..
-1 -
กลางเดือนตุลาคม
ที่น่าจะหมาดฝนไปแล้ว
แต่ก็ไม่ ..
ฝนยังคงกระหน่ำทั่วเชียงใหม่
และจังหวัดใกล้เคียง
ติดต่อกันสองวันสองคืนอย่างยาวนาน
ฉันเบื่อกับการอุดอู้อยู่กับบ้าน
แพลนการไปปายถูกล้มเลิกด้วยคำพูดเพียงหนึ่งประโยคจากป้าหมอ
“ทิอย่าเพิ่งมาเลยฝนตกติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนยังไม่หยุดเลย”
จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่า
.. เคว้ง ..
ฉันตื่นเช้าขึ้นมาในวันทีฝนหมาดจากฟ้า
หยิบกุญแจรถกับกล้องเดินออกจากบ้านไป
แม่ถามแค่ว่า .. “จะไปไหน”
“ไปแถวนี้ล่ะแม่ .. เดี๋ยวมา”
แถวนี้ .. แถวไหนล่ะ
ตอบตัวเองไม่ได้ไม่รู้เหมือนกัน
รู้แต่ว่าอยู่บ้านนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ฉันขับรถออกจากบ้านไปตามถนนเส้นหนึ่ง
ซึ่งจุดหมายปลายทางมันจะไปสุดอยุ่ที่ไหน
.. ฉันเองก็ไม่สามารถตอบได้
-2-
จากแม่โจ้ผ่านทางตัดใหม่เพื่อจะไปออกอำเภอแม่ริม
เลี้ยวขวาผ่านหน้าอำเภอแม่ริม
กำลังจะผ่านสามแยกทางไปม่อนแจ่ม สะเมิง
ไม่ล่ะ ..
วันนี้ฉันยังไม่อยากขึ้นเขาในวันที่ฝนพรำแบบนี้
ฉันเลือกที่จะตรงไปในเส้นทางข้างหน้า
“อำเภอแม่แตง”
ระหว่างทางฝนพรำมาตลอดทาง
พรำ .. พรำ หยุด .. หยุด สลับกันไปมา
ผ่านทางแยกไปปาย ตลาดแม่มาลัย
ฉันยังเลือกที่จะตรงไป
เห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา
ลองไปดูแล้วกัน .. ได้แต่บอกตัวเองแบบนั้น
จากถนนสี่เลนเลี้ยวเข้ามาเป็นถนนสองเลนสวนกัน
ขับลึกเข้ามาผ่านทุ่งนาและป่าเขา
ฝนเริ่มขาดเม็ด .. เห็นแสดงแดดอ่อนบางพยายามส่องลงมา
ยามปลายฝนต้นหนาวต้นหนาวเช่นนี้
ทุ่งหน้าริมข้างทางสวยมาก
จนอดใจที่จะลงไปเก็บความทรงจำเอาไว้ไม่ได้
ภาพในความทรงจำ
ที่จะทำให้ฉันระลึกได้เสมอว่า
ณ ขณะนั้นฉันคิดอะไร และรู้สึกอย่างไร
.. สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว
เราสามารถเลือกเก็บเป็นความทรงจำ
ไว้คิดถึง นึกถึง ระลึกถึง
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ผู้คน หรือ สิ่งของ
กอดเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้
เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับตัวเองในวันที่มีน้ำตา
-3-
ป้ายวัดบ้านเด่นผ่านตาฉันไปในขณะที่ฉันขับรถตรงไปข้างหน้า
ฉันไม่รู้หรอกว่าวัดนั้นมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน
แต่ฉันเบือกที่จะกลับรถแล้วเลี้ยวกลับขับขนานไปกับคลองชลประทานเล็ก ๆ
ถนนลาดยางราบเรียบและโล่ง ไม่มีรถใด ๆ หรือผู้คนผ่านสวนไปมา
ฉันตามป้ายไปจนเจอวัดบ้านเด่นที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมคลองชลประทานเล็ก ๆ
ฉันตื่นตะลึงในใจนิดนึงมีวัดที่ใหญ่และสวยงามขนาดนี้อยู่ตรงนี้
วัดที่ฉันไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อถูกปลูกสร้างอยู่บนเนินเขาลูกย่อม ๆ
ฉันลงไปเดินสำรวจ .. มีรถจอดอยู่มากมาย ผู้คนเดินกันขวักไขว่
ด้วยตัวโครงสร้างสถาปัตยกรรมโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ
เรียกได้ว่างดงามมาก ๆ เป็นการผสมผสานทั้งไทย ล้านนา พม่า
ฉันเดินเข้าไปกราบพระประธานองค์ใหญ่ในโบสถ์
เดินสำรวจรอบ ๆ วัดอีกเล็กน้อยก่อนเดินจากมาแล้วออกเดินทางต่อไป
-4-
ก็ในเมื่อมันยังไม่สุดทางมันก็ต้องไปกันต่อ
ข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่นั่นคงไม่สำคัญ
เท่ากับเราจะสามารถเก็บเกี่ยวอะไรในระหว่างทางไปได้บ้าง
การเดินทางก็ไม่ต่างกับการใช้ชีวิตเช่นกัน
ฉันเลี้ยวออกจากวัดไม่นานกลับมาใช้ทางหลัก
ก็เริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา
เห็นป้ายโครงการชลประทานเขื่อน

ัดสมบูรณ์ชล
ฉันไม่ตรงไปแต่เลือกที่จะเลี้ยวซ้ายไปยังอุทยานฯ
ฉันขับเข้าป่าลึกเข้ามาไม่นานจนสุดทาง
ตรงหน้าคือเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ไกลสุดตา
มีบริการท่าเรือสำหรับไปยังใจกลางเขื่อนที่มีแพพักให้บริการอยู่
ฉันไม่ได้ใช้บริการเรือเพื่อไปยังแพเหล่านั้น
แต่เลือกที่จะมานั่งพักบนร้านอาหารที่อยู่ริมเขื่อนนั่นเอง
ฝนขาดเม็ดไปนานมากแล้ว
กลับมีแสงแดดแผดแรงกล้าออกมาแทน
แต่ไกล ๆ ใจกลางเขื่อนฉันยังมองเห็นม่านฝนอยู่ตรงนั้น
และมันกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา
-5-
ฉันใช้เวลาตรงร้านอาหารประมาณชั่วโมงกว่า ๆ
ก็เลือกที่จะกลับออกมาจากตรงนั้น
ยังมีอีกที่ .. ที่ฉันหมายใจเอาไว้ว่าต้องแวะไป
“เขื่อน

ัดสมบูรณ์ชล”
ฉันตรงเข้าไปในโครงการชลประทาน
แล้วไปตามป้ายที่บอกทางขึ้นสันเขื่อน
ทางขึ้นไม่ชันมากและค่อนขว้างกว้างรถสามารถสวนกันได้
ฉันจอดรถหยิบกล้องลงไปเดินเก้ ๆ กัง ๆ เข้าไปที่ร้านค้าริมระเบียง
คุณป้าที่ดูลร้านค้าเล็ก ๆ ริมระเบียงส่งยิ้มมาให้แต่ไกล
ชาวต่างชาติคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงบนสันเขื่อน
เขาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เช่นกัน
ฉันยิ้มตอบทั้งสองคนความเก้ ๆ กัง ๆ ของฉันเริ่มหายไป
บนสันเขื่อนอากาศดีมากและเกือบไม่มีคนบนนั้น
อากาศดี วิวสวย แต่กลับน่าเสียดายที่ไม่มีใครมาชื่นชม
ฉันเดินเล่นไปตามถนนบนสันเขื่อน สูดอากาศเข้าปอด
มันสดชื่นและมันปลดปล่อย .. เงียบ สงบ ได้คิดและได้ไตร่ตรอง
-6-
ฉันอยากทำตัวลอย .. ลอย
ปล่อยชีวิตว่างเปล่าไปสักพัก
อาจจะยังไม่ลืมเรื่องราวเก่า .. เก่า
.. ก็คงใช่
แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดเหมือนที่แล้ว .. แล้วมา
มันเป็นแค่ในบางช่วงอารมณ์
ที่ฉันจะดึงความทรงจำดี .. ดี
ระหว่างเราออกมานั่งคิดถึงบ้าง
ฉันเลือกที่จะจำสิ่งดี .. ดีระหว่างเรา
มากกว่าการที่จะมานั่งเจ็บปวดกับรักที่มันหมดหนทาง
เพราะมันก็คงไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
เธอเองก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน .. ใช่มั้ย ??
-7-
ฉันกลับลงมาจากที่นั่นในเวลาที่เย็นย่ำ
ในขณะที่ม่านฝนกำลังไล่หลังฉันมา
ขับรถตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกแช่มชื่น
อาจเป็นเพราะอากาศ เพราะบรรยากาศ
หรือเพราะอะไรก็ตามทีที่ฉันได้ไปพบเจอมา
ในวันนั้น ..
ฉันรู้สึกโล่ง และ ปลอดโปร่งมากขึ้นในความรู้สึก
“ไปถึงไหนมา หายไปทั้งวัน”
แม่ถามเมื่อฉันเดินเข้าไปในบ้าน
“ไปเดินเล่นแถวนี้ล่ะแม่”
ฉันตอบเม่ยิ้ม ๆ แล้วก็เดินเอาของไปเก็บในห้อง
..............................................................................................................
ชีวิตคือการเดินทางผานเรื่องราวนับร้อบนับพัน
ไม่ว่าเรื่องร้ายหรือดี สุขหรือเศร้า เหงาหรือสนุกสนาน
มันคือช่วงเวลาหรือระยะทางของประสบการณ์
การเดินทางสำหรับฉัน
บางครั้งมันไม่มีแม้แต่ปลายทางด้วยซ้ำ
อย่าคิดฝันไปเลยว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง
ไปให้ถึงตรงนั้นแล้วเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
ฉันว่า ..
ฉันแอบหลงรักกับการเดินทาง
.. ที่คาดเดาไม่ได้แล้วล่ะ.
..
[CR] ::::: แม่แตง .. ในวันฝนพรำ :::::
-1 -
กลางเดือนตุลาคม
ที่น่าจะหมาดฝนไปแล้ว
แต่ก็ไม่ ..
ฝนยังคงกระหน่ำทั่วเชียงใหม่
และจังหวัดใกล้เคียง
ติดต่อกันสองวันสองคืนอย่างยาวนาน
ฉันเบื่อกับการอุดอู้อยู่กับบ้าน
แพลนการไปปายถูกล้มเลิกด้วยคำพูดเพียงหนึ่งประโยคจากป้าหมอ
“ทิอย่าเพิ่งมาเลยฝนตกติดต่อกันทั้งวันทั้งคืนยังไม่หยุดเลย”
จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่า
.. เคว้ง ..
ฉันตื่นเช้าขึ้นมาในวันทีฝนหมาดจากฟ้า
หยิบกุญแจรถกับกล้องเดินออกจากบ้านไป
แม่ถามแค่ว่า .. “จะไปไหน”
“ไปแถวนี้ล่ะแม่ .. เดี๋ยวมา”
แถวนี้ .. แถวไหนล่ะ
ตอบตัวเองไม่ได้ไม่รู้เหมือนกัน
รู้แต่ว่าอยู่บ้านนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ฉันขับรถออกจากบ้านไปตามถนนเส้นหนึ่ง
ซึ่งจุดหมายปลายทางมันจะไปสุดอยุ่ที่ไหน
.. ฉันเองก็ไม่สามารถตอบได้
-2-
จากแม่โจ้ผ่านทางตัดใหม่เพื่อจะไปออกอำเภอแม่ริม
เลี้ยวขวาผ่านหน้าอำเภอแม่ริม
กำลังจะผ่านสามแยกทางไปม่อนแจ่ม สะเมิง
ไม่ล่ะ ..
วันนี้ฉันยังไม่อยากขึ้นเขาในวันที่ฝนพรำแบบนี้
ฉันเลือกที่จะตรงไปในเส้นทางข้างหน้า
“อำเภอแม่แตง”
ระหว่างทางฝนพรำมาตลอดทาง
พรำ .. พรำ หยุด .. หยุด สลับกันไปมา
ผ่านทางแยกไปปาย ตลาดแม่มาลัย
ฉันยังเลือกที่จะตรงไป
เห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา
ลองไปดูแล้วกัน .. ได้แต่บอกตัวเองแบบนั้น
จากถนนสี่เลนเลี้ยวเข้ามาเป็นถนนสองเลนสวนกัน
ขับลึกเข้ามาผ่านทุ่งนาและป่าเขา
ฝนเริ่มขาดเม็ด .. เห็นแสดงแดดอ่อนบางพยายามส่องลงมา
ยามปลายฝนต้นหนาวต้นหนาวเช่นนี้
ทุ่งหน้าริมข้างทางสวยมาก
จนอดใจที่จะลงไปเก็บความทรงจำเอาไว้ไม่ได้
ภาพในความทรงจำ
ที่จะทำให้ฉันระลึกได้เสมอว่า
ณ ขณะนั้นฉันคิดอะไร และรู้สึกอย่างไร
.. สิ่งใดที่ผ่านไปแล้ว
เราสามารถเลือกเก็บเป็นความทรงจำ
ไว้คิดถึง นึกถึง ระลึกถึง
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ผู้คน หรือ สิ่งของ
กอดเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้
เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับตัวเองในวันที่มีน้ำตา
-3-
ป้ายวัดบ้านเด่นผ่านตาฉันไปในขณะที่ฉันขับรถตรงไปข้างหน้า
ฉันไม่รู้หรอกว่าวัดนั้นมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน
แต่ฉันเบือกที่จะกลับรถแล้วเลี้ยวกลับขับขนานไปกับคลองชลประทานเล็ก ๆ
ถนนลาดยางราบเรียบและโล่ง ไม่มีรถใด ๆ หรือผู้คนผ่านสวนไปมา
ฉันตามป้ายไปจนเจอวัดบ้านเด่นที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมคลองชลประทานเล็ก ๆ
ฉันตื่นตะลึงในใจนิดนึงมีวัดที่ใหญ่และสวยงามขนาดนี้อยู่ตรงนี้
วัดที่ฉันไม่เคยแม้แต่ได้ยินชื่อถูกปลูกสร้างอยู่บนเนินเขาลูกย่อม ๆ
ฉันลงไปเดินสำรวจ .. มีรถจอดอยู่มากมาย ผู้คนเดินกันขวักไขว่
ด้วยตัวโครงสร้างสถาปัตยกรรมโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ
เรียกได้ว่างดงามมาก ๆ เป็นการผสมผสานทั้งไทย ล้านนา พม่า
ฉันเดินเข้าไปกราบพระประธานองค์ใหญ่ในโบสถ์
เดินสำรวจรอบ ๆ วัดอีกเล็กน้อยก่อนเดินจากมาแล้วออกเดินทางต่อไป
-4-
ก็ในเมื่อมันยังไม่สุดทางมันก็ต้องไปกันต่อ
ข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่นั่นคงไม่สำคัญ
เท่ากับเราจะสามารถเก็บเกี่ยวอะไรในระหว่างทางไปได้บ้าง
การเดินทางก็ไม่ต่างกับการใช้ชีวิตเช่นกัน
ฉันเลี้ยวออกจากวัดไม่นานกลับมาใช้ทางหลัก
ก็เริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา
เห็นป้ายโครงการชลประทานเขื่อน
ฉันไม่ตรงไปแต่เลือกที่จะเลี้ยวซ้ายไปยังอุทยานฯ
ฉันขับเข้าป่าลึกเข้ามาไม่นานจนสุดทาง
ตรงหน้าคือเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ไกลสุดตา
มีบริการท่าเรือสำหรับไปยังใจกลางเขื่อนที่มีแพพักให้บริการอยู่
ฉันไม่ได้ใช้บริการเรือเพื่อไปยังแพเหล่านั้น
แต่เลือกที่จะมานั่งพักบนร้านอาหารที่อยู่ริมเขื่อนนั่นเอง
ฝนขาดเม็ดไปนานมากแล้ว
กลับมีแสงแดดแผดแรงกล้าออกมาแทน
แต่ไกล ๆ ใจกลางเขื่อนฉันยังมองเห็นม่านฝนอยู่ตรงนั้น
และมันกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา
-5-
ฉันใช้เวลาตรงร้านอาหารประมาณชั่วโมงกว่า ๆ
ก็เลือกที่จะกลับออกมาจากตรงนั้น
ยังมีอีกที่ .. ที่ฉันหมายใจเอาไว้ว่าต้องแวะไป
“เขื่อน
ฉันตรงเข้าไปในโครงการชลประทาน
แล้วไปตามป้ายที่บอกทางขึ้นสันเขื่อน
ทางขึ้นไม่ชันมากและค่อนขว้างกว้างรถสามารถสวนกันได้
ฉันจอดรถหยิบกล้องลงไปเดินเก้ ๆ กัง ๆ เข้าไปที่ร้านค้าริมระเบียง
คุณป้าที่ดูลร้านค้าเล็ก ๆ ริมระเบียงส่งยิ้มมาให้แต่ไกล
ชาวต่างชาติคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงบนสันเขื่อน
เขาเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เช่นกัน
ฉันยิ้มตอบทั้งสองคนความเก้ ๆ กัง ๆ ของฉันเริ่มหายไป
บนสันเขื่อนอากาศดีมากและเกือบไม่มีคนบนนั้น
อากาศดี วิวสวย แต่กลับน่าเสียดายที่ไม่มีใครมาชื่นชม
ฉันเดินเล่นไปตามถนนบนสันเขื่อน สูดอากาศเข้าปอด
มันสดชื่นและมันปลดปล่อย .. เงียบ สงบ ได้คิดและได้ไตร่ตรอง
-6-
ฉันอยากทำตัวลอย .. ลอย
ปล่อยชีวิตว่างเปล่าไปสักพัก
อาจจะยังไม่ลืมเรื่องราวเก่า .. เก่า
.. ก็คงใช่
แต่ก็ไม่ได้เจ็บปวดเหมือนที่แล้ว .. แล้วมา
มันเป็นแค่ในบางช่วงอารมณ์
ที่ฉันจะดึงความทรงจำดี .. ดี
ระหว่างเราออกมานั่งคิดถึงบ้าง
ฉันเลือกที่จะจำสิ่งดี .. ดีระหว่างเรา
มากกว่าการที่จะมานั่งเจ็บปวดกับรักที่มันหมดหนทาง
เพราะมันก็คงไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น
เธอเองก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน .. ใช่มั้ย ??
-7-
ฉันกลับลงมาจากที่นั่นในเวลาที่เย็นย่ำ
ในขณะที่ม่านฝนกำลังไล่หลังฉันมา
ขับรถตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกแช่มชื่น
อาจเป็นเพราะอากาศ เพราะบรรยากาศ
หรือเพราะอะไรก็ตามทีที่ฉันได้ไปพบเจอมา
ในวันนั้น ..
ฉันรู้สึกโล่ง และ ปลอดโปร่งมากขึ้นในความรู้สึก
“ไปถึงไหนมา หายไปทั้งวัน”
แม่ถามเมื่อฉันเดินเข้าไปในบ้าน
“ไปเดินเล่นแถวนี้ล่ะแม่”
ฉันตอบเม่ยิ้ม ๆ แล้วก็เดินเอาของไปเก็บในห้อง
..............................................................................................................
ชีวิตคือการเดินทางผานเรื่องราวนับร้อบนับพัน
ไม่ว่าเรื่องร้ายหรือดี สุขหรือเศร้า เหงาหรือสนุกสนาน
มันคือช่วงเวลาหรือระยะทางของประสบการณ์
การเดินทางสำหรับฉัน
บางครั้งมันไม่มีแม้แต่ปลายทางด้วยซ้ำ
อย่าคิดฝันไปเลยว่าข้างหน้าจะเป็นยังไง
ไปให้ถึงตรงนั้นแล้วเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
ฉันว่า ..
ฉันแอบหลงรักกับการเดินทาง
.. ที่คาดเดาไม่ได้แล้วล่ะ.
..