รธน กำหนดให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ประชาชนร่วมกันสร้างรธน ผ่าน สสร. (ไม่ใช่สภานิติบัญญัติที่ตั้งโดยคมช ซึ่งเป็นที่มาของรธน.50 ส่วนรธน.40 เขียนโดยสสร.) เมื่อสร้างเสร็จ รธน.คือกฎหมายสูงสุดของประเทศทุกคนต้องเชื่อฟัง รธน.กำหนดอำนาจ 3 อำนาจสูงสุดที่เป็นอิสระจากกันแต่คานอำนาจกัน คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ นิติบัญญัติคือสภาที่มีทั้ง สส.สว.ซึ่งสส.และสว.ที่มาจากเสียงปชช.มีศักดิ์สูงกว่าสว.ที่สรรหาหรือลากตั้งเข้ามา นิติบัญญัติชื่อก็บอกอยู่แล้วให้บัญญัติกฎหมายเพื่อใช้ในการบังคับใช้ในสังคมเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือประเทศ อำนาจบริหารคือ ครม. ส่วนอำนาจตุลาการคือศาลยุติธรรม(3 ศาลคือ ศาลชั้นต้น อุธรณ์ ฎีกา) ส่วนคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ คมช.เปลี่ยนชื่อเป็น"ศาลรัฐธรรมนูญ" จะได้ขลังหลอกคนได้ เป็นองค์กรอิสระมีหน้าที่ตรวจสอบกฎหมายต่างๆ(ไม่ใช่ร่าง รธน.ที่จะแก้ไขตัวรธน.เอง)ที่เป็นกฎหมายทั่วไปว่าขัดแย้งรธน.หรือไม่ การแก้ไขรธน.นั้นเป็นอำนาจของปชช.ที่ส่งผ่านมายังผู้แทนปชช.คือสส.หรือสว.เลือกตั้งให้เป็นผู้ดำเนินการแทน จึงเป็นอำนาจเต็มของสภาที่จะแก้ไขรธน. และรธน.เขียนไว้ว่าจะแก้รธน.ได้โดยผ่านม.291 และไม่ได้เขียนให้ตุลาการรธน.มีส่วนในการตรวจสอบเช่นเดียวกับกฎหมายทั่วไป แต่ตลก.รธน.ชุดนี้ทำผิดรธน.บอกว่าตนเองมีอำนาจและวินิจฉัยว่าไม่สามารถแก้ไขรธน.ที่ต้องการให้สว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดได้ด้วยเหตุผลที่ประหลาดบอกว่าไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สภาจึงไม่ยอมรับการวินิจฉัยครั้งนี้ ถ้ายอมรับแปลว่าต่อไปจะไม่สามารถแก้ไขได้เลย อำนาจสูงสุดจะเป็นของตลก.เหล่านี้ไป ดังนั้น ---->สภาเป็นตัวแทนของประชาชนดังนั้นจึงมีอำนาจสูงสุดในการแก้ไขรธน.
อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของใคร