ผมเห็นหลายคนบอกว่า "สุเทพ" ตีบทแตก เล่นละครเพื่อปกป้องพรรคประชาธิปัตย์
ท่านที่คิดแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะต้องการปลอบใจตัวเองจากความล้มเหลวภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกแสดงออกมาชัดวันนี้ ก็คงต้องคิดใหม่ครับ เพราะวิธีตัดพรรคออกจากความรับผิดชอบในทางกฎหมาย มีอีกหลากหลายวิธีที่ไม่ต้องมาทำให้พรรคถูกมองว่าไม่มีระบบ หรือผิดใจกันเองเช่นนี้
เรื่องนี้เข้าใจไม่ยากอะไร ตอนแรกพรรคหนุนคุณสุเทพตอนออกมาจัดเวทีค้านนิรโทษกรรมต่อยอดจากผ่าความจริง ตอนนั้นคุณอภิสิทธิ์พร้อมร่วมเวที คุณกรณ์ประกาศจะลาออกมาลงด้วยเต็มตัว แต่ต่อมาพอเรื่องนิรโทษกรรมตกไป คุณสุเทพไม่หยุด แต่ยกระดับต่อที่เรื่องล้มรัฐบาลโดยยังไม่มีการทำผิดกฎหมาย พรรคก็ยังไปด้วย แต่เริ่มเกิดคำถามเบาๆ ถึงจุดยืนของพรรคในการใช้เวทีสภา แต่คุณสุเทพก็ไม่หยุด ไปต่อเรื่องระบอบพระมหากษัตริย์สมบูรณ์ ปรับมาเป็นสภาประชาชน และบุกล้อมสถานที่ราชการ โดยที่คนในพรรคเองก็เริ่มไม่เห็นด้วย จนคุณกรณ์ออกมาแสดงความเห็นสงวนท่าที แต่คุณสุเทพก็ไม่หยุด เดินหน้าบุกศูนย์ราชการและยึดศาลากลาง ประกาศพร้อมตายท้าทายหมายจับ
คุณอภิสิทธิ์ คือ คนที่หนักใจที่สุด ว่าจะเลือกไปกับเพื่อนเป็นเพื่อนตาย หรือเลือกรักษาพรรคไว้ด้วยกัน
คำตอบที่ได้วันนี้ ก็คือความคลุมเครือ ส.ส. ลาออกไม่ได้ แต่ไปร่วมกิจกรรมได้ แต่พรรคจะไม่รับประโยชน์จากผลพวงของวิถีนอกรัฐธรรมนูญ
นี่คือการแสดงจุดยืนที่มีปัญหา เพราะการที่พรรคต้องมาแถลงย้ำว่าจะไม่รับประโยชน์จากวิถีนอกรัฐธรรมนูญ และไม่สนับสนุนแนวทางคุณสุเทพอย่างชัดแจ้ง ก็แสดงว่าพรรคกำลังยอมรับกลายๆ ว่าที่คุณสุเทพทำอยู่ ก็อาจเป็นหรือนำไปสู่วิถีนอกรัฐธรรมนูญได้ มิเช่นนั้นคุณอภิสิทธิ์จะแถลงย้ำทำไม ในเมื่อไม่มีฝ่ายอื่นที่มาเสนออะไรที่จะให้ประโยชน์แก่ประชาธิปัตย์ได้ นอกจากผลพวงของการเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ
ในขณะที่ทีม นายกฯ เตรียมบทมาล่วงหน้า แถลงไปก่อนตั้งแต่บ่ายโมงให้ชัดว่า สภาประชาชน อยู่นอกวิถีรัฐธรรมนูญ ยิ่งเป็นภาพที่ตอกย้ำชัดเจน ระหว่าง ผู้นำรัฐบาลที่มีจุดยืนชัดในหลักการ กับ ผู้นำฝ่ายค้านที่รักพี่เสียดายน้อง
ดังนั้น คนที่บอกว่าคุณสุเทพเล่นละคร โปรดเลิกปลอบใจ หรือหลงเชื่อคนปลอบใจได้แล้วครับ
คืนนี้ คุณสุเทพคงช้ำใจหนัก แต่ไม่แน่ คุณอภิสิทธิ์อาจช้ำใจหนักกว่า
ส่วนคุณอลงกรณ์รู้สึกอย่างไร ผมอยากรู้ แต่ไม่อาจทราบได้.
https://www.facebook.com/verapat
อ.วีรพัฒน์ วิเคราะห์ "ม๊อบโจรใต้"
ท่านที่คิดแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะต้องการปลอบใจตัวเองจากความล้มเหลวภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกแสดงออกมาชัดวันนี้ ก็คงต้องคิดใหม่ครับ เพราะวิธีตัดพรรคออกจากความรับผิดชอบในทางกฎหมาย มีอีกหลากหลายวิธีที่ไม่ต้องมาทำให้พรรคถูกมองว่าไม่มีระบบ หรือผิดใจกันเองเช่นนี้
เรื่องนี้เข้าใจไม่ยากอะไร ตอนแรกพรรคหนุนคุณสุเทพตอนออกมาจัดเวทีค้านนิรโทษกรรมต่อยอดจากผ่าความจริง ตอนนั้นคุณอภิสิทธิ์พร้อมร่วมเวที คุณกรณ์ประกาศจะลาออกมาลงด้วยเต็มตัว แต่ต่อมาพอเรื่องนิรโทษกรรมตกไป คุณสุเทพไม่หยุด แต่ยกระดับต่อที่เรื่องล้มรัฐบาลโดยยังไม่มีการทำผิดกฎหมาย พรรคก็ยังไปด้วย แต่เริ่มเกิดคำถามเบาๆ ถึงจุดยืนของพรรคในการใช้เวทีสภา แต่คุณสุเทพก็ไม่หยุด ไปต่อเรื่องระบอบพระมหากษัตริย์สมบูรณ์ ปรับมาเป็นสภาประชาชน และบุกล้อมสถานที่ราชการ โดยที่คนในพรรคเองก็เริ่มไม่เห็นด้วย จนคุณกรณ์ออกมาแสดงความเห็นสงวนท่าที แต่คุณสุเทพก็ไม่หยุด เดินหน้าบุกศูนย์ราชการและยึดศาลากลาง ประกาศพร้อมตายท้าทายหมายจับ
คุณอภิสิทธิ์ คือ คนที่หนักใจที่สุด ว่าจะเลือกไปกับเพื่อนเป็นเพื่อนตาย หรือเลือกรักษาพรรคไว้ด้วยกัน
คำตอบที่ได้วันนี้ ก็คือความคลุมเครือ ส.ส. ลาออกไม่ได้ แต่ไปร่วมกิจกรรมได้ แต่พรรคจะไม่รับประโยชน์จากผลพวงของวิถีนอกรัฐธรรมนูญ
นี่คือการแสดงจุดยืนที่มีปัญหา เพราะการที่พรรคต้องมาแถลงย้ำว่าจะไม่รับประโยชน์จากวิถีนอกรัฐธรรมนูญ และไม่สนับสนุนแนวทางคุณสุเทพอย่างชัดแจ้ง ก็แสดงว่าพรรคกำลังยอมรับกลายๆ ว่าที่คุณสุเทพทำอยู่ ก็อาจเป็นหรือนำไปสู่วิถีนอกรัฐธรรมนูญได้ มิเช่นนั้นคุณอภิสิทธิ์จะแถลงย้ำทำไม ในเมื่อไม่มีฝ่ายอื่นที่มาเสนออะไรที่จะให้ประโยชน์แก่ประชาธิปัตย์ได้ นอกจากผลพวงของการเคลื่อนไหวของคุณสุเทพ
ในขณะที่ทีม นายกฯ เตรียมบทมาล่วงหน้า แถลงไปก่อนตั้งแต่บ่ายโมงให้ชัดว่า สภาประชาชน อยู่นอกวิถีรัฐธรรมนูญ ยิ่งเป็นภาพที่ตอกย้ำชัดเจน ระหว่าง ผู้นำรัฐบาลที่มีจุดยืนชัดในหลักการ กับ ผู้นำฝ่ายค้านที่รักพี่เสียดายน้อง
ดังนั้น คนที่บอกว่าคุณสุเทพเล่นละคร โปรดเลิกปลอบใจ หรือหลงเชื่อคนปลอบใจได้แล้วครับ
คืนนี้ คุณสุเทพคงช้ำใจหนัก แต่ไม่แน่ คุณอภิสิทธิ์อาจช้ำใจหนักกว่า
ส่วนคุณอลงกรณ์รู้สึกอย่างไร ผมอยากรู้ แต่ไม่อาจทราบได้.
https://www.facebook.com/verapat