ผมเป็นคนเสื้อแดงคนหนึ่งที่ออกมาต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่งนี้มาตลอด
ไม่ว่าจะเขียนถึงคุณทักษิณ
ไม่ว่าจะเขียนถึงพรรคเพื่อไทย
จนกระทั่งเขียนถึงท่านนายกฯ
จุดมุ่งหมายชัดเจน ต้องการให้ พรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ถอนออกไปซะ แต่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายเพื่อล้างผิดคนโกงเพียงอย่างเดียวที่สังคมกำลังปั่นกระแสอยู่ขณะนี้
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมคุณทักษิณในกรณีที่ถูกยัดข้อหาโดยอาศัยอำนาจจากรัฐประหาร แต่ไม่ใช่ให้คุณทักษิณพ้นผิดในทุกเรื่อง เพียงแต่ต้องการให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติเฉกเช่นเดียวกับคุณอภิสิทธิ์และคุณสุเทพ
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมในกรณีของเหล่าแกนนำทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นคดีทางการเมือง เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับสู่ความสมานฉันท์ จึงสมควรให้การเมืองแก้ปัญหาของการเมือง
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมเหล่าผู้ชุมนุม เพราะคนเหล่านี้หลายต่อหลายคนที่กระทำไปเพราะความหลงผิด และก็มีหลายต่อหลายคนถูกระทำแบบเหมาเข่ง คนเหล่านี้จึงสมควรได้รับการนิรโทษ เพื่อกลับคืนสู่ครอบครัว เป็นกำลังให้กับประเทศชาติต่อไป
แต่ที่ผมต่อต้าน ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งก็คือ การนิรโทษกรรมให้กับผู้สั่งการสังหารประชาชนกลางเมืองหลวง นั่นไม่ใช่เพราะอยากเห็นคนทำผิดต้องถูกลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจจากนี้ไป กระทำเยี่ยงเดียวกันเป็นอันขาด คือต้องการสร้างบรรทัดฐานนั่นเอง
แต่ผมมองการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมในตอนนี้แล้วเกิดความรู้สึกแปร่งๆอย่างไรชอบกล
ไม่ใช่เพราะการต่อต้านคนโกงที่ควรถูกตำหนิ
ไม่ใช่เพราะเห็นเรื่องการทุจริตสำคัญกว่าชีวิตคนไทยด้วยกันที่ควรตำหนิ
เพราะสิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องของความคิดเห็นต่าง บางคนอาจเห็นชีวิตคนมีค่าเหนือกว่าอื่นใด แต่บางคนอาจเห็นวัตถุเงินทองสำคัญกว่าชีวิตมนุษย์ด้วยกัน นั่นมันต่างจิตต่างใจ คงจะบังคับกันไม่ได้ แต่อย่างไรเสีย จุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ การต่อต้าน พรบ.ฉบับนี้ไม่ให้ผ่านเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างไร
แต่ที่เกิดความรู้สึกแปร่งๆก็คือ จุดมุ่งหมายที่ไม่ต้องการล้างผิดคนโกง จุดมุ่งหมายคือไม่ต้องการเห็นการทุจริต จุดมุ่งหมายคือไม่ต้องการทำลายนิติรัฐ นิติธรรมไม่ใช่หรือ?
แล้วทำไมจึงไปเดินตามคนที่ไม่ได้สะอาดบริสุทธิ์เหมือนกันล่ะครับ
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า สปก.4-01 เป็นการกระทำด้วยความบกพร่อง
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า น้ำมันปาล์มที่ขึ้นราคาและรัฐช่วยอุดหนุน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า เสาโรงพักและแฟลตตำรวจเป็นไปอย่างโปร่งใส
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการ เป็นเพราะเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ไม่ได้โกงสิทธิของคนอื่น
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การปราบปรามประชาชนมือเปล่าด้วยอาวุธสงครามเป็นไปตามนิติรัฐนิติธรรม
และยังมีอีกมายมายนับไม่ถ้วน
จึงทำให้ผมรู้สึกแปร่งๆว่า ที่แท้แล้วเป็นการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมจริงๆ หรือแค่การต่อต้าน คุณทักษิณกันแน่
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลยอมถอยให้ถึงปากซอยแล้ว นั่นแสดงว่าจุดมุ่งหมายของการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมได้สำเร็จตามเป้าหมายแล้ว การชุมนุมจึงควรจะยุติ เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไปดีกว่านะครับ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของเกมชิงอำนาจต่อไปเลยนะครับ
เพราะเป้าหมายของนักการเมืองที่ต้องลงมาสู่ถนนนั้น มันไม่ใช่เป้าหมายแค่หยุดยั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องนิติรัฐ นิติธรรมอะไรหรอกนะครับ มันต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาตามครรลองเสียมากกว่า โดยไม่สนใจกับผลกระทบที่จะตามมาในภายภาคหน้า
คนที่ต้องการได้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ไม่ใส่ใจกับกติกา แล้วจะรักษาระบบให้ดีได้อย่างไรจริงไหมครับ
เพราะต่อให้สามารถขับไล่รัฐบาลได้สำเร็จ ก็คงต้องพบกับการต่อต้านจากประชาชนอีกฝ่ายอย่างแน่นอน เราอยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนี้ตลอดไปอย่างนั้นหรือครับ
สำหรับคนเสื้อแดงอย่างผม ก็พร้อมเสมอที่จะออกไปอย่างแน่นอนครับ ถ้ามีการใช้มวลชนมาขับไล่รัฐบาลของผม ซึ่งมาอย่างชอบธรรม
ผมต้องการให้ประชาชนเป็นคนกำหนดนักการเมืองให้ดำเนินการตามที่ประชาชนต้องการ
ไม่ใช่ให้นักการเมืองเป็นคนกำหนดให้ประชาชนเดินไปตามทิศทางที่นักการเมืองต้องการครับ
แต่จะสมหวังได้ ก็ต่อเมื่อเราได้ประชาธิปไตยจริงๆ แล้วค่อยๆพัฒนาไปตามครรลองของมัน สักวันหนึ่งต้องสมหวังอย่างแน่นอน ผมคิดของผมอย่างนี้ครับ
จากใจของคนเสื้อแดงคนหนึ่ง
ไม่ว่าจะเขียนถึงคุณทักษิณ
ไม่ว่าจะเขียนถึงพรรคเพื่อไทย
จนกระทั่งเขียนถึงท่านนายกฯ
จุดมุ่งหมายชัดเจน ต้องการให้ พรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ถอนออกไปซะ แต่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายเพื่อล้างผิดคนโกงเพียงอย่างเดียวที่สังคมกำลังปั่นกระแสอยู่ขณะนี้
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมคุณทักษิณในกรณีที่ถูกยัดข้อหาโดยอาศัยอำนาจจากรัฐประหาร แต่ไม่ใช่ให้คุณทักษิณพ้นผิดในทุกเรื่อง เพียงแต่ต้องการให้มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติเฉกเช่นเดียวกับคุณอภิสิทธิ์และคุณสุเทพ
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมในกรณีของเหล่าแกนนำทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นคดีทางการเมือง เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับสู่ความสมานฉันท์ จึงสมควรให้การเมืองแก้ปัญหาของการเมือง
ผมไม่ต่อต้านหรอกครับ ถ้าจะนิรโทษกรรมเหล่าผู้ชุมนุม เพราะคนเหล่านี้หลายต่อหลายคนที่กระทำไปเพราะความหลงผิด และก็มีหลายต่อหลายคนถูกระทำแบบเหมาเข่ง คนเหล่านี้จึงสมควรได้รับการนิรโทษ เพื่อกลับคืนสู่ครอบครัว เป็นกำลังให้กับประเทศชาติต่อไป
แต่ที่ผมต่อต้าน ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งก็คือ การนิรโทษกรรมให้กับผู้สั่งการสังหารประชาชนกลางเมืองหลวง นั่นไม่ใช่เพราะอยากเห็นคนทำผิดต้องถูกลงโทษเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจจากนี้ไป กระทำเยี่ยงเดียวกันเป็นอันขาด คือต้องการสร้างบรรทัดฐานนั่นเอง
แต่ผมมองการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมในตอนนี้แล้วเกิดความรู้สึกแปร่งๆอย่างไรชอบกล
ไม่ใช่เพราะการต่อต้านคนโกงที่ควรถูกตำหนิ
ไม่ใช่เพราะเห็นเรื่องการทุจริตสำคัญกว่าชีวิตคนไทยด้วยกันที่ควรตำหนิ
เพราะสิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องของความคิดเห็นต่าง บางคนอาจเห็นชีวิตคนมีค่าเหนือกว่าอื่นใด แต่บางคนอาจเห็นวัตถุเงินทองสำคัญกว่าชีวิตมนุษย์ด้วยกัน นั่นมันต่างจิตต่างใจ คงจะบังคับกันไม่ได้ แต่อย่างไรเสีย จุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ การต่อต้าน พรบ.ฉบับนี้ไม่ให้ผ่านเหมือนกัน ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างไร
แต่ที่เกิดความรู้สึกแปร่งๆก็คือ จุดมุ่งหมายที่ไม่ต้องการล้างผิดคนโกง จุดมุ่งหมายคือไม่ต้องการเห็นการทุจริต จุดมุ่งหมายคือไม่ต้องการทำลายนิติรัฐ นิติธรรมไม่ใช่หรือ?
แล้วทำไมจึงไปเดินตามคนที่ไม่ได้สะอาดบริสุทธิ์เหมือนกันล่ะครับ
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า สปก.4-01 เป็นการกระทำด้วยความบกพร่อง
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า น้ำมันปาล์มที่ขึ้นราคาและรัฐช่วยอุดหนุน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า เสาโรงพักและแฟลตตำรวจเป็นไปอย่างโปร่งใส
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการ เป็นเพราะเจ้าตัวไม่รู้เรื่อง
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การไม่เข้ารับการเกณฑ์ทหาร ไม่ได้โกงสิทธิของคนอื่น
เชื่อกันจริงๆหรือครับว่า การปราบปรามประชาชนมือเปล่าด้วยอาวุธสงครามเป็นไปตามนิติรัฐนิติธรรม
และยังมีอีกมายมายนับไม่ถ้วน
จึงทำให้ผมรู้สึกแปร่งๆว่า ที่แท้แล้วเป็นการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมจริงๆ หรือแค่การต่อต้าน คุณทักษิณกันแน่
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลยอมถอยให้ถึงปากซอยแล้ว นั่นแสดงว่าจุดมุ่งหมายของการต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมได้สำเร็จตามเป้าหมายแล้ว การชุมนุมจึงควรจะยุติ เพื่อให้ประเทศได้เดินหน้าต่อไปดีกว่านะครับ อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของเกมชิงอำนาจต่อไปเลยนะครับ
เพราะเป้าหมายของนักการเมืองที่ต้องลงมาสู่ถนนนั้น มันไม่ใช่เป้าหมายแค่หยุดยั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องนิติรัฐ นิติธรรมอะไรหรอกนะครับ มันต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาตามครรลองเสียมากกว่า โดยไม่สนใจกับผลกระทบที่จะตามมาในภายภาคหน้า
คนที่ต้องการได้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ไม่ใส่ใจกับกติกา แล้วจะรักษาระบบให้ดีได้อย่างไรจริงไหมครับ
เพราะต่อให้สามารถขับไล่รัฐบาลได้สำเร็จ ก็คงต้องพบกับการต่อต้านจากประชาชนอีกฝ่ายอย่างแน่นอน เราอยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างนี้ตลอดไปอย่างนั้นหรือครับ
สำหรับคนเสื้อแดงอย่างผม ก็พร้อมเสมอที่จะออกไปอย่างแน่นอนครับ ถ้ามีการใช้มวลชนมาขับไล่รัฐบาลของผม ซึ่งมาอย่างชอบธรรม
ผมต้องการให้ประชาชนเป็นคนกำหนดนักการเมืองให้ดำเนินการตามที่ประชาชนต้องการ
ไม่ใช่ให้นักการเมืองเป็นคนกำหนดให้ประชาชนเดินไปตามทิศทางที่นักการเมืองต้องการครับ
แต่จะสมหวังได้ ก็ต่อเมื่อเราได้ประชาธิปไตยจริงๆ แล้วค่อยๆพัฒนาไปตามครรลองของมัน สักวันหนึ่งต้องสมหวังอย่างแน่นอน ผมคิดของผมอย่างนี้ครับ