เคยเลิกซื้อการ์ตูนลิขสิทธิ์ของไทยด้วยเหตุผลไร้สาระกันไหม?

ขอบ่นสักเล็กน้อย
นานมาแล้ว ผมเคยเป็นคนชอบอ่านการ์ตูนมาก มากจนยอมอดข้าวกลางวันเพื่อเก็บใว้ซื้อการ์ตูนลิขสิทธิ์เล่มละ 20 - 25 บาท
เติบโตมากับอายูคาว่า มาโดกะ เฝ้าเชียร์ฮิยามะ ฮิคารุและสาปแช่งเคียวสุเกะเป็นเนืองนิจ
และขอสารภาพว่าจริงๆจิโตเสะก็เข้ามายึดหัวใจผมไปนิดหน่อย
นั่นคืออดีตที่เป็นความหลังที่งดงาม

จวบจนปัจจุบันก็ยังคงเป็นอยู่ แต่หากจะมีสิ่งที่ต่าง ก็คงเป็นแนวเรื่องที่อ่านและจำนวน
ด้วยความสนใจในการ์ตูนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ผมมีพื้นฐานที่จะอ่านภาษาญี่ปุ่นได้มากกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย
ทำให้ในตอนนี้การ์ตูนที่ผมซื้อส่วนใหญ่เป็นภาษาญี่ปุ่นเสียมาก แน่นอนว่าการซื้อคือซื้อเป็นรูปเล่มไม่ใช่การโหลดจากเว็ปต่างๆแต่อย่างใด
แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะไม่ซื้อการ์ตูนลิขสิทธิ์แปลไทยแม้แต่น้อย

กลับกัน เพราะผมอ่านภาษาญี่ปุ่นออกผมจึงโหยหาฉบับแปลไทยมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หลายๆคนคงจะทราบดีถึงเรื่องกำแพงทางภาษา แม้ว่าจะอ่านออก แม้ว่าจะเข้าใจ แต่ความสนุกมันกลับน้อยกว่าที่เราอ่านฉบับแปลไปเลยในบางครั้ง
ผมจะไม่ขอพูดถึงประเด็นนี้มากนัก เพราะผมนั้นไร้ความสามารถที่จะอธิบายถึงความรู้สึกนี้ได้อย่างชัดเจน

จนวันหนึ่ง คือวันนี้ "ผม" ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเคยยอมอดข้าวเพื่อที่จะซื้อ "ถนนสายนี้เปรี้ยว" ได้ไปหยิบการ์ตูนเรื่องหนึ่งขึ้นมาดูหน้าปก
มันเป็นปกฉบับลิขสิทธิ์ของไทยที่ถูกแต่งภาพมาอย่างดี มือของเธอโผล่ผ้นขอบมาอย่างไร้มลทินแต่ทว่าศีรษะของเธอไม่ได้พ้นตามไปด้วย เพราะมันถูกบดบังด้วยการยัดเยียด "อัตลักษณ์" ของสำนักพิมพ์ลงไปจนเกินงาม
ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ และไม่ใช่เรื่องแรกที่โดนแบบนี้

และจนวันหนึ่ง คือวันนี้ ที่ "ผม" ผู้ชายที่เคยกัดฟันซื้อเจ้าหนุ่มผมเปียยาวแสนทะเล้นทุกครั้งไม่ว่าจะต้องโดนทำให้ช้ำใจกี่ครั้งก็ตามนึกถึงหน้าปกนิยายเรื่องหนึ่งที่สำนักพิมพ์นี้จัดทำ นิยายเรื่องนั้นเองก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน และอาจจะหนักกว่านั้นเพราะมีเพียงคำว่ากรีนรี๊ดและหน้าสีก็ทำให้ราคามันเพิ่มขึ้นมาได้ และ..............เพิ่มขึ้นมาได้มากกว่าราคาของต้นฉบับเสียอีก

ผมจึงสำเหนียกตัวเองในตอนนั้น ผมรู้ดีว่าผมเป็นเพียง "ลูกค้า" ตัวเล็กๆที่ไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่จะต้องมาใส่ใจ
ไม่มีความจำเป็นต้องแคร์ ไม่มีความจำเป็นต้องรับฟัง ผมไม่มีค่าอะไรกับการคงอยู่ของสำนักพิมพ์นี้แม้แต่น้อย

ผมวางการ์ตูนเล่มนั้นลง
ด้วยความเคารพ ผมขอบคุณสำนักพิมพ์นี้มากจริงๆที่เป็นเพื่อนกับผมมายาวนานนับสิบปี
แต่นับจากนี้ผมคงไม่สามารถเป็นเพื่อนกับคุณต่อไปได้อีกแล้ว
"อคติ" ที่ผมมี มันมากเกินกว่าที่ "ความรู้สึกดีๆ" ที่มีต่อสำนักพิมพ์ของคุณจะกลบฝังได้

มันเป็นเหตุผลที่ไร้สาระสิ้นดี แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมตัดใจได้
ผมเลือกที่จะใช้เงินเดือนละเฉียดพันที่เหลือจากการคอยสนับสนุนคุณเพื่อเพื่อนใหม่
เพื่อนที่จะไม่ทำร้ายจิตใจผม เพื่อนที่พร้อมจะรับฟังผม เพื่อนที่พร้อมและพยายามจะปรับปรุงตัว
ผมเลือกเช่นนั้น

ท้ายนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณคงจะไม่โกรธผม

ลาก่อนครับ

Best Regards.
Pradist.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่