โรนัลโด้ชนะ แต่เราเสียน้ำตาให้ซลาตัน

ก่อนหน้านี้ หลายคนอาจรู้จักซลาตันในฐานะ นักเตะอารมณ์ร้อน ขี้โมโห เจ้าอารมณ์

อาจรวมไปถึงความรู้สึกว่า เขาน่ากลัว ...

อาจเพราะเรา.. บางคน .. หลายๆคน ...ได้รู้จักกับเขาผ่านคลิปวิดโอ
ผ่านบทสัมภาษณ์ ผ่านการทำประตู และจากภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนเป็นคนที่น่าจะเป็นคนดุ
ใึครได้อ่านหนังสือ "กรูชื่อซลาตัน" อาจจะได้รู้จักกับบางแง่มุมในชีวิตของเขาขึ้นมาบ้าง
ชายคนนี้มีมุมโรแมนติค มีมุมดราม่า มีมุมโหด มีมุมเด็ก มุมฮา

เป็นผู้ชาย มิติที่ 4 และยังเป็นนักฟุตบอลมิติที่ 4 ด้วย
เขาอาจเป็นเด็กก้าวร้าว ชายผู้แข็งกร้าว นักฟุตบอลผู้ดุเดือดรุนแรง
หลายคนยกให้ซลาตันเป็นไอดอล เพราะความเก่งกาจ และ ท่าทางที่ดูเท่ และ ออกแนว "ใจนักเลง" ของเขา
ฉายาแบบไทยๆของซลาตัน ที่น่าจะเป็นฉายา ที่มีมาเพื่อนักเตะแบบเขาคนเดียวเท่านั้น

"จอมยุทธ์ลูกหนัง" หรือ "จ้าวยุทธภพ"

คืนนี้สวีเดนต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของทีมชาติโปรตุเกส สวีเดนยังเป็นรองโปรตุเกสอยู่นิดหน่อย ตรงที่โปรตุเกสมีแต้มตุนไว้แล้ว หากสวีเดนอยากไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายที่ บราซิลในปี 2014 พวกเขาจะต้องชนะอย่างน้อย 3 ประตู

ซลาตันในวัย 32 กับโอกาสที่ อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้วสำหรับ "การรับใช้ชาติ" ในฟุตบอลโลกครั้งหน้า เขาจะอายุ 36 ซึ่งอาจเป็นช่วงอายุที่แก่เกินไปสำหรับการติดทีมชาติ

บางความเห็นก็บอกว่า "ไม่ว่าซลาตันหรือโรนัลโด้ ใครไม่ได้ไปบอลโลกรอบนี้ก็แย่ทั้งนั้น" ขณะที่บางความเห็นก็บอกว่า "ให้ซลาตันไปบอลโลกในครั้งนี้ดีกว่า เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว"

แต่นั่นก็เป็นแค่ความเห็น บนสนาม ไม่มีคำว่า "ทิ้งโอกาส"

ในเกมครึ่งแรก ทั้งคู่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ แต่โปรตุเกสดูจะทำเกมบุกได้ดีกว่า พวกเขามีโอกาสหลายครั้งหน้ากรอบเขตโทษ ขณะที่ทางด้านสวีเดน ยังปั้นเกมไม่ได้ แต่พวกเขาก็ทำได้ดีกับการเดินเกมบุก แต่กองหลังของโปรตุเกสในเกมนี้ ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน

ครึ่งหลังเริ่มต้นมาด้วยการแลกกันอย่างดุเดือด โปรตุเกสอาศัยจังหวะโต้กลับ โรนัลโด้หลุดเดี่ยวไปทำประตูแรกให้โปรตุเกสได้สำเร็จ เหมือนโมเมนตัมจะเหวี่ยงมาหาโปรตุเกสแล้ว พวกเขามี 1 ประตูตุนไว้จากนัดที่แล้ว แค่เสมอพวกเราก็จะผ่านเข้ารอบ

ประตูตีเสมอจากสวีเดน มาจากลูกโหม่งของซลาตัน เขาอาศัยความสูงเทคตัวรับบอลจากลูกเตะมุม ทำให้สวีเดนกลับมามีความหวังในการเอาชนะ และผ่านไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้ายขึ้นมาอีกครั้ง เสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าถิ่น ดังกึกก้องทั้งสนาม

ประตูขึ้นนำจากสวีเดน ก็มาจาก ซลาตัน พวกเขาได้ฟรีคิกในระยะหวังผลที่ 18 หลา ซลาตันยิงลุกเลียดผ่านกำแพงผู้เ่ล่น เบียดเสาสองเข้าประตูไปได้อย่างดงาม เขาชูสองมือขึ้นฟ้า แล้วกำมือ แสดงความดีใจกับประตูของตัวเอง

และตอนนี้เองที่โมเมนตัมเหวี่ยงมาเข้าข้างสวีเดนอย่างแท้จริง เสียเชียร์ เสียงดีใจโห่ร้องดังไปทั้งสนาม ซลาตัน อาจจะพาสวีเดนไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็ได้

แต่หนทางไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

โรนัลโด้กลับมาทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 77 และ กดแฮททริคปิดประตูแพ้ในนาทีที่ 79 โฆษกบอกว่า นั่นคือ แฮททริค ฮีโร่ ที่จะพาโปรตุเกสไปเล่นบอลโลกที่บราซิล

ในตอนนั้นเอง ภาพตัดไปที่ซลาตัน เขาจะรู้สึกอย่างไร ทำสีหน้าอย่างไร กับประตูชัยของโปรตุเกส ที่อาจปิดโอกาสของพวกเขาลงแล้วอย่างสิ้นเชิง




ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เิริ่มต้นด้วยมิตรภาพและจบลงด้วยมิตรภาพเสมอ
ก่อนเริ่มเกมพวกเขาแลกธง
พอจบเกมพวกเขาก็แลกเสื้อ

ระหว่างเกม พวกเขาอาจช่วยพยุงกัน เมื่ออีกฝ่ายล้ม หรือ ดูอาการเพื่อนว่าเจ็บขนาดไหน อาจนวดให้ตอนที่เป็นตะคริว หรือแม้แต่การที่พยายามสู้เพื่อเพื่อนของตัวเอง ด้วยการฟ้องผู้ตัดสินหรือแม้กระทั่งการวิวาทก็ตามที

เราอาจเห็นนักฟุตบอลปรบมือ เวลาจบเกม ปรบมือขอบคุณแฟนบอล ขอบคุณผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ขอบคุณเพื่อนร่วมทีม หรือแม้แต่ขอบคุณเกมการแข่งขัน

แต่น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นการปรบมือชื่นชมระหว่างเกม
ระหว่างที่มองชายอีกคนคว้าชัยชนะของตัวเองไป




วินาทีที่ซลาตันปรบมือให้กับการทำประตูของโรนัลโด้
นั่นคือ คำตอบของ "การแข่งขันกีฬา"
เราแข่งขันเพื่อชัยชนะ แต่เราก็เป็นผู้แพ้ที่สง่างามได้พร้อมๆกัน
การกระทำของซลาตัน เรียกได้ว่า

"พ่ายแพ้อย่างสง่างาม"

ระหว่างเกม เขาตบหลังนักเตะรุ่นน้องเด็กๆ ทั้งในเชิงขอบคุณ และในเชิงปลอบใจ
ระหว่างเกม เขาแสดงอาการฟ้องผู้ตัดสินบ้าง แต่เมื่อไม่มีผล เขาก็ไม่ติดใจอะไร
ระหว่างเกม เขาชื่นชมกับผู้เล่นคนที่ทำได้ดีกว่า

นี่คือ บุคลิกของผู้นำที่แท้จริง

สำหรับสวีเดนในครั้งนี้
พวกเขา "ไม่ได้ยอมแพ้"
แต่พวกเขาได้ต่อสู้ถึงที่สุดแล้วจึง "ยอมรับความพ่ายแพ้"

คนที่ทำได้ดีกว่า สมควรได้ไปต่อ
โรนัลโด้อาจเป็นฮีโร่ของชาวโปรตุเกส อาจเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในนัดนี้
แต่ซลาตันเอง ไม่ได้มีศักดิ์ศรีน้อยกว่าโรนัลโด้แต่อย่างใด