คดีพระวิหารเปรียบเทียบยังงี้ได้ไหม
เหมือนเด็กแย่งขนมกัน เขาแพ้เพราะตัวเล็กกว่า เลยวิ่งไปให้ผู้ใหญ่ตัดสิน กวักมือเรียกเราไปร่วมตัดสิน ทั้งที่ขนมอยู่ในมือเรา
เราจะไม่วิ่งไปก็ได้ แต่เราคิดว่าตัวเองแน่ ยอมวิ่งไปหาผู้ใหกญ่ให้เขาตัดสิน
ผู้ใหญ่ถามว่า ไม่ว่าเขาจะตัดสินอย่างไรเราต้องตกลงตามนั้นนะ เรารับว่าตกลง แต่พอเขาตัดสินให้เราแพ้
เราก็ไม่กล้ากินขนมนั้น กลับวางไว้เฉยๆ แล้วบอกว่านี่ขนมของฉัน
มาวันหนึ่งเด็กอีกคนมาหยิบขนมไปกิน เรากลับร้องแรกแหกกระเชอว่ากินไม่ได้นะ ขนมของฉัน
และบอกกับลูกหลานของเราว่า นี่คือขนมของฉัน ฉันเสียรู้ผู้ใหญ่ที่ตัดสินไปเมื่อ 50 ปีก่อน
การกระทำอย่างนี้ ไม่แมนเอามากๆ และไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน เราเป็นคนเดินเข้าไปให้เขาตัดสินเอง
แต่พอไม่ได้อย่างใจคิดแล้วเราจะมาอ้างนั่นอ้างนี่ทีหลังได้อย่างไร มันไม่เป็นอารยชนเอาเสียเลย
คดีพระวิหารเปรียบเทียบยังงี้ได้ไหม
เหมือนเด็กแย่งขนมกัน เขาแพ้เพราะตัวเล็กกว่า เลยวิ่งไปให้ผู้ใหญ่ตัดสิน กวักมือเรียกเราไปร่วมตัดสิน ทั้งที่ขนมอยู่ในมือเรา
เราจะไม่วิ่งไปก็ได้ แต่เราคิดว่าตัวเองแน่ ยอมวิ่งไปหาผู้ใหกญ่ให้เขาตัดสิน
ผู้ใหญ่ถามว่า ไม่ว่าเขาจะตัดสินอย่างไรเราต้องตกลงตามนั้นนะ เรารับว่าตกลง แต่พอเขาตัดสินให้เราแพ้
เราก็ไม่กล้ากินขนมนั้น กลับวางไว้เฉยๆ แล้วบอกว่านี่ขนมของฉัน
มาวันหนึ่งเด็กอีกคนมาหยิบขนมไปกิน เรากลับร้องแรกแหกกระเชอว่ากินไม่ได้นะ ขนมของฉัน
และบอกกับลูกหลานของเราว่า นี่คือขนมของฉัน ฉันเสียรู้ผู้ใหญ่ที่ตัดสินไปเมื่อ 50 ปีก่อน
การกระทำอย่างนี้ ไม่แมนเอามากๆ และไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน เราเป็นคนเดินเข้าไปให้เขาตัดสินเอง
แต่พอไม่ได้อย่างใจคิดแล้วเราจะมาอ้างนั่นอ้างนี่ทีหลังได้อย่างไร มันไม่เป็นอารยชนเอาเสียเลย