อุปสันตบุคคล
สิ่งอันใดหรืออารมณ์อันใดที่ยึดไว้แล้ว จับต้องแล้ว ถือมั่นแล้ว ด้วยอำนาจตัณหา มานะ และทิฎฐิ อันมีอยู่ในสันดานสิ่งอันนี้ หรืออารมณ์อันนี้
ท่านพึงสละละวางเสีย พึงปลดเปลื้องเสียให้สิ้นพึงละเสียพึงบรรเทาเสีย พึงกระทำให้มีที่สุด พึงให้ถึงซึ่งอันเกิดตามไม่ได้
มา เต วิชชตุ กิญจนํ เครื่องกังวลคือราคะโทษะ โมหะ และทิฎฐิ กังวลคือกิเลสและทุจริตอย่าให้มีในสันดาน ยํ ปุพเพ ตํ วิโสเสหิ
สิ่งใดมีในภายก่อน ท่านจงยังสิ่งนั้นให้เหือดแห้ง ปจฉา เต มาหุ กิญจนํ กังวลในภายหลังอย่าให้มีในสันดาน มชเฌ เจ โน คเหสสสิ
ท่านอย่าได้ถือเอา ณ ท่ามกลาง อุปสนโต จริสสสิ ท่านก็จักเป็นคนสงบระงับแล้วเที่ยวอยู่
..................................................................................................................................................................................
พึงเป็นคนมีสติ
อย่าถือมั่นกังวลในโลกทั้งปวง ความเสื่อมปัญญา นักปราชญ์ท่านติเตียน ความเจริญปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งปวง
ถ้าท่านสนใจก็จะรู้ว่าเป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านใด
อุปสันตบุคคล - พึงเป็นคนมีสติ คำสอนของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง
สิ่งอันใดหรืออารมณ์อันใดที่ยึดไว้แล้ว จับต้องแล้ว ถือมั่นแล้ว ด้วยอำนาจตัณหา มานะ และทิฎฐิ อันมีอยู่ในสันดานสิ่งอันนี้ หรืออารมณ์อันนี้
ท่านพึงสละละวางเสีย พึงปลดเปลื้องเสียให้สิ้นพึงละเสียพึงบรรเทาเสีย พึงกระทำให้มีที่สุด พึงให้ถึงซึ่งอันเกิดตามไม่ได้
มา เต วิชชตุ กิญจนํ เครื่องกังวลคือราคะโทษะ โมหะ และทิฎฐิ กังวลคือกิเลสและทุจริตอย่าให้มีในสันดาน ยํ ปุพเพ ตํ วิโสเสหิ
สิ่งใดมีในภายก่อน ท่านจงยังสิ่งนั้นให้เหือดแห้ง ปจฉา เต มาหุ กิญจนํ กังวลในภายหลังอย่าให้มีในสันดาน มชเฌ เจ โน คเหสสสิ
ท่านอย่าได้ถือเอา ณ ท่ามกลาง อุปสนโต จริสสสิ ท่านก็จักเป็นคนสงบระงับแล้วเที่ยวอยู่
..................................................................................................................................................................................
พึงเป็นคนมีสติ
อย่าถือมั่นกังวลในโลกทั้งปวง ความเสื่อมปัญญา นักปราชญ์ท่านติเตียน ความเจริญปัญญาเลิศกว่าความเจริญทั้งปวง
ถ้าท่านสนใจก็จะรู้ว่าเป็นคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านใด