คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
(ส่วนใหญ่แฟนผมจะชวนไปกินข้าวนอกบ้านอยู่ตลอด) ไม่ยอมช่วยงานที่บ้านในวันหยุด
ผมอ่านแค่ท่อนนี้ผมไม่ทราบหรอกครับว่า 24 ชั่วโมง 1440 นาที นั้นคุณทำอะไรกันบ้าง
แต่ผมคาดว่าแฟนคุณซึ่งคุณใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่แฟนของคุณกลับไม่ใช้ชีวิตร่วมกันกับแม่คูณ(มั้ง)
ลองมามองเปลี่ยนว่า ถ้ามี ภรรยา มาเป็นสะใภ้
สิ่งที่ สะใภ้จะมัดใจคุณแม่สามี คืออะไร
หรือ สิ่งที่เขย จะมัดใจคุณแม่ภรรยาคืออะไร
แต่นี่เปล่า คุณเล่าว่าแค่เพื่อนขอมาอาศัยอยู่ด้วย และคิดว่าแม่คงรู้
แต่... แฟนคุณก็พรากคุณไปจากความอบอุ่นในครอบครัว
อย่าใช้คำว่า "เอาใจ" คุณแม่ ในบางเวลามา อ้างกับ รอยร้าวที่เกิดขึ้นครับ
ผมเชื่อว่า การจะปรับตัวให้อยู่ร่วมกัน ผู้ที่เข้ามาอยู่ใหม่ต้องเป็นฝ่ายยอมรับครับ
ไม่ว่าชายหรือหญิง หากคุณเลือกตามใจคนรักมากกว่าแม่ คุณไม่ต้องมาอ้างถึงคำว่ากตัญญูอีกแล้วครับ
---------------------------------
ไม่ได้ประชด หรือว่ากระทบอะไร ทุกปัญหามีทางออก เอาเท่าที่คุณเล่ามา ผมมองเห็นจุดที่ผม คัดมานั้นคือปัญหาใหญ่ครับ
คุณ แสดงความกตัญญูด้วยความเหนื่อย ในงานของคุณเอง คุณขนไม้ แต่คุณไม่ได้มอง บอกใครเลยว่า แฟนคุณทำอย่างไร
ปฏิบัติตัวในฐานะ ลูกอีกคนหรือเปล่า
ผมอ่านแค่ท่อนนี้ผมไม่ทราบหรอกครับว่า 24 ชั่วโมง 1440 นาที นั้นคุณทำอะไรกันบ้าง
แต่ผมคาดว่าแฟนคุณซึ่งคุณใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่แฟนของคุณกลับไม่ใช้ชีวิตร่วมกันกับแม่คูณ(มั้ง)
ลองมามองเปลี่ยนว่า ถ้ามี ภรรยา มาเป็นสะใภ้
สิ่งที่ สะใภ้จะมัดใจคุณแม่สามี คืออะไร
หรือ สิ่งที่เขย จะมัดใจคุณแม่ภรรยาคืออะไร
แต่นี่เปล่า คุณเล่าว่าแค่เพื่อนขอมาอาศัยอยู่ด้วย และคิดว่าแม่คงรู้
แต่... แฟนคุณก็พรากคุณไปจากความอบอุ่นในครอบครัว
อย่าใช้คำว่า "เอาใจ" คุณแม่ ในบางเวลามา อ้างกับ รอยร้าวที่เกิดขึ้นครับ
ผมเชื่อว่า การจะปรับตัวให้อยู่ร่วมกัน ผู้ที่เข้ามาอยู่ใหม่ต้องเป็นฝ่ายยอมรับครับ
ไม่ว่าชายหรือหญิง หากคุณเลือกตามใจคนรักมากกว่าแม่ คุณไม่ต้องมาอ้างถึงคำว่ากตัญญูอีกแล้วครับ
---------------------------------
ไม่ได้ประชด หรือว่ากระทบอะไร ทุกปัญหามีทางออก เอาเท่าที่คุณเล่ามา ผมมองเห็นจุดที่ผม คัดมานั้นคือปัญหาใหญ่ครับ
คุณ แสดงความกตัญญูด้วยความเหนื่อย ในงานของคุณเอง คุณขนไม้ แต่คุณไม่ได้มอง บอกใครเลยว่า แฟนคุณทำอย่างไร
ปฏิบัติตัวในฐานะ ลูกอีกคนหรือเปล่า
แสดงความคิดเห็น
เมื่อผมกับแม่ไม่เข้าใจกัน จนถึงขั้นเอ่ยปากให้หาที่อยู่ใหม่
ทั้งบ้าน เราอาศัยกันอยู่ 3 คน ผม แม่ และแฟนผม ซึ่งแฟนผมเข้ามาอยู่ด้วยราวๆ 7-8 เดือน แล้ว ผมไม่รู้ว่าแม่จะรู้ชัดเจนแค่ไหนว่าเพื่อนผมที่มาอยู่ด้วย จะเป็นแฟนผม
แฟนผมเป็นผู้ชายครับ ซึ่งเรื่องนี้ เราไม่เคยคุยกันกับแม่ คิดว่าแม่คงรู้แต่ไม่พูด
3-4 เดือนก่อน แม่เคยเตือนๆ เรื่องการอออกนอกบ้านบ่อย อย่าไปตามใจแฟนผมให้มากนัก (ส่วนใหญ่แฟนผมจะชวนไปกินข้าวนอกบ้านอยู่ตลอด) ไม่ยอมช่วยงานที่บ้านในวันหยุด ซึ่งเป็นงานสวน แต่ผมก็ไม่ได้ปรับปรุงอะไร เพราะแค่งานที่ทำกินเงินเดือน กว่าจะหมดสัปดาห์ ก็แทบไม่มีแรงแล้ว
จนมาถึงเมื่อเดือนที่แล้ว ผมกับแม่ไม่เข้าใจกัน เพราะแม่พูดถึงคนที่ผมเคยเอามาเล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นคำพูดหยาบๆ "กะ..." "อี...ทอง" ผมเลยบอกว่าไม่ชอบที่แม่ใช้คำแบบนั้นเรียกคนอื่น จนสุดท้าย สรุปตรงที่ ผมกับแม่ไม่คุยกันตั้งแต่นั้นมา
เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่าน ผมหยุด 2 วัน (ปกติจะหยุดงานวันอาทิตย์) วันเสาร์ผมขึ้นสวนไปช่วนขนไม้ที่แม่จ้างคนมาเลื่อย ทุกอย่างดูเหมือนจะดี ดูแม่พึงพอใจ แต่ช่วงค่ำ ผมกับแฟนก็ออกไปกินข้าวนอกบ้าน โดยผมเป็นคนชวนเพราะถือเวลาครบ 1 ปีที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน กลับเข้าบ้าน 4 ทุ่ม
แล้วเมื่อวาน ผมก็ไปช่วยขนไม้ ตั้งใจจะให้เสร็จ จังหวะที่เดินสวนกับแม่ แม่พูดขึ้นว่า สิ้นเดือนให้ผมย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเถอะ อยู่บ้านมันเหนื่อย ผมคงมีชีวิตที่สดใสในแบบที่ผมต้องการมากกว่านี้
ผมก็ไม่ตอบอะไร แล้วช่วยงานจนเสร็จ ช่วงเย็น ผมกับแฟนก็ออกมาข้างนอก แล้วมาช่วยพี่ชายขายของ เข้าบ้านราวๆ สี่ทุ่มครึ่ง ผมก็บอกแม่ว่า ไปช่วยพี่ชายขายของมา แล้วผมก็เดินเข้าห้อง อาบน้ำนอน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากคำพูดของแม่ มันฝังลงในหัวอยู่ตลอดเวลาว่าผมจะทำยังไงดี ใจลึกๆ ผมก็อยากแยกบ้านออกไป แต่ถ้าออกจากบ้านแล้ว โอกาศที่จะกลับไปอยู่ดูแลกันอีกเป็น 0 เพราะเป้าหมายที่ผมจะไป แผ่นดินไม่ได้ติดกัน และก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมตัดสินใจเดินออกจากบ้านแล้ว
ตอนนี้ได้แต่ปรึกษากับแฟนว่าจะเอายังไงดี อยากไป แต่ก็มีห่วง .. อยากอยู่ แต่ก็รู้ว่าอยู่ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ผมพยายามชวนแม่คุย ชวนไปกินข้าวนอกบ้านอยู่ตลอด แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
ผมควรตัดสินใจยังไงดีครับ ถ้าไป ผมกับแฟนก็จะไปตั้งต้นนับ 1 กันใหม่ ถ้าอยู่ก็ไม่รู้จะอยู่กันแบบไหน