พยายามเสิร์ชหาอ่านข้อมูลเอง แต่ยิ่งอ่านยิ่ง งง เพราะพื้นความรู้ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว จึงต้องมาตั้งกระทู้รบกวนผู้รู้ทุกท่านเมตตาช่วยกันให้คำแนะนำหน่อยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า
เราไปทำเรื่องซื้อบ้านมือสอง แต่กลัวแบงค์ให้วงเงินกู้ไม่พอ (เราเองมีเงินสดไม่มาก แล้วบ้านก็เก่าพอควร ต้องซ่อมแซมก่อนเข้าอยู่ แต่ตัดสินใจซื้อเพราะถูกใจทำเลและราคาที่ขายให้ไม่สูงนัก รับได้) เราจึง....
1. ทำสัญญาซื้อขาย เกินกว่าราคาซื้อขายจริง (โดยทำสัญญาซื้อขายไว้ 2 ฉบับ แล้วเอาฉบับที่เกินกว่าราคาซื้อขายไปขอกู้) คร่าว ๆ คือ ซื้อขาย ราคา 3.5 ล้าน ทำฉบับจริงไว้ราคานี้ แล้วทำสัญญาซื้อขายอีกฉบับ 4.0 ล้าน แล้วเอาฉบับนี้ไปยื่นกู้ ปรากฎว่าทางธนาคารอนุมัติให้เต็มจำนวน 4.0 ล้าน (ธนาคารประเมินให้ 4.4 ล้าน อนุมัติ 90% ได้วงเงิน 4.0 ล้าน กู้ได้เต็ม)
ปัญหาคือ.... ธนาคารไม่สามารถแยกตีเช็คส่วนที่เกินให้กับเราได้ อย่างตอนนี้จะเห็นว่าเรากู้ได้เกินจากที่ซื้อขายจริง ๆ มา 5 แสน แต่ธนาคารบอกว่ากฎหมายใหม่ ธนาคารไม่สามารถแยกเช็คให้ได้ค่ะ
คำถามคือ.....เราจะทำไงดีค่ะ เราต้องไว้ใจผู้ขายว่าพอได้เช็คแล้ว เคลียร์ริ่งเสร็จแล้ว จะคืนเงินให้เราอย่างงั้นรึค่ะ (ซึ่งย้ายไปอยู่ตจว. และเราก็มีแค่เบอร์มือถือซึ่งโทรไปเค้าก็ไม่ค่อยรับ ปกติใช้ message คุยกันค่ะ) พอมีคำแนะนำในการลดความเสี่ยงตรงนี้บ้างมั๊ยค่ะ ขอความกรุณาด้วย
2. กรณีที่กู้ได้เกินอย่างงี้ ทางผู้ขายจะกลายเป็นโดนภาษีที่ราคาขาย 4.0 ล้าน แทนที่จะเป็น 3.5 ล้านที่ตกลงกันจริงรึเปล่าค่ะ เราไม่อยากให้เค้าต้องเดือดร้อน เพราะเงินส่วนเกินของเราค่ะ
3. จากข้อ 1 ในสัญญาเราตกลงกันว่าจะแบ่งกันออกค่าใช้จ่ายในการโอนคนละครึ่ง (ไม่รวมภาษี ซึ่งผู้ขายต้องจ่ายเอง และไม่รวมค่าจดจำนอง ซึ่งผู้ซื้อต้องจ่ายเอง) ไม่ทราบว่าวันโอนจะมีค่าใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากนี้อีกมั๊ยค่ะ
4. ขอคำแนะนำการปฎิบัติตัวในวันไปโอนที่กรมที่ดินด้วยค่ะ ควรทำอะไรยังไงบ้าง และต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง อย่างเรื่องโอนประปา โอนไฟฟ้า ทางผู้ขายจะทำใบมอบอำนาจไว้ให้ ไม่ทราบว่าแค่นี้เพียงพอรึเปล่าค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาเข้ามาอ่านและให้คำแนะนำล่วงหน้านะคะ เข้าใจว่าคำถามแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เราเองพยายามอ่านจากข้อมูลเก่า ๆ แต่ด้วยปัญญาน้อย ๆ ของเรา เราไม่ค่อยเข้าใจกระจ่างนัก เราหวังว่ากระทู้ของเราอันนี้จะสร้างความกระจ่างให้กับผู้อ่านท่านอื่น ๆ ด้วยเช่นกันนะคะ
+++ทุกขลาภ อยากขอความช่วยเหลือค่ะ+++ กู้ซื้อบ้านได้รับการอนุมัติเกินกว่าที่คาดไว้ จะทำยังไงดี แล้วจะโอนกับผู้ขายกันยังไง
เราไปทำเรื่องซื้อบ้านมือสอง แต่กลัวแบงค์ให้วงเงินกู้ไม่พอ (เราเองมีเงินสดไม่มาก แล้วบ้านก็เก่าพอควร ต้องซ่อมแซมก่อนเข้าอยู่ แต่ตัดสินใจซื้อเพราะถูกใจทำเลและราคาที่ขายให้ไม่สูงนัก รับได้) เราจึง....
1. ทำสัญญาซื้อขาย เกินกว่าราคาซื้อขายจริง (โดยทำสัญญาซื้อขายไว้ 2 ฉบับ แล้วเอาฉบับที่เกินกว่าราคาซื้อขายไปขอกู้) คร่าว ๆ คือ ซื้อขาย ราคา 3.5 ล้าน ทำฉบับจริงไว้ราคานี้ แล้วทำสัญญาซื้อขายอีกฉบับ 4.0 ล้าน แล้วเอาฉบับนี้ไปยื่นกู้ ปรากฎว่าทางธนาคารอนุมัติให้เต็มจำนวน 4.0 ล้าน (ธนาคารประเมินให้ 4.4 ล้าน อนุมัติ 90% ได้วงเงิน 4.0 ล้าน กู้ได้เต็ม)
ปัญหาคือ.... ธนาคารไม่สามารถแยกตีเช็คส่วนที่เกินให้กับเราได้ อย่างตอนนี้จะเห็นว่าเรากู้ได้เกินจากที่ซื้อขายจริง ๆ มา 5 แสน แต่ธนาคารบอกว่ากฎหมายใหม่ ธนาคารไม่สามารถแยกเช็คให้ได้ค่ะ
คำถามคือ.....เราจะทำไงดีค่ะ เราต้องไว้ใจผู้ขายว่าพอได้เช็คแล้ว เคลียร์ริ่งเสร็จแล้ว จะคืนเงินให้เราอย่างงั้นรึค่ะ (ซึ่งย้ายไปอยู่ตจว. และเราก็มีแค่เบอร์มือถือซึ่งโทรไปเค้าก็ไม่ค่อยรับ ปกติใช้ message คุยกันค่ะ) พอมีคำแนะนำในการลดความเสี่ยงตรงนี้บ้างมั๊ยค่ะ ขอความกรุณาด้วย
2. กรณีที่กู้ได้เกินอย่างงี้ ทางผู้ขายจะกลายเป็นโดนภาษีที่ราคาขาย 4.0 ล้าน แทนที่จะเป็น 3.5 ล้านที่ตกลงกันจริงรึเปล่าค่ะ เราไม่อยากให้เค้าต้องเดือดร้อน เพราะเงินส่วนเกินของเราค่ะ
3. จากข้อ 1 ในสัญญาเราตกลงกันว่าจะแบ่งกันออกค่าใช้จ่ายในการโอนคนละครึ่ง (ไม่รวมภาษี ซึ่งผู้ขายต้องจ่ายเอง และไม่รวมค่าจดจำนอง ซึ่งผู้ซื้อต้องจ่ายเอง) ไม่ทราบว่าวันโอนจะมีค่าใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากนี้อีกมั๊ยค่ะ
4. ขอคำแนะนำการปฎิบัติตัวในวันไปโอนที่กรมที่ดินด้วยค่ะ ควรทำอะไรยังไงบ้าง และต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง อย่างเรื่องโอนประปา โอนไฟฟ้า ทางผู้ขายจะทำใบมอบอำนาจไว้ให้ ไม่ทราบว่าแค่นี้เพียงพอรึเปล่าค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาเข้ามาอ่านและให้คำแนะนำล่วงหน้านะคะ เข้าใจว่าคำถามแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เราเองพยายามอ่านจากข้อมูลเก่า ๆ แต่ด้วยปัญญาน้อย ๆ ของเรา เราไม่ค่อยเข้าใจกระจ่างนัก เราหวังว่ากระทู้ของเราอันนี้จะสร้างความกระจ่างให้กับผู้อ่านท่านอื่น ๆ ด้วยเช่นกันนะคะ