เรกับแฟนคบกันฟลายปีแล้ว
ตอนนี้เขากลับไปทำงานฟรีแลนซ์ที่บ้านที่อยุธยา
เราพักอยู่กรุงเทพ
เราสองคนนัดเจอกัน โดยเฉลี่ยน เดือนละ 2-3ครั้ง
บางช่วงที่เขายุ่งๆ ก็เดือนละครั้งหรือ6 สัปดาห์ต่อครั้ง
ส่วนใหญ่เขาเป็นฝ่ายขับมาหาเราในกรุงเทพ ปต่ช่วงไหนเขายุ่ง เราก็จะนั่งรถไปหาเขาที่ฟิวเจอร์รังสิต แต่น้อยครั้งค่ะ
เราคุยโทรศัพท์กันวันละ 1ครั้ง บางวัน ถ้าเขาโทรมาแล้วเราไม่ได้รับ พอเราโทรกลับหากเขายุ่งๆอยู่ก็ขะไม่รับ สรุปวันนั้นก็จะไม่ได้คุยกัน
โทรศัพท์กันครั้งละ5-30 นาที โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 15 นาที ปกติจะโทรหากันช่วงหลังสองทุ่มเป็นต้นไป
หากวันไหนเราโทรหาในช่วงกลางวันหรือบ่ายๆเย็นๆ ที่ทราบว่าเขาไม่มีงานด่วน ก็จะได้คุยกันอย่างมาก 10 นาที
เขาไม่เล่นโซเชียลเนทเวิค หรือแชททุกชนิด อย่างมากคือ อีเมล เขาไม่ยอดโหลด เราก็ไม่ว่าอะไร
งานที่เขาทำจะยุ่งเป็นวันๆ ไม่บ่อยนัก ปกติจะยุ่งเวลาไปติกต่อลูกค้าช่วง8-17.00น. ตามเวลาห้างร้าน
สมัยก่อนที่เขาอยู่จังหวัดเดียวกับดรา ก็เจอกันประมาณ2สัปดาต่อครั้ง คุยกันไม่เกินวันละครั้ง การเจอกันคือการเจอตอนเย็นหลังเลิกงาน เพราะเสาร์อาทิตเขากลับบ้านอยุธยา
เราเลิกงานก่อน จึงเป็นฝ่ายไปหาเขาแถวที่ทำงานเขาทุกครั้ง เขาไม่เคยมาหาทางเราเลย ..ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรค่ะ เหนื่อยแค่ไหนเราไปได้ เราว่างานเขาเหนืาอยกว่าเรา แล้วเราก็กลับบ้านเอง ไปบีทีเอสต่อรถสะดวกค่ะ
เกือบทุกครั้งที่นัดเจอกัน เราเป็นฝ่ายเรียกร้อง
เราค่อนข้างโรแมนติก ชอบซื้อดอกไม้ หาของน่ารักๆ ทำการ์ด ทำของไปให้เขา ส่วนเขาจะซื้อขนมมาฝากเราบ้างเมื่อไปในสถานที่แปลกๆใหม่ๆมา
เขาบอกว่าเขาจริงจังกันเรา แต่ช่วงนี้ เรารู้สึกว่าโดนทิ้งขว้าง ชีวิตรักไม่มีความสุข
ตลอดมาเราไม่คิดอะไร เราแค่อยากทำให้เขาอยูากับเราแล้วมีความสุข แต่ช่วงนี้เราเริ่มเปรียบเทียบความสัมพันของเรา กับของเพื่อนเราที่มีกับแฟนเขา หลายๆคู่
เราเพิ่งรู้สึกตัวชัดเจนว่า เหมือนเราเอาใจเขาอยู่ฝ่ายเดียว เราคิดถึงเขาบ่อยมาก ตลอดเวลาเลย ทั้งๆที่คบกันหลายปีแล้ว และทั้งๆที่เขาแอบมีอื่นมาตลอดถึง5 คน
เราพูดกับเขาตรงๆ แล้ว เขาบอกว่า เขาเป็นคนแบบนี้ และทำอย่างนี้กับเรามานานแล้ว เขาสม่ำเสมอนะ
แต่เราอยากให้ เราสองคนเจอกันบ่อยกว่านี้ หรือคุยกันบ่อยกว่านี้ก็ได้ บางทีเรารู้สึกว่าเราแทบจะไม่รู้จักเขาอยู่แล้ว รู้แค่จากการถาม คุยกันว่าวันๆเขาทำอะไร ซึ่งเราก็พยายามเชื่อใจเขาว่าเขาซื่อสัตย์
และเราก็รู้สึกว่าเขาแทบไม่รู้จักเรา เราเปนคนเซ้นซิทีฟ คิดมาก พอเราคิดมากท เขามักบอกให้เราิกดูละครไทยน้ำเน่า เลิกดูมิวสิคเพลงที่มันเพ้อๆ แต่ความจริงคือ เราแทบไม่ดูละคร ตอนนี้มีเรื่องเกียวที่ดูคือลำยอง ดูแค่บางตอน ส่วนมิวสิคเพลงไทยมเราไม่ได้ดูมาตั้ง3ปีกว่าแล้ว เราชอบเพลงปอป แรพ ฝรั่ง..เขาแทบไม่รู้จักเรา
เราเหงา มีผู้ชายที่เราติดต่องานหลายๆคน ขอติดต่อกับเราส่วนตัว แต่เราปฎิเสธไป ขอบลอกไลน์เขา เพราะไม่อยากได้ชื่อว่านอกใจแฟน แต่เพื่อนเราก็บอกว่าลองคุยดู อาจทำให้หายเหงาและรู้สึกแย่ได้
เราไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ยกเว้น กับคนรักของเรา ปัจจุบันเรายังไม่แน่ใจเลยว่าจะร่วมอนาคตกับเขาได้ไหม เราอยากรุ้จีกเขามากกว่านี้
ทำยังไงดีคะ เราเคยเลิกกันหลายรอบแล้ว แต่สุดท้ายก็คืนดีกัน ไม่เขาก็เราที่กลับมาหากันก่อน ในระหว่างที่เลิก เราแย่มากๆๆ เศร้าตลอดเวลา แทบไม่อยากตักข้าวเข้าปาก
เราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้ เขาแข็งเกินกว่าจะเปลี่ยน เราอยากให้เขาเอาใจใส่เราบ้าง
เรารักเขา ไม่ว่าฐานะ หน้าตา เขาจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ไม่กล้ามั่นใจว่าเขาจริงจังกับเราจริง
เรามองย้อนไปสมัยทำงานที่เราไปหาเขาทุกครั้งร่วม2ปี เราแอบรู้สึกว่าเขาไม่ได้ถนอมเราอย่างที่ครอบครัวเราถนอมเราเลย เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้สึกว่าการนั่งรถเวลา3-4ทุ่มมันเสี่ยงภัยแค่ไหน เขาเหนื่อยงานค่ะ เขาคงเหนื่อยที่ต่องขับมาส่งเราแล้วขับกลับไป
มีคำแนะนำอะไรให้เรามั้ยคะ เราสับสน อยากเลิก แต่รัก เลยอยากคบต่อและพยายาม เราพยายามปรับ แต่เราไม่นู้สึกว่าเขาอยากปรับบ้างเลย
จริงๆมันเรื่องเล็กน้อย เราแค่อยากให้เขาเอาใจใส่ เทคแคร์เรามากกว่านี้
สภาพปัจจุบันที่เป็นอยู่ทำให้เราไม่มั่นใจว่าการมีครอบครัวร่วมกับเขาจะทำให้เรามีความสุข
(เราคบกันตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ สมัยนั้น เขานั่งรถเมล์มาส่งเราเกือบทุกวัน ต่างคนต่างไม่มีภาระอะค่ะ)
หรือเพราะรักเราเรามันเห่าแล้ว เราพยายามเซอร์ไพร้ส เขาก็ใส่ใจกะเราได้ประมาณ2วันก็เหมือนเดิม
ส่วนเวลาเขาซื้อขนมให้เราหรือให้ของวันเกิด เราไม่รู้สึกอะไร เฉยๆทุกครั้ง มันมักเป็นของที่ไม่ถูกใจเราอย่างมากทุกวันเกิดค่ะ
ขอคำแนะนำ อะไรก็ได้ค่ะ ที่เห็นว่าสมควร
Totally BluE รบกวนขอคำแนะนำสำหรับคนสับสนในชีวิตรักตัวเอง (ยาวค่ะ)
ตอนนี้เขากลับไปทำงานฟรีแลนซ์ที่บ้านที่อยุธยา
เราพักอยู่กรุงเทพ
เราสองคนนัดเจอกัน โดยเฉลี่ยน เดือนละ 2-3ครั้ง
บางช่วงที่เขายุ่งๆ ก็เดือนละครั้งหรือ6 สัปดาห์ต่อครั้ง
ส่วนใหญ่เขาเป็นฝ่ายขับมาหาเราในกรุงเทพ ปต่ช่วงไหนเขายุ่ง เราก็จะนั่งรถไปหาเขาที่ฟิวเจอร์รังสิต แต่น้อยครั้งค่ะ
เราคุยโทรศัพท์กันวันละ 1ครั้ง บางวัน ถ้าเขาโทรมาแล้วเราไม่ได้รับ พอเราโทรกลับหากเขายุ่งๆอยู่ก็ขะไม่รับ สรุปวันนั้นก็จะไม่ได้คุยกัน
โทรศัพท์กันครั้งละ5-30 นาที โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 15 นาที ปกติจะโทรหากันช่วงหลังสองทุ่มเป็นต้นไป
หากวันไหนเราโทรหาในช่วงกลางวันหรือบ่ายๆเย็นๆ ที่ทราบว่าเขาไม่มีงานด่วน ก็จะได้คุยกันอย่างมาก 10 นาที
เขาไม่เล่นโซเชียลเนทเวิค หรือแชททุกชนิด อย่างมากคือ อีเมล เขาไม่ยอดโหลด เราก็ไม่ว่าอะไร
งานที่เขาทำจะยุ่งเป็นวันๆ ไม่บ่อยนัก ปกติจะยุ่งเวลาไปติกต่อลูกค้าช่วง8-17.00น. ตามเวลาห้างร้าน
สมัยก่อนที่เขาอยู่จังหวัดเดียวกับดรา ก็เจอกันประมาณ2สัปดาต่อครั้ง คุยกันไม่เกินวันละครั้ง การเจอกันคือการเจอตอนเย็นหลังเลิกงาน เพราะเสาร์อาทิตเขากลับบ้านอยุธยา
เราเลิกงานก่อน จึงเป็นฝ่ายไปหาเขาแถวที่ทำงานเขาทุกครั้ง เขาไม่เคยมาหาทางเราเลย ..ตอนนั้นเราไม่คิดอะไรค่ะ เหนื่อยแค่ไหนเราไปได้ เราว่างานเขาเหนืาอยกว่าเรา แล้วเราก็กลับบ้านเอง ไปบีทีเอสต่อรถสะดวกค่ะ
เกือบทุกครั้งที่นัดเจอกัน เราเป็นฝ่ายเรียกร้อง
เราค่อนข้างโรแมนติก ชอบซื้อดอกไม้ หาของน่ารักๆ ทำการ์ด ทำของไปให้เขา ส่วนเขาจะซื้อขนมมาฝากเราบ้างเมื่อไปในสถานที่แปลกๆใหม่ๆมา
เขาบอกว่าเขาจริงจังกันเรา แต่ช่วงนี้ เรารู้สึกว่าโดนทิ้งขว้าง ชีวิตรักไม่มีความสุข
ตลอดมาเราไม่คิดอะไร เราแค่อยากทำให้เขาอยูากับเราแล้วมีความสุข แต่ช่วงนี้เราเริ่มเปรียบเทียบความสัมพันของเรา กับของเพื่อนเราที่มีกับแฟนเขา หลายๆคู่
เราเพิ่งรู้สึกตัวชัดเจนว่า เหมือนเราเอาใจเขาอยู่ฝ่ายเดียว เราคิดถึงเขาบ่อยมาก ตลอดเวลาเลย ทั้งๆที่คบกันหลายปีแล้ว และทั้งๆที่เขาแอบมีอื่นมาตลอดถึง5 คน
เราพูดกับเขาตรงๆ แล้ว เขาบอกว่า เขาเป็นคนแบบนี้ และทำอย่างนี้กับเรามานานแล้ว เขาสม่ำเสมอนะ
แต่เราอยากให้ เราสองคนเจอกันบ่อยกว่านี้ หรือคุยกันบ่อยกว่านี้ก็ได้ บางทีเรารู้สึกว่าเราแทบจะไม่รู้จักเขาอยู่แล้ว รู้แค่จากการถาม คุยกันว่าวันๆเขาทำอะไร ซึ่งเราก็พยายามเชื่อใจเขาว่าเขาซื่อสัตย์
และเราก็รู้สึกว่าเขาแทบไม่รู้จักเรา เราเปนคนเซ้นซิทีฟ คิดมาก พอเราคิดมากท เขามักบอกให้เราิกดูละครไทยน้ำเน่า เลิกดูมิวสิคเพลงที่มันเพ้อๆ แต่ความจริงคือ เราแทบไม่ดูละคร ตอนนี้มีเรื่องเกียวที่ดูคือลำยอง ดูแค่บางตอน ส่วนมิวสิคเพลงไทยมเราไม่ได้ดูมาตั้ง3ปีกว่าแล้ว เราชอบเพลงปอป แรพ ฝรั่ง..เขาแทบไม่รู้จักเรา
เราเหงา มีผู้ชายที่เราติดต่องานหลายๆคน ขอติดต่อกับเราส่วนตัว แต่เราปฎิเสธไป ขอบลอกไลน์เขา เพราะไม่อยากได้ชื่อว่านอกใจแฟน แต่เพื่อนเราก็บอกว่าลองคุยดู อาจทำให้หายเหงาและรู้สึกแย่ได้
เราไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ยกเว้น กับคนรักของเรา ปัจจุบันเรายังไม่แน่ใจเลยว่าจะร่วมอนาคตกับเขาได้ไหม เราอยากรุ้จีกเขามากกว่านี้
ทำยังไงดีคะ เราเคยเลิกกันหลายรอบแล้ว แต่สุดท้ายก็คืนดีกัน ไม่เขาก็เราที่กลับมาหากันก่อน ในระหว่างที่เลิก เราแย่มากๆๆ เศร้าตลอดเวลา แทบไม่อยากตักข้าวเข้าปาก
เราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์แบบนี้ เขาแข็งเกินกว่าจะเปลี่ยน เราอยากให้เขาเอาใจใส่เราบ้าง
เรารักเขา ไม่ว่าฐานะ หน้าตา เขาจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ไม่กล้ามั่นใจว่าเขาจริงจังกับเราจริง
เรามองย้อนไปสมัยทำงานที่เราไปหาเขาทุกครั้งร่วม2ปี เราแอบรู้สึกว่าเขาไม่ได้ถนอมเราอย่างที่ครอบครัวเราถนอมเราเลย เมื่อก่อนเราไม่เคยรู้สึกว่าการนั่งรถเวลา3-4ทุ่มมันเสี่ยงภัยแค่ไหน เขาเหนื่อยงานค่ะ เขาคงเหนื่อยที่ต่องขับมาส่งเราแล้วขับกลับไป
มีคำแนะนำอะไรให้เรามั้ยคะ เราสับสน อยากเลิก แต่รัก เลยอยากคบต่อและพยายาม เราพยายามปรับ แต่เราไม่นู้สึกว่าเขาอยากปรับบ้างเลย
จริงๆมันเรื่องเล็กน้อย เราแค่อยากให้เขาเอาใจใส่ เทคแคร์เรามากกว่านี้
สภาพปัจจุบันที่เป็นอยู่ทำให้เราไม่มั่นใจว่าการมีครอบครัวร่วมกับเขาจะทำให้เรามีความสุข
(เราคบกันตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ สมัยนั้น เขานั่งรถเมล์มาส่งเราเกือบทุกวัน ต่างคนต่างไม่มีภาระอะค่ะ)
หรือเพราะรักเราเรามันเห่าแล้ว เราพยายามเซอร์ไพร้ส เขาก็ใส่ใจกะเราได้ประมาณ2วันก็เหมือนเดิม
ส่วนเวลาเขาซื้อขนมให้เราหรือให้ของวันเกิด เราไม่รู้สึกอะไร เฉยๆทุกครั้ง มันมักเป็นของที่ไม่ถูกใจเราอย่างมากทุกวันเกิดค่ะ
ขอคำแนะนำ อะไรก็ได้ค่ะ ที่เห็นว่าสมควร