ผมลองเปรียบเทียบดู ถ้าเปรียบเหมือนพีระมิด
ศาสนาคือยอดพีระมิด ส่วนวิทยาศาสตร์คือฐานพีระมิดที่ค่อยๆปีนให้ถึงยอดพีระมิด
ศาสนาคือศรัทธาและความเชื่อ เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ
แต่ของวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรม
นักวิทย์หลายท่านมักบอกศาสนางมงาย เพราะองค์ความรู้ตอนนี้ไม่อาจพิสูจน์
เรื่องวิญาณ นรก สวรรค์ ได้นั้นเอง ไม่อาจบอกได้ว่าพระเจ้ามีจริงไหมเพราะผู้ที่ตายไม่เคยมีใครคืนชีพมาบอกได้
สิ่งที่พวกเขาทำตอนนี้ไม่ใช้พยายามปีนให้ถึงยอด แต่ทุบยอดพีระมิดลงมาต่างหาก
แม้ในศาสนาพุทธที่อิงกับวิทยาศาสตร์ที่สุด ก็ไม่อาจเอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ได้
นักวิทย์ไม่อาจบอกแม้แต่พิสูจน์ยังทำไม่ได้เลย นิพพานเป็นยังไง
เช่นเดียวกับศาสนาพุทธไม่อาจเอาศาสนามาพิสูจน์วิทยาศาสตร์ได้
แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเคยกล่าวว่า เรื่องการพิสูจน์โลกหน้าและวิญญาณ เป็นเรื่องอธิปไตย
ไม่อาจหาคำตอบได้ ไม่อาจทำให้พ้นทุกข์ได้
.... กรอบความรู้เรื่องวิทย์กับศาสนามันคงละเรื่องเลย
เพราะวิทยาศาสตร์พิสูจน์ศาสนาไม่ได้ใช่ไหมครับ หลายท่านเลยมักมองศาสนางมงาย
ศาสนาคือยอดพีระมิด ส่วนวิทยาศาสตร์คือฐานพีระมิดที่ค่อยๆปีนให้ถึงยอดพีระมิด
ศาสนาคือศรัทธาและความเชื่อ เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ
แต่ของวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรม
นักวิทย์หลายท่านมักบอกศาสนางมงาย เพราะองค์ความรู้ตอนนี้ไม่อาจพิสูจน์
เรื่องวิญาณ นรก สวรรค์ ได้นั้นเอง ไม่อาจบอกได้ว่าพระเจ้ามีจริงไหมเพราะผู้ที่ตายไม่เคยมีใครคืนชีพมาบอกได้
สิ่งที่พวกเขาทำตอนนี้ไม่ใช้พยายามปีนให้ถึงยอด แต่ทุบยอดพีระมิดลงมาต่างหาก
แม้ในศาสนาพุทธที่อิงกับวิทยาศาสตร์ที่สุด ก็ไม่อาจเอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ได้
นักวิทย์ไม่อาจบอกแม้แต่พิสูจน์ยังทำไม่ได้เลย นิพพานเป็นยังไง
เช่นเดียวกับศาสนาพุทธไม่อาจเอาศาสนามาพิสูจน์วิทยาศาสตร์ได้
แม้แต่พระพุทธเจ้ายังเคยกล่าวว่า เรื่องการพิสูจน์โลกหน้าและวิญญาณ เป็นเรื่องอธิปไตย
ไม่อาจหาคำตอบได้ ไม่อาจทำให้พ้นทุกข์ได้
.... กรอบความรู้เรื่องวิทย์กับศาสนามันคงละเรื่องเลย