก็เจอพวกเขานั่งจับจองที่กันเป็นที่เรียบร้อย
โชคดีที่ยังพอมีที่ข้างๆ อีกนิดหน่อย ควรไปกันแต่หัววันนะครับ
กินข้าว กินน้ำ เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อยก่อน เพราะลุกแล้วจะเสียม้าครับ
อุปกรณ์
เลนส์ - อย่างที่ผมบอกว่า ถึงเวลาเราคงไม่มีโอกาสมานั่งเปลี่ยนเลนส์
ดังนั้น ใช้เลนส์ที่คิดว่าอยากใช้ เอาไปตัวเดียวก็พอครับ
ถ้าคุณเอาชนิดอื่นที่ต่างออกไป ก็เดินเลือกมุมที่เหมาะกับเลนส์ให้ดีเสียก่อนตั้งแต่ยังสว่าง
ขาตั้งกล้อง - ตัวนี้จำเป็น เพราะต้องถ่ายที่สปีดช้า
ขาตั้งกล้องที่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักกล้องและเลนส์เป็นสิ่งจำเป็น
เมื่อประกอบเลส์กับขาตั้งกล้อง ควรลองพรีวิวดูเพื่อเช็คความเอียงของภาพ
และน้ำหนักที่กดลงไปบนพื้นไม่ให้ไหล ระวังขาตั้งจะไหลลงน้ำด้วยนะครับ
รีโมท - ผมใช้รีโมทแบบไร้สาย ซึ่งผมว่า ประสิทธิภาพมันไม่ค่อยดีนัก
หากเทียบกับแบบมีสาย บางครั้งกดผิดมุม กล้องไม่ทำงาน อาจพลาดภาพที่ต้องการได้
ถ้าเป็นไปได้ หาแบบมีสายดีๆ ดีกว่าครับ
กล้อง - เมื่อเสียบกับขาตั้งกล้องแล้ว เช็คดูให้ดี ว่าต้องล็อคกระจก
และปิดระบบกันสั่นที่เลนส์ ปิดระบบออโต้โฟกัสด้วยครับ
รวมถึงการปรับโฟกัสล่วงหน้า ซึ่งผมจะปรับไว้ที่อินฟินิตี้ครับ
ที่เหลือก็นั่งรอเวลาครับ
หมดแล้วครับ
ที่จริง ยังมีอีกหลายภาพที่ถ่ายมา
แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ จึงตั้งค่าผิดหลายอย่าง
เช่นการตั้งค่า f สูงไป จึงต้องขุดสีบรรยากาศขึ้นมา (ผมอยากให้พอมองเห็นบรรยากาศครับ)
นอยซ์เลยบานเบอะ รวมทั้งการใช้รีโมท ทำให้ไม่สามารถควบคุมความเร็วการเปิดรับแสงได้ดี
ภาพหลายภาพจึงกลายเป็นช่วงปลายไฟที่ย้อยลงมาแล้ว ซึ่งไม่สวยครับ
ผม (คิดเอาเองนะครับ) ว่า ช่วงไฟที่สวยที่สุด คือการเก็บภาพตั้งแต่จุดแล้วมีเส้นพุ่งขึ้นมา
ระเบิดออกจนสุด พ้นจากนั้นมันจะคล้อยปลายลงตามแรงโน้มถ่วง ซึ่งไม่สวยเท่าไหร่
ผมตั้งค่าไวท์บาลานซ์เป็นแบบทังสเตนครับ มาเร่งสีน้ำเงินอีกนิดหน่อย
อยากได้ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินครับ