ความคิดของผมที่กำลังจะมีลูกอายุ 17

ผมเป็นเด็กอายุ 17 ปีนะคับ ผมจะมาเล่าเรื่องที่ผมจะคิดต่อจากนี้นะคับ เรื่องก็คือว่า ผมได้แอบชอบผู้หญิงคงหนึ่งตั้งแต่ ป.5 แต่เราเรียนคนละห้องกันแล้ว พอขึ้น ป.6 เราก็ได้เรียนห้องเดียวกัน แต่ผมก็ได้แค่แอบชอบเธออยู่ แล้ว พอจบ ป.6 ผมได้บอกรักเธอ แต่เธอต้องไปเรียนต่อที่เยอรมัน แล้วเราก็ได้คบกันเพียงแค่ช่วงหนึ่ง ซึ่งตอนนั้น เรายังไม่มีโทรศัพท์ดีๆ ที่จะใช้เน็ตโทรหากัน เราเลยสู้เงินค่าโทรศัพท์ที่จะโทรหากันไม่ไหว แล้วเราก็เริ่มห่างกัน แล้วเธอก็มีแฟนใหม่ แต่เธอก็กลับมาประเทศไทยทุกปีนะแต่ผมก็ไม่ได้เจอเธอเลย เพราะผมไม่กล้าที่จะเจอเธอ แล้วเธอก็ได้กลับมาอีกทีในปีนี้ แล้วเธอพึ่งเลิกกับแฟนมาหมาดๆ แล้วเราก็ได้มาคบกันปี 2556 เดือน 7 ซึ่งตอนนี้ได้คบกันจะ 5 เดือนแล้ว ผมรักเธอมากแล้วผมก็ไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลยสักครั้ง ผมก็พยายามที่จะดูแลเธอให้ดีที่สุด ผมเอาใจเธอมาก และเข้าใจเธอมากว่าเธอต้องเรียน เราจึงจะได้คุยกัน ตอน เที่ยงคืนถึง ตี 3 เพราะว่าเวลาเราต่างกัน 6 ชม ผมก็เข้าใจเธอ แต่เราก็มีทะเลาะกันบ้าง คือเรื่องที่ผมเป็นคนขี้หึง แต่ช่วงนี้เราก็เข้าใจกันแล้ว แล้วเราก็มีความคิดอยากอยู่ด้วยกันมาก จนคุยกันว่าท่ากลับมาปีหน้าเราจะมีลูกด้วยกัน เธอก็ตกลง (แต่เราก็ยังไม่เคยมีอะไรกันนะ) แต่เราได้ใช้เวลาที่คบกันในไทย มา 2 อาทิตย์แล้วเรามีความสุขกันมาก ผมก็เลยคิดที่จะมีลูกกับเธอ อีกอย่างผมเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ติดเที่ยว แล้วที่บ้านผมก็มีฐานะการเงินดี ผมเลยตกลงจะมีลูกกับเธอ (เราจะได้เจอกันอีก 8 เดือน คือประมาณเดือน 7 ปี 2557) ผมก็ได้คิดมาดีแล้วอีกอย่างหนึ่งผมก็ เป็นคนที่อยากจะมีลูกอยู่แล้ว แล้วที่ผมคิดจะมีลูกผมก็คิดว่ามันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ แต่ผมไม่คิดว่ามันมีจะบกพร่องใดๆ เมื่อความรับผิดชอบผมเกิดแล้ว ผมไม่ได้คิดใช้อารมณ์ชั่ววูบทำไป  แล้วผมก็พร้อมที่จะทิ้งชีวิตไวรุ่นแล้วใช้คำว่าพ่อแล้ว แล้วผมก็จะทำให้เธอไม่คิดว่า ไม่น่ารีบมีเลย ผมจะทำให้เธอไม่น้อยหน้ากับตอนที่เธอเรียนเลย ซึ่งผมเป็นคนทำลายอนาคตที่ดีวันข้างหน้าของเธอ ผมจะทำให้เธอสุขสบายที่สุด แต่ผมก็วางแผนอนาคตไว้ทุกอย่างแล้วหลังจากมีลูก ผมก็จะขอเธอแต่งงานหลังบวชเสร็จช่วงปลายปีอายุ 21 ซึ่งลูกก็เกือบจะ 3 ขวบแล้ว แล้วผมก็รับธุรกิจของแม่ผมครึ่งหนึ่งมาทำตั้งแต่อายุ 18 ซึ่งแม่ผมก็จะให้อยู่แล้ว แล้วผมก็จะประกอบอาชีพนี้ไปจนอายุ 25ปี ซึ่งหน้าจะมีเงินเก็บพอสมควร ผมจะนำเงินไปทำไร่องุ่นซึ่งเป็นความฝันของผมมานาน แล้วผมก็จะทำไวน์องุ่นส่งนอก แล้วพออายุ 40 ผมก็จะโอนธุรกิจนี้ไปให้ลูก ซึ่งลูกผมก็อายุ 21 ปีแล้ว ท่าผมได้ลูกชายจะตั้งชื่อว่าน้อง เวย์ หรือน้อง รัก ท่าเป็นผู้หญิงก็จะตั้งชื่อว่าน้องรัก ส่วนชื่อจริงจะให้พระท่านตั้ง ผมจะเลี้ยงลูกอย่างตามใจในสิ่งที่ควรตามใจ แล้วจะคอยแนะนำเค้าให้รู้จักทุกเรื่อง ให้เค้าใช้ความคิดตัวเองตัดสินใจ ว่าจะลองหรือจะถอย  ผมเป็นคนชอบวางแผนชีวิตมากซึ่งก่อนหน้าจะมีเธอผมได้วางแผนไว้ว่า ผมจะออกจากบ้านไปอยู่ตาม แหล่งร้านอาหารเพื่อเล่นดนตรีกลางคืนเก็บเงินไปจนอายุ 25 แล้วมาทำไร่องุ่น แต่ผมจะหาคนรักแต่งงานตั้งแต่ อายุ 21 แล้วมีลูกตอน อายุ 27 ซึ่งตอนนี้ผมมีเธอแล้วผมเลยจะล้ะทิ้งชีวิตที่จะสนุกแล้วคิดไว้บางช่วงออก เพื่ออยากใช้ชีวิตกับเธอ ผมจะขอดูแลเธอให้ดีที่สุด ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
จขกท มาแบ่งปันแนวคิดใช่ไม๊ งั้นเราขอแบ่งปันบ้าง คงไม่ยาวเกินที่จะอ่านนะ เม่าอ่าน



เราอยู่ในวัยเท่าๆกับจขกท. และบ้านเราก็ทำธุรกิจมาเยอะเหมือนกัน

จขกท บอกว่ารายได้เกือบ100คนปริญญาตรี ยังมั่นใจขนาดนี้
จขกท รู้รึเปล่าว่าการบริหารธุรกิจเดือนนึงๆใช้เงินเยอะแค่ไหน

ตอนเราเกิด (ปี2538) ทองคำยังบาทละประมาณ1หมื่นบาท
ครอบครัวเรามีธุรกิจที่ทำรายได้ในหลักที่ค่อนข้างมาก เกิน100คนปริญญาตรีแน่นอนทุกเดือน
แม่เราทำงานแบงค์ต่างชาติแห่งหนึ่งและช่วยบริหารธุรกิจที่บ้านด้วย

แต่เราก็ไม่เคยคิดว่าถ้าเป็นเราบริหาร จะทำได้ดีเหมือนยุคก่อนรึเปล่า ทำไม จขกท ถึงมั่นใจนัก ยังไงมุมมองของเด็กและผู้ใหญ่ที่ผ่านประสบการณ์และเรียนมามากมายก็ย่อมมีประสิทธิภาพมากกว่า

พ่อแม่เราจะบอกเสมอ ว่าให้เราตั้งใจเรียนให้ดีก็พอ ตอนนี้สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการเรียน เรื่องอื่นไม่ต้องคิด เรียนให้สำเร็จก่อน

แต่เราอยากจะถามจขกท นิดหน่อย ถ้าไม่รบกวนเกินไป ^^"

1.พอจะบอกได้ไม๊ว่าพ่อแม่จขกท ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ถึงได้มั่นใจในรายได้มั่นคงขนาดนั้น?

2.จขกทบอกว่า เมื่อตอนป6 ครอบครัวยังพึ่งเริ่มต้นธุรกิจ แต่ตอนนี้ผ่านมาประมาณ5-6ปี ธุรกิจสามารถทำให้จขกท มั่นใจขนาดนี้ แปลว่า พ่อแม่คุณคงเก่งมาก เริ่มจากธุรกิจที่ไม่พอจ่ายค่าโทรศัพท์ จนเจริญรุ่งเรืองขนาดนี้ภายใน5-6ปี

แต่...ทำไมถึงไม่ห้ามเลยหรอ ที่ลูกคิดจะมีลูกตั้งแต่อายุแค่เนี้ย
ถ้ามีความรู้ถึงขั้นบริหารธุรกิจได้ดีขนาดนี้ น่าจะรู้ว่าการที่ลูกวางแผนชีวิตแบบนี้มันไม่ได้มีอะไรมารับประกันเลยว่าชีวิตจะไม่ล้มเหลว มีอัตราเสี่ยงสูงพอสมควร เนื่องจากเด็กวัยเท่านี้ ก็ยังคงขาดประสบการณ์ในหลายๆด้าน

จึงเทียบได้กับการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ไม่น่าลงทุนอย่างยิ่ง

3.จขกท เรียนอะไรอยู่ ทำไมพ่อแม่ถึงมั่นใจที่จะปล่อยกิจการที่มีผลตอบแทนดีขนาดนี้ให้คนที่ไม่มีประสบการณ์ดูแล?

4.จขกท คิดว่าตัวเองมีความรู้พอที่จะบริหารกิจการแล้วหรอ ด้วยวัยแค่นี้
และยิ่งถ้ามีลูกตั้งแต่เรียนไม่จบ มันจะทำให้ต้องแบ่งเวลาในหลายๆด้านที่มากเกินไป ถ้าให้เวลาเรียนน้อย ก็ตก ให้เวลาลูกน้อย ลูกก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา
จขกท ได้วางแผนการณ์ในอนาคตเรื่องพวกนี้ไว้บ้างรึเปล่า?
เราเองก็เรียนนอกระบบและเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เราก็รู้ว่าการเรียนนอกระบบยิ่งต้องลงทุนลงเวลามากกว่าในระบบอีกหลายเท่า
จขกทคิดว่าจะแบ่งเวลายังไงหรอ?




//ละ จขกท คิดจะลงทุนทำไร่องุ่น ด้วยการเก็บเงิน7ปี ก็น่าจะได้ประมาณ50ล้าน ละเอาเงินไปซื้อที่ทำไร่ ก็น่าจะประมาณ 15-20ล้านถึงจะพอส่งออกและตั้งเครื่องจักร ถ้าตอนนั้นยังมีที่ขายนะ ก็น่าจะราคาขึ้นประมาณนี้ตามค่าเงินเครื่องจักรก็ จิ๊บๆ ประมาณ5-10ล้าน ติดตั้งซัก2เครื่องในเบื้องต้น
ก็จะเหลือประมาณ10-20ล้านในการบริหารธุรกิจ ซึ่งจขกทวางแผนส่งออก ก็น่าจะจมทุนประมาณเดือนละ2ล้าน เพราะตอนแรกคงยังไม่มีคนนำเข้ามากนักเพราะยังโนเนม แต่ต้องรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงที่และดีขึ้นเพื่อตีตลาดแข่งกับคู่แข่งที่ทำมานานแล้ว จขกท ได้คำนวนความเสี่ยงตรงนี้ไว้รึเปล่า

แผนการที่จขกท วางไว้ ไม่มีอะไรอ้างอิงกับตลาดโลก ตลาดสินค้า กลุ่มลูกค้า และมุมมองที่พูดถึงเรื่องค่าเงิน การเปลี่ยนแปลงของราคาต้นทุนในอนาคตเลย ทุกอย่างดูง่ายไปหมดเหมือนเล่นเกมปลูกผัก

อยากจะแนะนำจขกท ว่า น่าจะเรียนให้จบก่อน ค่อยเริ่มวางแผนก็ยังไม่สาย
ตัวเราเอง เราได้รับข้อมูลด้านเศรษฐกิจจากแม่ที่เคยเป็นนักวิชาการวิเคราะห์ตลาดและข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจที่แม่จะพูดให้ฟังตั้งแต่เด็ก รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เรายังไม่กล้าคิดลงทุนอะไรเองเลย แต่จขกท ไม่ได้พูดถึงเรื่องพวกนี้เลย ??!

เม่ารดน้ำ

อยากให้จขกท ลองเก็บไปทบทวนดูน้า ว่าตอนนี้ ณ เวลานี้ สิ่งที่ควรทุ่มเทเวลาให้อะไรเม่ารดน้ำ


//เพิ่มเติม พึ่งเหน จขกทบอกว่ามีพี่5คน และจขกท แน่ใจได้อย่างไรว่ากิจการพ่อแม่จะตกเป็นของจขกท และเงินที่ได้รับเข้าบ้านอยู่ทุกเดือนเนี่ย หารกันยังไง ณ ปัจจุบัน เพราะพี่ๆก็คงไม่ยอมให้จขกทรับไปคนเดียวหรอก และถ้าแบ่ง5คน ก็ตกแค่คนละ2-3แสน ซึ่งไม่ได้มากมายอะไรเลยเม่าสงสัย

////ขออนุญาติแก้ไขเทกซ์เล็กน้อย พอมาอ่านอีกรอบรู้สึกขัดหูขัดตา ^^"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่