เรื่องมันยาวมากๆ แต่ขอเล่าสรุปให้ฟัง
พ่อผมมีแฟนใหม่ ผมจึกเรียกว่าน้า ก. ตลอดระยะเวลา 15 ปี อยู่กันคนละบ้าน ผมและน้า ก. ไม่มีปัญหาอะไรกัน ถึงจะมีผมก็เฉยๆ ได้แต่รับฟังมาโดยตลอด ที่ผ่านๆ มา ผมพาพ่อและน้า ก. นัดทานข้าวกันอยู่บ่อยๆ มีอะไรผมก็ช่วยเหลือเต็มทีเรื่องเงินทอง เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดผม เรียกง่ายๆผมตอบแทนพระคุณท่านจนพ่อผมไม่ลำบาก และมีน้องๆช่วยเหลืออีกทาง
แต่ติดปัญหาน้า ก. ชอบด่า ชอบว่า พ่อผมต่อหน้าใครๆ บางทีก็ยุให้แตกคอกัน เช่นพี่กับน้อง พ่อกับผม ไม่รู้เป็นคนอย่างไร แต่ที่ผ่านๆมา ผมก็ใจเย็นและไม่คิดอะไร ถือว่าเขาช่วยผมดูแลพ่อผม บางทีเอาเรื่องแม่ผม ไปด่าว่าแม่ผมต่อหน้าคนซอยนั้นทั้งๆที่ไม่รู้จัก น้า ก. มาก่อนเลย คง งง กันใช่ไหม น้า ก. เป็นคนสไตล์แบบนี้ผีเข้าผีออก เช่น สมัยที่อยู่ใกล้ๆบ้านกันแต่คนละซอย แม่ผมขายหมูปิ้ง พ่อและน้า ก. ก็ขายหมูปิ้ง แต่ที่แม่ผมทำเลดีกว่า ถ้าวันไหน น้า ก. ขายไม่หมด ขายเหลือ ก็เอามาฝากแม่ผมขาย แต่แม่ผมก็ต้องขายส่วนของแม่ผมก่อนนะ พอ น้า ก. รู้ว่ายังขายเหลือก็ด่าว่าแม่ผมให้คนที่แม่ผมรู้จักให้ฟัง ประมาณนี้ นี้คือนิสัย แต่ผมก็เย็น เฉยๆ แม่ผมก็ไม่ว่ากัน
ถ้าเจอหน้าผม หรือ คนที่เคยถูกหน้าด่าเอาไว้ลับหลัง น้า ก. จะพูดดีเหมือนน้ำเชื่อม ไม่จริง ไม่ได้พูด ไม่รู้ อะไรประมาณนี้ ผมเองก็เหนื่อยใจแต่ก็ชั่งมัน พอได้กำหนดการจะแต่งงาน ก็กะว่าจะเชิญพ่อและ น้า ก. ไป เดี๋ยวให้ตังค์ไปซื้อชุดสวยๆหล่อๆให้ใส่ไปงานแต่งเรา
ภายในระยะ 2 อาทิตย์ ไปแจกการ์ดงานแต่ง ไปบ้านญาติ ๆ ไปแจกคนที่รู้จัก บลาๆๆๆ เชื่อไหมว่าความตั้งใจอยากจะให้น้า ก. ไปงานแต่งเรากลับเปลี่ยนความคิดไม่อยากให้ไปแล้ว เพราะไปเชิญญาติทางฝ่ายพ่อ น้า ก. ด่าผม ด่าน้อง ด่าพ่อผม ด่าแม่ผมกระจายเลย ไม่รู้ไปโกรธ ไปเกลียดอะไรกันมา ญาติบอกกับผมว่าแม่เลี้ยง (น้า ก.) ร้ายนะ ด่า ๆๆ ๆ เสร็จแถมด่าพ่อประจานต่อหน้าอีก แต่ตอนแรกพวกญาติๆฝ่ายพ่อก็เข้าใจถึงอารมณ์น้า ก. หาว่าผมทำตัวแบบนี้ แบบนั้น แต่ช่วงหลังๆ ดันไปด่าพ่อต่อหน้าคือพี่น้องของญาติพ่อ และไปด่าว่าพี่สาวของญาติ ที่เขาให้อาศัยบ้านอยู่ฟรีมาหลายปี เจ็บๆแสบๆ
ผมก็มานั่งคิดดูทำอย่างไรดีนะ ไม่อยากให้พ่อน้อยใจ เสียใจ ก็เลยพาแฟน พาแม่เราไป ไปเยี่ยมพ่อซื้อขนม นม ของอร่อยๆ ไปฝากพ่อ และเรียนเชิญด้วยตนเองเป็นทางการ เพราะก็ก่อนหน้านั้น น้า ก. โวยวายใหญ่เลยกับแม่เรา และน้อง ว่าเราไม่เต็มใจไปเรียนเชิญพ่อ ดันฝากการ์ดงานแต่งให้พี่สาวคนโตของพ่อ (ที่ให้อยู่อาศัยบ้านเดียวพักฟรี) ไปให้ และก็หาว่าเราทำการ์ดยับด้วย เหมือนว่าผมไม่ได้ตั้งใจเรียนเชิญพ่อ แต่เรารู้ก่อนหน้านั้นอีกเพราะตอนที่พี่สาวพ่อ คือป้าเรา ต้องขับรถผ่านหมู่บ้านป้า ก็คือบ้านพ่อปันจุบัน (คลอง 13) ได้เอาการด์งานแต่งไปให้ และน้า ก. พับการ์ดเป็นครึ่งหนึ่งใส่กางเกง ป้าเราตกใจ แต่น้า ก. ก็เฉยๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (บ้านผมอยู่สาย 3)
แต่วันนี้พ่อเราอ้างบอกกับน้องว่าไปไม่ถูก ไปไม่เป็น ทั้งๆพ่อก็เคยมาบ้านเราตั้งหลายครั้ง และพ่อก็ขับรถมากว่า 20 ปี ในกทม แต่ผมรู้ลึกๆ พ่อไม่พอใจผมที่ไม่เชิญ น้า ก. ไปด้วย ผมกลัว แฟนผมก็กลัวถ้าไปงานแต่ง และอยู่ๆ ลับหลังไปด่าพ่อผม ด่าผม ด่าแม่ ให้พวกญาติๆฝ่ายหญิงได้ฟัง ทั้งๆเขาไม่รู้เรื่องราวอะไรกันมาก่อนกลัวว่าจะเกิดความเสียหายต่อฝ้ายหญิง เหมือนมะเร็งร้ายลามไปอีกฝั่งหนึ่ง
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี อยากให้พ่อไปนะ ถึงอย่างไรก็เป็นพ่อ แต่น้า ก. ไม่อยากด่า ว่า พูดกล่าวถึงอีกแล้ว ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว แถมในการ์ดงานแต่งมีชื่อพ่อเป็นเจ้าภาพอีกด้วย......ถ้าเป็นคนอื่นๆ ผมคงไม่เสียใจขณะนี้
ถ้าพ่อของเราไม่อยากมางานแต่งเรา เนื่องจากเราไม่ได้เชิญแฟนใหม่ของพ่อมาด้วยมันจะผิดมากไหม
พ่อผมมีแฟนใหม่ ผมจึกเรียกว่าน้า ก. ตลอดระยะเวลา 15 ปี อยู่กันคนละบ้าน ผมและน้า ก. ไม่มีปัญหาอะไรกัน ถึงจะมีผมก็เฉยๆ ได้แต่รับฟังมาโดยตลอด ที่ผ่านๆ มา ผมพาพ่อและน้า ก. นัดทานข้าวกันอยู่บ่อยๆ มีอะไรผมก็ช่วยเหลือเต็มทีเรื่องเงินทอง เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดผม เรียกง่ายๆผมตอบแทนพระคุณท่านจนพ่อผมไม่ลำบาก และมีน้องๆช่วยเหลืออีกทาง
แต่ติดปัญหาน้า ก. ชอบด่า ชอบว่า พ่อผมต่อหน้าใครๆ บางทีก็ยุให้แตกคอกัน เช่นพี่กับน้อง พ่อกับผม ไม่รู้เป็นคนอย่างไร แต่ที่ผ่านๆมา ผมก็ใจเย็นและไม่คิดอะไร ถือว่าเขาช่วยผมดูแลพ่อผม บางทีเอาเรื่องแม่ผม ไปด่าว่าแม่ผมต่อหน้าคนซอยนั้นทั้งๆที่ไม่รู้จัก น้า ก. มาก่อนเลย คง งง กันใช่ไหม น้า ก. เป็นคนสไตล์แบบนี้ผีเข้าผีออก เช่น สมัยที่อยู่ใกล้ๆบ้านกันแต่คนละซอย แม่ผมขายหมูปิ้ง พ่อและน้า ก. ก็ขายหมูปิ้ง แต่ที่แม่ผมทำเลดีกว่า ถ้าวันไหน น้า ก. ขายไม่หมด ขายเหลือ ก็เอามาฝากแม่ผมขาย แต่แม่ผมก็ต้องขายส่วนของแม่ผมก่อนนะ พอ น้า ก. รู้ว่ายังขายเหลือก็ด่าว่าแม่ผมให้คนที่แม่ผมรู้จักให้ฟัง ประมาณนี้ นี้คือนิสัย แต่ผมก็เย็น เฉยๆ แม่ผมก็ไม่ว่ากัน
ถ้าเจอหน้าผม หรือ คนที่เคยถูกหน้าด่าเอาไว้ลับหลัง น้า ก. จะพูดดีเหมือนน้ำเชื่อม ไม่จริง ไม่ได้พูด ไม่รู้ อะไรประมาณนี้ ผมเองก็เหนื่อยใจแต่ก็ชั่งมัน พอได้กำหนดการจะแต่งงาน ก็กะว่าจะเชิญพ่อและ น้า ก. ไป เดี๋ยวให้ตังค์ไปซื้อชุดสวยๆหล่อๆให้ใส่ไปงานแต่งเรา
ภายในระยะ 2 อาทิตย์ ไปแจกการ์ดงานแต่ง ไปบ้านญาติ ๆ ไปแจกคนที่รู้จัก บลาๆๆๆ เชื่อไหมว่าความตั้งใจอยากจะให้น้า ก. ไปงานแต่งเรากลับเปลี่ยนความคิดไม่อยากให้ไปแล้ว เพราะไปเชิญญาติทางฝ่ายพ่อ น้า ก. ด่าผม ด่าน้อง ด่าพ่อผม ด่าแม่ผมกระจายเลย ไม่รู้ไปโกรธ ไปเกลียดอะไรกันมา ญาติบอกกับผมว่าแม่เลี้ยง (น้า ก.) ร้ายนะ ด่า ๆๆ ๆ เสร็จแถมด่าพ่อประจานต่อหน้าอีก แต่ตอนแรกพวกญาติๆฝ่ายพ่อก็เข้าใจถึงอารมณ์น้า ก. หาว่าผมทำตัวแบบนี้ แบบนั้น แต่ช่วงหลังๆ ดันไปด่าพ่อต่อหน้าคือพี่น้องของญาติพ่อ และไปด่าว่าพี่สาวของญาติ ที่เขาให้อาศัยบ้านอยู่ฟรีมาหลายปี เจ็บๆแสบๆ
ผมก็มานั่งคิดดูทำอย่างไรดีนะ ไม่อยากให้พ่อน้อยใจ เสียใจ ก็เลยพาแฟน พาแม่เราไป ไปเยี่ยมพ่อซื้อขนม นม ของอร่อยๆ ไปฝากพ่อ และเรียนเชิญด้วยตนเองเป็นทางการ เพราะก็ก่อนหน้านั้น น้า ก. โวยวายใหญ่เลยกับแม่เรา และน้อง ว่าเราไม่เต็มใจไปเรียนเชิญพ่อ ดันฝากการ์ดงานแต่งให้พี่สาวคนโตของพ่อ (ที่ให้อยู่อาศัยบ้านเดียวพักฟรี) ไปให้ และก็หาว่าเราทำการ์ดยับด้วย เหมือนว่าผมไม่ได้ตั้งใจเรียนเชิญพ่อ แต่เรารู้ก่อนหน้านั้นอีกเพราะตอนที่พี่สาวพ่อ คือป้าเรา ต้องขับรถผ่านหมู่บ้านป้า ก็คือบ้านพ่อปันจุบัน (คลอง 13) ได้เอาการด์งานแต่งไปให้ และน้า ก. พับการ์ดเป็นครึ่งหนึ่งใส่กางเกง ป้าเราตกใจ แต่น้า ก. ก็เฉยๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (บ้านผมอยู่สาย 3)
แต่วันนี้พ่อเราอ้างบอกกับน้องว่าไปไม่ถูก ไปไม่เป็น ทั้งๆพ่อก็เคยมาบ้านเราตั้งหลายครั้ง และพ่อก็ขับรถมากว่า 20 ปี ในกทม แต่ผมรู้ลึกๆ พ่อไม่พอใจผมที่ไม่เชิญ น้า ก. ไปด้วย ผมกลัว แฟนผมก็กลัวถ้าไปงานแต่ง และอยู่ๆ ลับหลังไปด่าพ่อผม ด่าผม ด่าแม่ ให้พวกญาติๆฝ่ายหญิงได้ฟัง ทั้งๆเขาไม่รู้เรื่องราวอะไรกันมาก่อนกลัวว่าจะเกิดความเสียหายต่อฝ้ายหญิง เหมือนมะเร็งร้ายลามไปอีกฝั่งหนึ่ง
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี อยากให้พ่อไปนะ ถึงอย่างไรก็เป็นพ่อ แต่น้า ก. ไม่อยากด่า ว่า พูดกล่าวถึงอีกแล้ว ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว แถมในการ์ดงานแต่งมีชื่อพ่อเป็นเจ้าภาพอีกด้วย......ถ้าเป็นคนอื่นๆ ผมคงไม่เสียใจขณะนี้