ว่าด้วยสติปัฏฐาน

กระทู้คำถาม
สกวาที ธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ปรวาที ถูกแล้ว
             ส. ธรรมทั้งปวงเป็นสติ เป็นสตินทรีย์ เป็นสติพละ เป็นสัมมาสติ เป็นสติ-
สัมโพชฌงค์ เป็นเอกายนมรรค เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นไป เป็นเหตุให้
ถึงความตรัสรู้ เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ไม่
เป็นอารมณ์ของสัญโญชน์ ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะ ไม่เป็นอารมณ์ของ
โอฆะ ไม่เป็นอารมณ์ของโยคะ ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ ไม่เป็น
อารมณ์ของปรามาสะ ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ไม่เป็นอารมณ์ของ
สังกิเลส ธรรมทั้งปวงเป็นพุทธานุสสติ เป็นธัมมานุสสติ เป็น
สังฆานุสสติ เป็นสีลานุสสติ เป็นจาคานุสสติ เป็นเทวดานุสสติ
เป็นอานาปานสติ เป็นมรณานุสสติ เป็นกายคตาสติ เป็นอุปสมานุสสติ
หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๒๗] ส. ธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. จักขายตนะเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. จักขายตนะเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. จักขายตนะ เป็นสติ เป็นสตินทรีย์ เป็นสติพละ เป็นสัมมาสติ เป็นสติ-
สัมโพชฌงค์ เป็นเอกายนมรรค เป็นเหตุให้ถึงความสิ้นไป เป็นเหตุให้
ถึงความตรัสรู้ เป็นเหตุให้ถึงนิพพาน ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ไม่เป็น
อารมณ์ของสัญโญชน์ ฯลฯ ไม่เป็นอารมณ์ของสังกิเลส จักขายตนะ
เป็นพุทธานุสสติ เป็นธัมมานุสสติ เป็นสังฆานุสสติ เป็นสีลานุสสติ
เป็นจาคานุสสติ เป็นเทวดานุสสติ เป็นอานาปานสติ เป็นมรณานุสสติ
เป็นกายคตาสติ เป็นอุปสมานุสสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. โสตายตนะ ฯลฯ ฆานายตน ชิวหายตนะ กายายตนะ ฯลฯ รูปายตนะ
สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ ราคะ ฯลฯ
โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ ฯลฯ
อโนตตัปปะ เป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. อโนตตัปปะ เป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. อโนตตัปปะ เป็นสติ เป็นสตินทรีย์ เป็นสติพละ เป็นสัมมาสติ ฯลฯ
เป็นกายคตาสติ เป็นอุปสมานุสสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๒๘] ส. สติเป็นสติปัฏฐาน และสตินั้นเป็นสติ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. จักขายตนะเป็นสติปัฏฐาน และจักขายตนะนั้นเป็นสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. สติเป็นสติปัฏฐาน และสตินั้นเป็นสติ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายายตนะ รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ราคะ
โทสะ โมหะ มานะ ฯลฯ อโนตตัปปะ เป็นสติปัฏฐาน และ
อโนตตัปปะนั้นเป็นสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๒๙] ส. จักขายตนะ เป็นสติปัฏฐาน แต่จักขายตนะนั้นไม่เป็นสติ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. สติเป็นสติปัฏฐาน แต่สตินั้นไม่เป็นสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
             ส. โสตายตนะ ฯลฯ กายตนะ รูปายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ราคะ
โทสะ โมหะ ฯลฯ อโนตตัปปะ เป็นสติปัฏฐาน แต่อโนตตัปปะนั้น
ไม่เป็นสติ หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. สติเป็นสติปัฏฐาน แต่สตินั้นไม่เป็นสติ หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๓๐] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ส. ถูกแล้ว
             ป. สติปรารภธรรมทั้งปวงตั้งมั่นได้ มิใช่หรือ?
             ส. หากว่าสติ ปรารภธรรมทั้งปวง ตั้งมั่นได้ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้อง
กล่าวว่า ธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน

             [๔๓๑] ส. เพราะสติปรารภธรรมทั้งปวงตั้งมั่นได้ ฉะนั้นธรรมทั้งปวงจึงชื่อว่า สติ
ปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เพราะผัสสะปรารภธรรมทั้งปวงตั้งมั่นได้ ฉะนั้นธรรมทั้งปวงจึงชื่อว่า
ผัสสปัฏฐาน หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๓๒] ส. เพราะสติปรารภธรรมทั้งปวงตั้งมั้นได้ ฉะนั้นธรรมทั้งปวงจึงชื่อว่า สติ
ปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. เพราะเวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ เจตนา ฯลฯ จิตปรารภธรรมทั้งปวง
ตั้งมั่นได้ ฉะนั้นธรรมทั้งปวงจึงชื่อว่า จิตตปัฏฐาน  หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

             [๔๓๓] ส. ธรรมทั้งปวงเป็นสติปัฏฐาน หรือ?
             ป. ถูกแล้ว
             ส. สัตว์ทั้งปวงเป็นผู้ตั้งสติมั่น เป็นผู้ประกอบด้วยสติ เป็นผู้มั่นคงด้วยสติ
สติเป็นธรรมชาติเข้าไปตั้งมั่นแก่สัตว์ทั้งปวง หรือ?
             ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่