ครบกำหนด 15 วัน คนกัมพูชา ลั่นไม่อพยพออกจากบ้านหนองหญ้าแก้ว ขอต่อสู้จนตัวตาย
https://www.matichon.co.th/region/news_5395558
.

.
เขมรกร้าว ประกาศไม่ออกจากหนองหญ้าแก้ว ระดมคน หน่วยพยาบาล ลงพื้นที่ สื่อเขมรรายงานฝ่ายไทยขนอาวุธหนักประชิด หมู่บ้านเขมรแล้ว
.
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่บ้านเปรยจัน ตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี จ.สระแก้ว ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอพยพออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน ซึ่งวันนี้ (3 ตุลาคม) เป็นวันครบกำหนด พบว่า ชาวบ้านประกาศไม่อพยพออกจากพื้นที่เด็ดขาด จะต่อสู้จนตัวตาย เพราะเป็นพื้นที่ของพวกตน อยู่กันมานานนับ 40 ปีแล้ว
.
มีรายงานว่า วานนี้ (2 ตุลาคม) กัมพูชาส่งโดรน 2 ลำ บินเข้าไปสอดแนมในพื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะบินกลับไปฝั่งตรงข้าม
.
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า สถานการณ์ฝั่งกัมพูชาจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือขนย้ายข้าวของแต่อย่างใด ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เส้นตายวันที่ 10 ต.ค. อาจจะยังไม่สามารถดำเนินการหรือทำการรุนแรงอะไรได้มากเพื่อหลักมนุษยธรรม ซึ่งสวนทางกับความหวังของชาวบ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้ว ที่คาดหวังว่าวันที่ 3 ต.ค. และ 10 ต.ค. ปัญหาชายแดนที่เรื้อรังมานานกว่า 40 ปีจะจบลงได้
.
เวลา 11.00 น. ที่บ้านเปรยจัน ตรงข้ามแนวรั้วลวดหนาม พบชาวกัมพูชาเริ่มมีการรวมตัวกันแล้ว มีการเกณฑ์เด็กๆ เข้ามาในพื้นที่ มีรถพยาบาลและรถฉุกเฉิน พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาสมทบ พร้อมทั้งเตรียมตั้งโรงครัวทำอาหารไว้บริการแก่มวลชนที่ทยอยเข้าสมทบเรื่อยๆ ทั้งนี้ นายอุม เรียเตร็ย ผวจ.บันเตียเมียนเจย ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ร่วมบัญชาการ
.
ด้าน Khmer Times สื่อกัมพูชา เปิดเผยล่าสุด กัมพูชาปิดถนนบางส่วนใกล้ลวดหนามและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของทหารของไทย รวมถึงการเคลื่อนพล ยุทโธปกรณ์หนัก และการตรวจสอบในพื้นที่พิพาท ผู้สังเกตการณ์รายงานว่ามีรถถัง รถหุ้มเกราะแปดล้อ ปืนใหญ่ รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ และรถสนับสนุนจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านของเขมรแล้ว.
.
.
ทบ.ยังไม่พบข้อมูล ทหารกัมพูชารุกล้ำ-สร้างฐานทหาร ที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5395801
.
ทบ.ยังไม่พบข้อมูล ทหารกัมพูชารุกล้ำ-สร้างฐานทหาร ที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ แต่ถ้าจริงต้องจัดการอยู่แล้ว หากอยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย พร้อมเผยยังไม่ได้รับรายงานทหารเขมรลอดรั้วเข้าฝั่งไทย
.
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.
วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่เพจ Thai Burma railway โพสต์ข้อความ ตั้งข้อสังเกตปราสาทคนา และช่องระยี จังหวัดสุรินทร์ อาจถูกกัมพูชาเข้ายึดหลังพบมีการสร้างบันไดไม้ ว่า กองทัพยังไม่ได้รับข้อมูล เพียงแต่ได้ยินสื่อมวลชนพูดถึงอยู่ อาจจะต้องถามรายละเอียดในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ และกองทัพภาคที่ 2 อีกครั้ง
.
เมื่อถามย้ำว่า หากพบว่ามีการรุกล้ำ สร้างบันได และฐานทหารจะต้องมีการรื้อออกไปหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ต้องดำเนินการเหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ในหลักการนี้ต้องทำเหมือนกัน เพียงแต่ความละเอียดอ่อนแต่ละพื้นที่อาจต่างกัน ถ้าเป็นเรื่องของฝ่ายทหาร ก็ต้องใช้วิธีการในแบบของทหาร ถ้าเป็นประชาชนอย่างที่จังหวัดสระแก้ว ก็ต้องเป็นวิธีการดำเนินการแบบประชาชน
.
ส่วนกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอทหารกัมพูชาลอดรั้วลวดหนามเข้ามาฝั่งไทยเมื่อคืนนี้ ได้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายละเอียด ซึ่งธรรมชาติของการปฏิบัติงานในพื้นที่ทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าพบก็ต้องมีการดำเนินการแน่นอน
.
ส่วนถึงขั้นต้องใช้อาวุธหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่นั้น
.
.
ด่วน! ยกของขึ้นที่สูง กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9963506
.
ด่วน! ยกของขึ้นที่สูง กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที เผยพื้นที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด
.
วันที่ 3 ต.ค.2568
https://www.facebook.com/Kromchon กรมชลประทาน จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,400 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมทางตอนบนจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง
.
กรมชลประทาน ประกาศฉบับที่ 8 เตือนจังหวัด ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
.
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,770 ลบ.ม./วินาที และคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 2,700 – 2,900 ลบ.ม./วินาที เมื่อสมทบกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันอีกประมาณ 180 ลบ.ม./วินาที เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้น
.
กรมชลประทาน จะใช้พื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ รวมกับการรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง แต่เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีฝนตกกระจายตัวต่อเนื่องในพื้นที่ชลประทานตอนล่าง จึงจำเป็นต้องแบ่งรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลองรวมประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีที่ยังเก็บเกี่ยวไม่แล้วเสร็จ
.
พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันไดให้อยู่ในอัตราระหว่าง 2,500 – 2,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่การเกษตรให้ได้มากที่สุด
.
โดยการระบายน้ำในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10 – 40 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
• คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
• วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง
• อำเภอป่าโมก จังหวะดอ่างทอง
• คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
• ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
• วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• อำเภอเมืองสิงห์บุรี
• อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
.
เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
JJNY : คนกัมพูชาลั่นไม่อพยพ ขอต่อสู้จนตาย│ทบ.ยังไม่พบรุกล้ำ-สร้างฐาปราสาทคนา│ยกของขึ้นที่สูง│บ.ญี่ปุ่นถูกโจมตีไซเบอร์
https://www.matichon.co.th/region/news_5395558
.
เขมรกร้าว ประกาศไม่ออกจากหนองหญ้าแก้ว ระดมคน หน่วยพยาบาล ลงพื้นที่ สื่อเขมรรายงานฝ่ายไทยขนอาวุธหนักประชิด หมู่บ้านเขมรแล้ว
.
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่บ้านเปรยจัน ตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี จ.สระแก้ว ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอพยพออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน ซึ่งวันนี้ (3 ตุลาคม) เป็นวันครบกำหนด พบว่า ชาวบ้านประกาศไม่อพยพออกจากพื้นที่เด็ดขาด จะต่อสู้จนตัวตาย เพราะเป็นพื้นที่ของพวกตน อยู่กันมานานนับ 40 ปีแล้ว
.
มีรายงานว่า วานนี้ (2 ตุลาคม) กัมพูชาส่งโดรน 2 ลำ บินเข้าไปสอดแนมในพื้นที่บ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้วเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะบินกลับไปฝั่งตรงข้าม
.
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า สถานการณ์ฝั่งกัมพูชาจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณของการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือขนย้ายข้าวของแต่อย่างใด ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เส้นตายวันที่ 10 ต.ค. อาจจะยังไม่สามารถดำเนินการหรือทำการรุนแรงอะไรได้มากเพื่อหลักมนุษยธรรม ซึ่งสวนทางกับความหวังของชาวบ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้ว ที่คาดหวังว่าวันที่ 3 ต.ค. และ 10 ต.ค. ปัญหาชายแดนที่เรื้อรังมานานกว่า 40 ปีจะจบลงได้
.
เวลา 11.00 น. ที่บ้านเปรยจัน ตรงข้ามแนวรั้วลวดหนาม พบชาวกัมพูชาเริ่มมีการรวมตัวกันแล้ว มีการเกณฑ์เด็กๆ เข้ามาในพื้นที่ มีรถพยาบาลและรถฉุกเฉิน พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาสมทบ พร้อมทั้งเตรียมตั้งโรงครัวทำอาหารไว้บริการแก่มวลชนที่ทยอยเข้าสมทบเรื่อยๆ ทั้งนี้ นายอุม เรียเตร็ย ผวจ.บันเตียเมียนเจย ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ร่วมบัญชาการ
.
ด้าน Khmer Times สื่อกัมพูชา เปิดเผยล่าสุด กัมพูชาปิดถนนบางส่วนใกล้ลวดหนามและเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของทหารของไทย รวมถึงการเคลื่อนพล ยุทโธปกรณ์หนัก และการตรวจสอบในพื้นที่พิพาท ผู้สังเกตการณ์รายงานว่ามีรถถัง รถหุ้มเกราะแปดล้อ ปืนใหญ่ รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ และรถสนับสนุนจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหมู่บ้านของเขมรแล้ว.
.
.
ทบ.ยังไม่พบข้อมูล ทหารกัมพูชารุกล้ำ-สร้างฐานทหาร ที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5395801
.
ทบ.ยังไม่พบข้อมูล ทหารกัมพูชารุกล้ำ-สร้างฐานทหาร ที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ แต่ถ้าจริงต้องจัดการอยู่แล้ว หากอยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย พร้อมเผยยังไม่ได้รับรายงานทหารเขมรลอดรั้วเข้าฝั่งไทย
.
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่เพจ Thai Burma railway โพสต์ข้อความ ตั้งข้อสังเกตปราสาทคนา และช่องระยี จังหวัดสุรินทร์ อาจถูกกัมพูชาเข้ายึดหลังพบมีการสร้างบันไดไม้ ว่า กองทัพยังไม่ได้รับข้อมูล เพียงแต่ได้ยินสื่อมวลชนพูดถึงอยู่ อาจจะต้องถามรายละเอียดในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ และกองทัพภาคที่ 2 อีกครั้ง
.
เมื่อถามย้ำว่า หากพบว่ามีการรุกล้ำ สร้างบันได และฐานทหารจะต้องมีการรื้อออกไปหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ต้องดำเนินการเหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ในหลักการนี้ต้องทำเหมือนกัน เพียงแต่ความละเอียดอ่อนแต่ละพื้นที่อาจต่างกัน ถ้าเป็นเรื่องของฝ่ายทหาร ก็ต้องใช้วิธีการในแบบของทหาร ถ้าเป็นประชาชนอย่างที่จังหวัดสระแก้ว ก็ต้องเป็นวิธีการดำเนินการแบบประชาชน
.
ส่วนกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอทหารกัมพูชาลอดรั้วลวดหนามเข้ามาฝั่งไทยเมื่อคืนนี้ ได้ตรวจสอบแล้วหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายละเอียด ซึ่งธรรมชาติของการปฏิบัติงานในพื้นที่ทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าพบก็ต้องมีการดำเนินการแน่นอน
.
ส่วนถึงขั้นต้องใช้อาวุธหรือไม่ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่นั้น
.
.
ด่วน! ยกของขึ้นที่สูง กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9963506
.
ด่วน! ยกของขึ้นที่สูง กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำ เขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที เผยพื้นที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด
.
วันที่ 3 ต.ค.2568 https://www.facebook.com/Kromchon กรมชลประทาน จะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 2,400 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมทางตอนบนจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ไหลลงมาสมทบอย่างต่อเนื่อง
.
กรมชลประทาน ประกาศฉบับที่ 8 เตือนจังหวัด ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
.
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา สถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 2,770 ลบ.ม./วินาที และคาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 2,700 – 2,900 ลบ.ม./วินาที เมื่อสมทบกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันอีกประมาณ 180 ลบ.ม./วินาที เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มขึ้น
.
กรมชลประทาน จะใช้พื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ รวมกับการรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทั้งสองฝั่ง แต่เนื่องจากปัจจุบันยังคงมีฝนตกกระจายตัวต่อเนื่องในพื้นที่ชลประทานตอนล่าง จึงจำเป็นต้องแบ่งรับน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งสองฝั่งตามศักยภาพของคลองรวมประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีที่ยังเก็บเกี่ยวไม่แล้วเสร็จ
.
พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันไดให้อยู่ในอัตราระหว่าง 2,500 – 2,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่การเกษตรให้ได้มากที่สุด
.
โดยการระบายน้ำในอัตราดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10 – 40 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคั้นกันน้ำบริเวณ
• คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง
• วัดไชโย จังหวัดอ่างทอง
• อำเภอป่าโมก จังหวะดอ่างทอง
• คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา
• ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ติดกับแม่น้ำน้อย
• วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• อำเภอเมืองสิงห์บุรี
• อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
• ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท
.
เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และยกของขึ้นที่สูง หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป