ผมออกรถ Chevy Cplorado ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554 เพียงแค่ไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุครั้งแรกในวันฝนตก ลูกชายผมที่เอารถไปขับส่งน้องขึ้นรถไฟฟ้าเล่าว่าเขาขับรถตามแท็กซี่ซึ่งแล่นช้ามากตรงถนนทางลัดสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์หัวหมาก จึงให้สัญญาณแล้วขับแซง ปรากฏว่าขณะที่ขับหักพวงมาลัยแล่วเร่งเครื่องเพื่อแซงนั้น รถเสียหลักไปชนแท็กซี่แล้วปัดไปโดนแบริเออร์ข้างทางเสียหายค่อนข้างมาก
เมื่อผมไปถึงที่เกิดเหตุลูกชายบอกว่ามีอาการเหมือนรถเร่งเครื่องเองจนเสียหลัก ความรู้สึกในขณะนั้นคือไม่อยากจะเชื่อลูกชายนัก เมื่อเดินไปคุยกับแท็กซี่ที่ถูกรถของผมชน เขาบอกว่าแปลกใจมากที่เกิดการชนได้ เพราะความเร็วขณะนั้นไม่เกิน 30 กม./ชม. เพราะเขาเพิ่งออกตัวไม่ไกลจากจุดชนนักและถนนก็แคบมาก ทั้งตอนนั้นเช้ามากๆซึ่งไม่มีรถคันอื่นเลย ไม่มีความจำเป็นที่ลุฏผมจะต้องเร่งเครื่องรอะไรนักหนาก็แซงได้แล้ว
เมื่อพนักงานเคลมประกันมาถึงผมก็เล่าให้เขาฟังทั้งหมดตามตรง พนักงานผู้นั้นบอกว่าเขาจะเรียกรถยกไปเข้าอู่ให้ก่อนแต่ยังไม่สามารถเปิดใบเคลมให้ได้เพราะถือว่าเป็นความบกพร่องของรถยนต์ เมื่อผมไปติดต่อกับอู่ที่รับรถพร้อมกับแจ้งเรื่องทางศูนย์เชฟโรเล็ทที่ซื้อคันนี้ พนักงานฝ่ายช่างส่งคนไปตรวจสอบรถแล้วยืนยันว่ารถคันนี้ไม่มีจุดบกพร่อง สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายยอมรับผิดเพื่อให้ประกันยอมออกใบสั่งซ่อมให้
เมื่อนำรถออกมาใช้อีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงที่ฝนชุกมาก ผมเองเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเพราะทุกครั้งที่เลี้ยวรถมุมแคบแล้วออกตัวรถจะเซปัดเสียหลักทันที ส่วนในช่วงที่ถนนแห้งอาการก็คือจะมีเสียงเอี๊ยดดังมากทุกๆครั้งที่เลี้ยวมุมแคบ ผมนำรถไปเข้าศูนย์พร้อมแจ้งอาการดังกล่าว ศูนย์แห่งนี้ก็ยังยืนยันว่ารถอยู่ในสภาพปรกติ สาเหตุที่รถผมเสียหลักตามอาการที่เล่าทั้งหมดเป็นเพราะ...."เครื่องยนต์รุ่นนี้แรงมาก เวลาที่ออกตัวต้องค่อยเหยียบคันเร่ง"......ผมบอกว่าเป็นคำแนะนำที่ทุเรศที่สุดที่เคยได้ยินมา ถ้าออกตัวรถปรกติไม่ได้เพราะเครื่องแรงแล้วอันตรายแบบนี้จะใส่มาทำไม แล้วเป็นไปได้หรือที่ฝ่ายออกแบบจะเซ็ทช่วงล่างให้ไม่สามารถรองรับแรงบิดของเครื่องไม่ได้
เมื่อทางศูนย์เขายืนยันแบบนี้ผมก็หมดปัญญาจะโวยอะไร ต้องทนขับแบบระวังจนตัวลีบมาอีกหลายเดือนด้วยความระมัดระวังและข้องใจคาใจ จนช่วงหนึ่งที่ผมมีความจำเป็นจะต้องใช้รถคันนี้ออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ด้วยความรักชีวิตตนเองจึงต้องหาวิธีปรับปรุงรถคันนี้ ครั้งแรกลงทุนเปลี่ยนยางทั้งชุดโดยใช้หน้ากว้างกว่าเดิม ก็ยังเหมือนเดิมครับ วันไหนฝนตกถนนเปียกแล้วเผลอเหยียบคันเร่งตามแรงปรกติของตนเองรถจะเสียหลักเกือบทุกครั้ง
จนวันหนึ่งลองเอาไปเปลี่ยนช็อคอัพแบบยกชุดหน้าหลังที่ของ "สี่มณฑล" คราวนี้ปัญหาเรื่องนี้หายเด็ดขาดเลยครับ ไม่ว่าฝนจะตกหนักถนนเปียกขนาดไหนไม่มีอาการปัดอีกเลยโดยไม่จำเป็นต้องค่อยๆออกตัวเบาๆให้รถคันหลังบีบแตรไล่อีกต่อไป เวลาเลี้ยววงแคบบนถนนแห้งก็ไม่มีเสียงเอี๊ยดเหมือนที่เคยอีกด้วย ผมจึงใช้รถคันนี้เป็นปรกติสุขกว่าเดิม
จนเมื่อไม่นานมานี้ก็มีหนังสือฉบับนี้มาหาผม....
เมื่อได้รับจดหมายฉบับนี้ วูบแรกก็คือโกรธและรู้สึกเจ็บปวดมาก ตอนแรกคิดจะโทรไปด่าศูนย์หรือฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของเชฟโรเล็ทแต่ก็คิดว่าไร้ประโยชน์ ทั้งๆที่รถของเขาทำให้คนที่ซื้อมาใช้ต้องเสี่ยงชีวิตเกือบ 2 ปี เลยคิดว่าแบ่งปันเเรื่องให้คนที่คิดจะใช้รถได้รู้ประสพการณ์ของเราเองน่าจะเป็นประโยชน์กว่า
เมื่อ Chev. ส่งจดหมายนี้มาให้ผม
เมื่อผมไปถึงที่เกิดเหตุลูกชายบอกว่ามีอาการเหมือนรถเร่งเครื่องเองจนเสียหลัก ความรู้สึกในขณะนั้นคือไม่อยากจะเชื่อลูกชายนัก เมื่อเดินไปคุยกับแท็กซี่ที่ถูกรถของผมชน เขาบอกว่าแปลกใจมากที่เกิดการชนได้ เพราะความเร็วขณะนั้นไม่เกิน 30 กม./ชม. เพราะเขาเพิ่งออกตัวไม่ไกลจากจุดชนนักและถนนก็แคบมาก ทั้งตอนนั้นเช้ามากๆซึ่งไม่มีรถคันอื่นเลย ไม่มีความจำเป็นที่ลุฏผมจะต้องเร่งเครื่องรอะไรนักหนาก็แซงได้แล้ว
เมื่อพนักงานเคลมประกันมาถึงผมก็เล่าให้เขาฟังทั้งหมดตามตรง พนักงานผู้นั้นบอกว่าเขาจะเรียกรถยกไปเข้าอู่ให้ก่อนแต่ยังไม่สามารถเปิดใบเคลมให้ได้เพราะถือว่าเป็นความบกพร่องของรถยนต์ เมื่อผมไปติดต่อกับอู่ที่รับรถพร้อมกับแจ้งเรื่องทางศูนย์เชฟโรเล็ทที่ซื้อคันนี้ พนักงานฝ่ายช่างส่งคนไปตรวจสอบรถแล้วยืนยันว่ารถคันนี้ไม่มีจุดบกพร่อง สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายยอมรับผิดเพื่อให้ประกันยอมออกใบสั่งซ่อมให้
เมื่อนำรถออกมาใช้อีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นช่วงที่ฝนชุกมาก ผมเองเกือบจะเกิดอุบัติเหตุเพราะทุกครั้งที่เลี้ยวรถมุมแคบแล้วออกตัวรถจะเซปัดเสียหลักทันที ส่วนในช่วงที่ถนนแห้งอาการก็คือจะมีเสียงเอี๊ยดดังมากทุกๆครั้งที่เลี้ยวมุมแคบ ผมนำรถไปเข้าศูนย์พร้อมแจ้งอาการดังกล่าว ศูนย์แห่งนี้ก็ยังยืนยันว่ารถอยู่ในสภาพปรกติ สาเหตุที่รถผมเสียหลักตามอาการที่เล่าทั้งหมดเป็นเพราะ...."เครื่องยนต์รุ่นนี้แรงมาก เวลาที่ออกตัวต้องค่อยเหยียบคันเร่ง"......ผมบอกว่าเป็นคำแนะนำที่ทุเรศที่สุดที่เคยได้ยินมา ถ้าออกตัวรถปรกติไม่ได้เพราะเครื่องแรงแล้วอันตรายแบบนี้จะใส่มาทำไม แล้วเป็นไปได้หรือที่ฝ่ายออกแบบจะเซ็ทช่วงล่างให้ไม่สามารถรองรับแรงบิดของเครื่องไม่ได้
เมื่อทางศูนย์เขายืนยันแบบนี้ผมก็หมดปัญญาจะโวยอะไร ต้องทนขับแบบระวังจนตัวลีบมาอีกหลายเดือนด้วยความระมัดระวังและข้องใจคาใจ จนช่วงหนึ่งที่ผมมีความจำเป็นจะต้องใช้รถคันนี้ออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ด้วยความรักชีวิตตนเองจึงต้องหาวิธีปรับปรุงรถคันนี้ ครั้งแรกลงทุนเปลี่ยนยางทั้งชุดโดยใช้หน้ากว้างกว่าเดิม ก็ยังเหมือนเดิมครับ วันไหนฝนตกถนนเปียกแล้วเผลอเหยียบคันเร่งตามแรงปรกติของตนเองรถจะเสียหลักเกือบทุกครั้ง
จนวันหนึ่งลองเอาไปเปลี่ยนช็อคอัพแบบยกชุดหน้าหลังที่ของ "สี่มณฑล" คราวนี้ปัญหาเรื่องนี้หายเด็ดขาดเลยครับ ไม่ว่าฝนจะตกหนักถนนเปียกขนาดไหนไม่มีอาการปัดอีกเลยโดยไม่จำเป็นต้องค่อยๆออกตัวเบาๆให้รถคันหลังบีบแตรไล่อีกต่อไป เวลาเลี้ยววงแคบบนถนนแห้งก็ไม่มีเสียงเอี๊ยดเหมือนที่เคยอีกด้วย ผมจึงใช้รถคันนี้เป็นปรกติสุขกว่าเดิม
จนเมื่อไม่นานมานี้ก็มีหนังสือฉบับนี้มาหาผม....
เมื่อได้รับจดหมายฉบับนี้ วูบแรกก็คือโกรธและรู้สึกเจ็บปวดมาก ตอนแรกคิดจะโทรไปด่าศูนย์หรือฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของเชฟโรเล็ทแต่ก็คิดว่าไร้ประโยชน์ ทั้งๆที่รถของเขาทำให้คนที่ซื้อมาใช้ต้องเสี่ยงชีวิตเกือบ 2 ปี เลยคิดว่าแบ่งปันเเรื่องให้คนที่คิดจะใช้รถได้รู้ประสพการณ์ของเราเองน่าจะเป็นประโยชน์กว่า