คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คุณเช็คข้อมูลแล้วทำไมยังไม่มั่นใจตัวเองซะอีก ดันไปฟังคนอื่นซึ่งก็ไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาอ้างอิง
ภาษีบุคคลธรรมดา
"มาตรา 49 ทวิ ในกรณีที่เป็นการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยมีหรือไม่มีค่าตอบแทนไม่ว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม ให้เจ้าพนักงานประเมินกำหนดราคาขายอสังหาริมทรัพย์นั้น โดยถือตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น"
*** มาตรานี้อย่างเดียวจบข่าว บอกชัดเจนว่าราคาขายกันจะเท่าไหร่ก็ตามแต่ ให้ใช้ราคาประเมิน
------------------------------------
ภาษีธุรกิจเฉพาะ กำหนดให้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากรายรับ
91/5 (6) สำหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรตามมาตรา 91/2 (6) รายรับจากการประกอบกิจการ คือ รายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
แล้วรายรับคืออะไร
มาตรา 91/1 (1) " รายรับ " หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือ ประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับ ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการประกอบกิจการ
เขาบอกว่ารายรับคือ มูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับ
-- เพราะฉะนั้นก็เลยต้องเสียภาษีจากราคาขายจริง หรือถ้าราคาประเมินสูงกว่าก็ต้องใช้ราคาประเมิน
(เพราะราคาประเมินถือว่าเป็นราคาที่พึงได้รับ)
(**เดี๋ยวนี้ถ้ามีเลขโฉนดก็มีเวปให้เช็คราคาประเมินได้แล้วครับ ไปกูเกิ้ลดูเอาได้ครับ จำเวปไม่ได้)
-----------------------
ส่วน คห.6 เป็นการเสียภาษีของนิติบุคคล
ภาษีธุรกิจเฉพาะเสียเหมือนกันคือ ราคาไหนสูงกว่าก็เสียราคานั้น
ภาษีเงินได้ - โดนหัก ณ ที่จ่าย 1% จากราคาประเมิน
แต่การขายของที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันควรก็จะโดนเก็บภาษีเงินได้อีกต่างหาก
ภาษีบุคคลธรรมดา
"มาตรา 49 ทวิ ในกรณีที่เป็นการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ โดยมีหรือไม่มีค่าตอบแทนไม่ว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม ให้เจ้าพนักงานประเมินกำหนดราคาขายอสังหาริมทรัพย์นั้น โดยถือตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น"
*** มาตรานี้อย่างเดียวจบข่าว บอกชัดเจนว่าราคาขายกันจะเท่าไหร่ก็ตามแต่ ให้ใช้ราคาประเมิน
------------------------------------
ภาษีธุรกิจเฉพาะ กำหนดให้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากรายรับ
91/5 (6) สำหรับกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรตามมาตรา 91/2 (6) รายรับจากการประกอบกิจการ คือ รายรับก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
แล้วรายรับคืออะไร
มาตรา 91/1 (1) " รายรับ " หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือ ประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับ ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักรอันเนื่องมาจากการประกอบกิจการ
เขาบอกว่ารายรับคือ มูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับ
-- เพราะฉะนั้นก็เลยต้องเสียภาษีจากราคาขายจริง หรือถ้าราคาประเมินสูงกว่าก็ต้องใช้ราคาประเมิน
(เพราะราคาประเมินถือว่าเป็นราคาที่พึงได้รับ)
(**เดี๋ยวนี้ถ้ามีเลขโฉนดก็มีเวปให้เช็คราคาประเมินได้แล้วครับ ไปกูเกิ้ลดูเอาได้ครับ จำเวปไม่ได้)
-----------------------
ส่วน คห.6 เป็นการเสียภาษีของนิติบุคคล
ภาษีธุรกิจเฉพาะเสียเหมือนกันคือ ราคาไหนสูงกว่าก็เสียราคานั้น
ภาษีเงินได้ - โดนหัก ณ ที่จ่าย 1% จากราคาประเมิน
แต่การขายของที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันควรก็จะโดนเก็บภาษีเงินได้อีกต่างหาก
แสดงความคิดเห็น
ถกกันหน่อยครับ เข้าใจถูกหรือผิด ภาษีเงินได้,ค่าโอน ขายบ้าน คิดจาก "ราคาซื้อขาย" หรือ "ราคาประเมิน"
1. ค่าโอนและภาษี คิดจากราคาประเมินกรมที่ดิน (ความเข้าใจของผม)
2. ค่าโอนคิดจากราคาประเมิน ส่วนภาษีคิดจากราคาประเมินหรือราคาซื้อขายจริง อันใดอันนึงที่สูงกว่า
3. ค่าโอนและภาษีคิดจาก ราคาประเมินหรือราคาซื้อขายอันใดอันนึงที่สูงกว่า
โดยอสังหาริมทรัพย์ได้มาจากการซื้อขายนะครับ
ผมได้ถามไว้กระทู้ด้านล่างเมื่อวานครั้งนึง ซึ่งความเข้าใจของผมนั้นคือค่าโอน กับ ภาษีเงินได้คิดจาก ราคาประเมินของกรมที่ดิน โดยไม่ดูราคาซื้อขาย
ซึ่งผมลองใช้โปรแกรมของทางราชการตาม link นี้คิด
http://rdsrv2.rd.go.th/landwht/formcal1.asp
มันก็ใช้ "ราคาประเมินของกรมที่ดิน" ในการคิดภาษีเงินได้ และ ค่าโอน นะครับ ไม่ใช่ราคาซื้อขาย โดยมีข้อความในวงกลมสีแดง
แต่มีเพื่อนๆหลายท่านเข้ามาบอกว่า ภาษีคิดจากราคาซื้อขาย ทำให้ผมเริ่มสับสน เลยลองเปิดเวปกรมสรรพากร และกรมที่ดินดู มันเป็นตามนี้ครับ
" ข้อ 5 การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ ให้คำนวณ จากราคาขาย อสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าพนักงานประเมินกำหนดขึ้น ในกรณีโอนกรรมสิทธิ์หรือ สิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดย มีหรือไม่มีค่าตอบแทน ไม่ว่าราคาที่ซื้อขายกันตาม ปกติในท้องตลาดของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะ เป็นอย่างไรก็ตาม โดยถือตามราคาประเมิน ทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจด ทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นราคาที่ใช้อยู่ในวันที่มีการโอนนั้น ตามมาตรา 49 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร "
และมีตัวอย่างการคำนวณจากทางราชการ
http://rdsrv2.rd.go.th/landwht/landwht05.asp
โดยราคาซื้อขาย 2.8 ล้าน แต่ราคาประเมิน 2 ล้าน ในตัวอย่างก็คิดจาก "ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่คณะกรรมการกำหนด" นะครับ แต่ทำไมเพื่อนๆบางท่านบอกว่าคิดจากราคาซื้อขายจริง หรืออันใดอันนึงที่สูงกว่า
อยากให้ช่วยกันดูหน่อยครับ ถ้าผมเข้าใจคลาดเคลื่อนไปตรงไหนช่วยชี้แจงให้กระจ่างนิดนึง เพื่อเป็นประโยชน์กับบุคคลท่านอื่นๆ ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายนี้ต่อไปครับ