คุณรู้มั้ย ?? ชีวิตคนเราน่ะ มันก็ต่างหมุนไป ไม่ต่างอะไรกับที่วันนี้ที่เมื่อได้เจอกับพรุ่งนี้ วันนี้ก็จะหายไป ... มีวันใหม่เข้ามาแทนที่ ส่วนวันพรุ่งนี้ ก็ยังคงผลัดเปลี่ยนเรื่องราวให้ไม่ซ้ำกันไป
แปลกดีที่ปกติผมมักจะเชื่อมั่นว่า หากเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด และวันพรุ่งนี้ ก็คงจะดีเอง ... ใช่ ผมเชื่ออย่างนั้น เชื่อสิ เชื่อมาตลอด
แต่ตอนนี้ผมกลับเป็นคนที่กำลังจมกับอดีต อดีตที่กำลังผ่านไปเรื่อยๆ อดีตของผมคงไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากคนอื่นหรอก ... เวลาที่ผมกำลังนั่งถ่ายทอดเรื่องราวนี้ ผมยังคงจมกับอดีต อยู่กับสถานที่สุดท้าย ที่ผมได้คุยกับเธอ ที่ๆผมให้เธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง ... และคำตอบที่ผมได้จากเธอนั้น ก็เป็นคำตอบที่ผมรู้อยู่ก่อนแล้ว สุดท้ายสถานที่แห่งนี้ ก็ไม่สามารถจะทำให้ผมสามารถเหนี่ยวรั้งให้เธอหยุดอยู่กับผมได้
ตลอด 2 ปี เราเป็นคบกันมา อาจจะไม่เคยเรียกว่าเป็นแฟนกันเลยก็ได้ เพราะเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆมาก่อน พอถึงวันที่ผมติดสันใจที่จะชอบเธอ และเริ่มคุยกับเธออย่างจริงจัง ซึ่งเราต่างก็โอเคทั้งคู่ ตลอดช่วงเวลานี้ผมไม่เคยใช้คำว่าแฟนเป็นคำยึดเหนี่ยวทั้งเค้าและผม แต่ผมกลับรู้สึกดี ที่บางเวลาผมได้มีคนพิเศษคนนึง ที่พร้อมจะรับฟังผมทุกเรื่อง เข้าใจผม และบางเวลา ... ที่ทำให้ผมมีเพื่อนคนนึงที่แสนดี ไปพร้อมๆกัน
เราตัวไม่ค่อยติดกันตลอดเวลาหรอก ต่างกับหลายๆคู่ที่เวลาเรียนอาจจะตัวติดกันตลอด ถึงแม้จะเรียนอยู่คณะเดียวกัน แต่เราก็มีเพื่อนคนละกลุ่ม ผมถือคติที่ว่า เวลาอยู่กับเพื่อน ก็คือให้เราได้อยู่กับเพื่อน ส่วนเวลาอื่นก็เป็นเรื่องของเรา คณะผมเรียนหนักครับ เหนื่อยกับการอ่านหนังสือ แต่ทุกวันนี้ที่ผ่านมันมาได้ ก็คงเพราะมีเราช่วยกันเรียน เที่ยวบ้าง ผ่อนคลายบ้าง สิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าการเรียนช่างสดใส และพร้อมที่จะสู้ต่อไป
ผมเป็นคนชอบแสดงออกนะครับ ชอบเป็นผู้นำ ทำให้เวลาผมอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ผมเลยมักที่จะเลือกไม่แสดงออกในลักษณะที่แฟนเค้าทำกัน ผมยังคงความเป็นผู้ใหญ่ มีมาด ซึ่งก็เป็นมาแบบนั้นเสมอมา แต่เธอนี่สิ คนที่ดูขี้ตื้อ ดูเรียกร้องความสนใจ มักจะเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกเสียฟอร์ม รู้สึกจู้จี้ แต่แปลกดีเหมือนกัน ที่ข้างในผมมันแอบยิ้มเขินไปทุกที
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราเรียน อ่าน ติวหนังสือ เที่ยวเล่น ทำกิจกรรมทุกอย่างไปด้วยกัน ผมกับเธอก็เก่งในหลายๆอย่างด้วยกันทั้งคู่ ไม่แปลกเลย ที่เราจะทะเลาะกันบ่อยไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่เมื่อมีคนนึงงอน หรือคนนึงผิด เราก็มักจะมีอีกคนนึงที่คอยง้อ คอยเข้าใจ ช่วยแก้ไข ... เวลาเศร้ามีแหละ แต่ความเศร้านั้น ถ้าผมไม่แก้ เธอก็จะเป็นคนแก้ และถ้าเธอไม่แก้ ผมก็จะเป็นคนที่ทำให้มันหายไปเอง
ผมเติบโตขึ้นมากครับ ไม่ว่าจะนิสัย ความคิด อะไรหลายๆอย่าง จากใจร้อน เป็นใจเย็นขึ้น จากไม่ค่อยเข้าใจอะไรคนอื่น เป็นคนที่เข้าใจอะไรมากขึ้น และเธอนั่นแหละ ที่ทำให้ผมได้เติบโตขึ้น รวมถึงเธอก็กำลังเติบโต เรียนรู้อะไรไปพร้อมๆกันเหมือนกัน ... ถึงแม้ตอนนี้จะเรียนอยู่ อนาคตยังอีกไกล ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าคนๆนี้ จะใช่สำหรับผม และผมใช่สำหรับเธอในอนาคตรึเปล่า ที่ผมคิดเพียงอย่างเดียวก็คือ "วันนี้ดี ... พรุ่งนี้จะดี" สุดท้าย อนาคตก็จะดีเอง ถ้าเราทำทุกอย่างที่ดีต่อไปเรื่อยๆ 'ในทุกๆวัน'
ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลง ไม่แปลกหรอก จีบกันใหม่ๆ คุยกัน 2-3 ชมได้ พอผ่านไป 2 ปี คุยกันทุกวัน วันละ 10-20 นาที รวมถึงความใส่ใจอื่นๆ ความสนใจ ผมหลีกหนีคำว่า 'โปรโมชั่น' ไม่พ้นหรอก อย่างที่ทุกคนว่ากันว่าช่วงแรกนี้แหละโปรโมชั่น แปลกดีนะครับ ทุกวันที่ที่ผมได้คุยกับเธอ วันๆนึงเราต่างชีวิตเหมือนกัน เรียนคณะเดียวกัน อ่านหนังสือเหมือนกัน จะต่างก็แค่เรื่องของกลุ่มเพื่อน วันนึงคุยกัน 10-20 นาทีก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากเลย ผมไม่ขอเปรียบเทียบกับช่วงแรกที่คุยกันนานๆว่าทำไมถึงคุยน้อยลงไปเยอะ ... ผมว่ามันไม่เหมือนกันครับ ช่วงแรกเราต่างเรียนรู้กันใหม่ๆ ต่างคนต่างมาเจอ คงไม่แปลกที่เราจะมีเรื่องราวมากมายให้แลกเปลี่ยนกัน แต่ตอนนี้ 2 ปีที่ผ่านมา เธอรู้เรื่องผมทุกอย่าง ผมรู้เรื่องเธอทุกอย่าง สิ่งที่แปลกใหม่ไปแต่ละวัน มันก็แทบไม่ต่างกัน วันนึงกับ 10 นาทีที่คุยกัน เพียงพอสำหรับผมมากมาย ...
แต่เธอไม่ได้คิดแบบผม สัปดาห์ก่อน เธอได้เจอเด็กในค่ายคนนึง แล้วรู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก เธอบอกผมว่า "เค้าใช่" ใช่ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผม เธอแอบคุยกับเค้ามาไม่ถึง 10 วัน คุยกันเป็นชั่วโมงๆ แต่ผมก็จับเค้าได้ แปลกดีนะครับที่อยู่ดีๆผมก็รู้ได้จากน้ำเสียงผ่านสายโทรศัพท์ จากความรู้สึกลึกๆในใจ คงเป็นเพราะความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ตลอด 2 ปี มันกำลังจะหายไปละมั้ง
ผมรู้สึกแย่มากครับ ผมเคยเป็นคนม่อๆมาก่อน มองคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย แต่ถึงวันนึงที่เธอบอกว่าไม่ชอบ ไม่พอใจ หลังจากนั้นผมหยุดที่จะคุยกับคนอื่นครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนอื่นที่เข้ามา อาจจะใช่มากกว่าเธอก็ได้ แต่ผมว่าผมพอแล้วล่ะครับ ทุกอย่างที่อยู่กับเธอตรงนี้ คงไม่บอกได้เต็มปากหรอกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ผมกล้าบอกได้เลยว่า "เรากำลังเติบโตไปด้วยกัน เพื่อเป็นที่สุด"
ผมบอกให้เธอตัดสินใจครับ ว่าเธอจะเลือกผม หรือเลือกเค้าที่เพิ่งเจอกันในค่าย และคุยกันมาไม่ถึง 10 วัน เธอเศร้า ผมเศร้า เธอบอกให้ผมรอ รอที่เธอจะค่อยๆหาโอกาสบอกเลิกกับเค้าคนนั้น แต่ผมรอไม่ได้หรอก ยิ่งผมรอ ยิ่งรู้สึกแย่ ผมถามเธอว่า "ระหว่างที่ผมรอคุนบอกเลิกกับเค้า เพราะคุนกลัวเค้าเสียใจ ผมนี่แหละ ที่ยิ่งเสียใจมากกว่าเค้า"
เธอบอกให้ผมรอครับ เธอบอกว่าเธอเลือกผม แต่เธอก็ขอเวลา ที่จะบอกเลิก เลิกคุยกับเค้าคนนั้น เพราะเธอไม่อยากแตกหักกับเค้าคนนั้น ... เธอเลือกที่จะห่วงความรู้สึกของเค้า มากกว่าความรู้สึกผม ผมขอให้เธอบอกเลิกคุยกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 10 วัน แล้วหยุดทุกอย่าง แต่เธอทำให้ผมไม่ได้ ...
ผมเชื่อนะ ว่าทุกคนต่างมีคนที่ใช่สำหรับตัวเองแหละ เราคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ได้แน่หรอกว่าใครใช่ ... ที่ผมคิด คนนี้แหละใช่ แต่คง ไม่ใช่ที่สุด ... การเราชอบใคร รักใคร ทุกครั้งมักเกิดจากคำว่า 'ใช่' แหละ ไม่มากก็น้อยความรู้สึกก็ยังบอกผมแบบนั้น แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ "ใช่ ที่สุด" แต่สิ่งนั้น มันคงเกิดจากการที่เราเติบโต ช่วยกันสร้างคำว่า 'ที่สุด' มากกว่า ... มากกว่าการที่จะเจอว่าเค้าที่สุดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ผมรักเธอมากครับ กว่าจะมารู้สึกยิ่งกว่าเดิมก็เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น บางทีมันอาจสายไปแล้ว เธอให้คำตอบผมมาแล้ว และนั่นทำให้ผมบอกเลิกเธอ ... แต่ในใจผมกลับว้าวุ่น เหมือนกำลังรอให้เธอกลับมา รอให้เธอเดินมาหาที่สุดท้าย ที่เราได้จบทุกอย่างลงไว้เมื่อวาน ตอนนี้ผมกำลังพิมอยู่นี้ ผมก็อยู่ที่ตรงนี้แหละครับ เพียงแต่ผมกำลังจะออกจากที่แห่งนี้ไปแล้ว ... โดยที่เธออาจจะรู้ หรือไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือ
ที่แห่งนี้ ตอนที่ผมกำลังก้าวออกไป ... ผมอยู่คนเดียว
เสียใจที่เมื่อก่อนผมอาจไม่ได้ใส่เธอมากพอก็ได้ แต่ตอนนี้ ... จะกลับไปแก้ไขอดีต ก็ไม่ทันแล้ว
โลกที่หมุนไป และอาจไม่มีทาง ... หมุนกลับมา
แปลกดีที่ปกติผมมักจะเชื่อมั่นว่า หากเราทำวันนี้ให้ดีที่สุด และวันพรุ่งนี้ ก็คงจะดีเอง ... ใช่ ผมเชื่ออย่างนั้น เชื่อสิ เชื่อมาตลอด
แต่ตอนนี้ผมกลับเป็นคนที่กำลังจมกับอดีต อดีตที่กำลังผ่านไปเรื่อยๆ อดีตของผมคงไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากคนอื่นหรอก ... เวลาที่ผมกำลังนั่งถ่ายทอดเรื่องราวนี้ ผมยังคงจมกับอดีต อยู่กับสถานที่สุดท้าย ที่ผมได้คุยกับเธอ ที่ๆผมให้เธอตัดสินใจอะไรบางอย่าง ... และคำตอบที่ผมได้จากเธอนั้น ก็เป็นคำตอบที่ผมรู้อยู่ก่อนแล้ว สุดท้ายสถานที่แห่งนี้ ก็ไม่สามารถจะทำให้ผมสามารถเหนี่ยวรั้งให้เธอหยุดอยู่กับผมได้
ตลอด 2 ปี เราเป็นคบกันมา อาจจะไม่เคยเรียกว่าเป็นแฟนกันเลยก็ได้ เพราะเราเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆมาก่อน พอถึงวันที่ผมติดสันใจที่จะชอบเธอ และเริ่มคุยกับเธออย่างจริงจัง ซึ่งเราต่างก็โอเคทั้งคู่ ตลอดช่วงเวลานี้ผมไม่เคยใช้คำว่าแฟนเป็นคำยึดเหนี่ยวทั้งเค้าและผม แต่ผมกลับรู้สึกดี ที่บางเวลาผมได้มีคนพิเศษคนนึง ที่พร้อมจะรับฟังผมทุกเรื่อง เข้าใจผม และบางเวลา ... ที่ทำให้ผมมีเพื่อนคนนึงที่แสนดี ไปพร้อมๆกัน
เราตัวไม่ค่อยติดกันตลอดเวลาหรอก ต่างกับหลายๆคู่ที่เวลาเรียนอาจจะตัวติดกันตลอด ถึงแม้จะเรียนอยู่คณะเดียวกัน แต่เราก็มีเพื่อนคนละกลุ่ม ผมถือคติที่ว่า เวลาอยู่กับเพื่อน ก็คือให้เราได้อยู่กับเพื่อน ส่วนเวลาอื่นก็เป็นเรื่องของเรา คณะผมเรียนหนักครับ เหนื่อยกับการอ่านหนังสือ แต่ทุกวันนี้ที่ผ่านมันมาได้ ก็คงเพราะมีเราช่วยกันเรียน เที่ยวบ้าง ผ่อนคลายบ้าง สิ่งเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าการเรียนช่างสดใส และพร้อมที่จะสู้ต่อไป
ผมเป็นคนชอบแสดงออกนะครับ ชอบเป็นผู้นำ ทำให้เวลาผมอยู่ต่อหน้าเพื่อนๆ ผมเลยมักที่จะเลือกไม่แสดงออกในลักษณะที่แฟนเค้าทำกัน ผมยังคงความเป็นผู้ใหญ่ มีมาด ซึ่งก็เป็นมาแบบนั้นเสมอมา แต่เธอนี่สิ คนที่ดูขี้ตื้อ ดูเรียกร้องความสนใจ มักจะเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกเสียฟอร์ม รู้สึกจู้จี้ แต่แปลกดีเหมือนกัน ที่ข้างในผมมันแอบยิ้มเขินไปทุกที
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราเรียน อ่าน ติวหนังสือ เที่ยวเล่น ทำกิจกรรมทุกอย่างไปด้วยกัน ผมกับเธอก็เก่งในหลายๆอย่างด้วยกันทั้งคู่ ไม่แปลกเลย ที่เราจะทะเลาะกันบ่อยไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม แต่เมื่อมีคนนึงงอน หรือคนนึงผิด เราก็มักจะมีอีกคนนึงที่คอยง้อ คอยเข้าใจ ช่วยแก้ไข ... เวลาเศร้ามีแหละ แต่ความเศร้านั้น ถ้าผมไม่แก้ เธอก็จะเป็นคนแก้ และถ้าเธอไม่แก้ ผมก็จะเป็นคนที่ทำให้มันหายไปเอง
ผมเติบโตขึ้นมากครับ ไม่ว่าจะนิสัย ความคิด อะไรหลายๆอย่าง จากใจร้อน เป็นใจเย็นขึ้น จากไม่ค่อยเข้าใจอะไรคนอื่น เป็นคนที่เข้าใจอะไรมากขึ้น และเธอนั่นแหละ ที่ทำให้ผมได้เติบโตขึ้น รวมถึงเธอก็กำลังเติบโต เรียนรู้อะไรไปพร้อมๆกันเหมือนกัน ... ถึงแม้ตอนนี้จะเรียนอยู่ อนาคตยังอีกไกล ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าคนๆนี้ จะใช่สำหรับผม และผมใช่สำหรับเธอในอนาคตรึเปล่า ที่ผมคิดเพียงอย่างเดียวก็คือ "วันนี้ดี ... พรุ่งนี้จะดี" สุดท้าย อนาคตก็จะดีเอง ถ้าเราทำทุกอย่างที่ดีต่อไปเรื่อยๆ 'ในทุกๆวัน'
ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลง ไม่แปลกหรอก จีบกันใหม่ๆ คุยกัน 2-3 ชมได้ พอผ่านไป 2 ปี คุยกันทุกวัน วันละ 10-20 นาที รวมถึงความใส่ใจอื่นๆ ความสนใจ ผมหลีกหนีคำว่า 'โปรโมชั่น' ไม่พ้นหรอก อย่างที่ทุกคนว่ากันว่าช่วงแรกนี้แหละโปรโมชั่น แปลกดีนะครับ ทุกวันที่ที่ผมได้คุยกับเธอ วันๆนึงเราต่างชีวิตเหมือนกัน เรียนคณะเดียวกัน อ่านหนังสือเหมือนกัน จะต่างก็แค่เรื่องของกลุ่มเพื่อน วันนึงคุยกัน 10-20 นาทีก็ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากเลย ผมไม่ขอเปรียบเทียบกับช่วงแรกที่คุยกันนานๆว่าทำไมถึงคุยน้อยลงไปเยอะ ... ผมว่ามันไม่เหมือนกันครับ ช่วงแรกเราต่างเรียนรู้กันใหม่ๆ ต่างคนต่างมาเจอ คงไม่แปลกที่เราจะมีเรื่องราวมากมายให้แลกเปลี่ยนกัน แต่ตอนนี้ 2 ปีที่ผ่านมา เธอรู้เรื่องผมทุกอย่าง ผมรู้เรื่องเธอทุกอย่าง สิ่งที่แปลกใหม่ไปแต่ละวัน มันก็แทบไม่ต่างกัน วันนึงกับ 10 นาทีที่คุยกัน เพียงพอสำหรับผมมากมาย ...
แต่เธอไม่ได้คิดแบบผม สัปดาห์ก่อน เธอได้เจอเด็กในค่ายคนนึง แล้วรู้สึกชอบอย่างบอกไม่ถูก เธอบอกผมว่า "เค้าใช่" ใช่ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับผม เธอแอบคุยกับเค้ามาไม่ถึง 10 วัน คุยกันเป็นชั่วโมงๆ แต่ผมก็จับเค้าได้ แปลกดีนะครับที่อยู่ดีๆผมก็รู้ได้จากน้ำเสียงผ่านสายโทรศัพท์ จากความรู้สึกลึกๆในใจ คงเป็นเพราะความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ตลอด 2 ปี มันกำลังจะหายไปละมั้ง
ผมรู้สึกแย่มากครับ ผมเคยเป็นคนม่อๆมาก่อน มองคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย แต่ถึงวันนึงที่เธอบอกว่าไม่ชอบ ไม่พอใจ หลังจากนั้นผมหยุดที่จะคุยกับคนอื่นครับ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนอื่นที่เข้ามา อาจจะใช่มากกว่าเธอก็ได้ แต่ผมว่าผมพอแล้วล่ะครับ ทุกอย่างที่อยู่กับเธอตรงนี้ คงไม่บอกได้เต็มปากหรอกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ผมกล้าบอกได้เลยว่า "เรากำลังเติบโตไปด้วยกัน เพื่อเป็นที่สุด"
ผมบอกให้เธอตัดสินใจครับ ว่าเธอจะเลือกผม หรือเลือกเค้าที่เพิ่งเจอกันในค่าย และคุยกันมาไม่ถึง 10 วัน เธอเศร้า ผมเศร้า เธอบอกให้ผมรอ รอที่เธอจะค่อยๆหาโอกาสบอกเลิกกับเค้าคนนั้น แต่ผมรอไม่ได้หรอก ยิ่งผมรอ ยิ่งรู้สึกแย่ ผมถามเธอว่า "ระหว่างที่ผมรอคุนบอกเลิกกับเค้า เพราะคุนกลัวเค้าเสียใจ ผมนี่แหละ ที่ยิ่งเสียใจมากกว่าเค้า"
เธอบอกให้ผมรอครับ เธอบอกว่าเธอเลือกผม แต่เธอก็ขอเวลา ที่จะบอกเลิก เลิกคุยกับเค้าคนนั้น เพราะเธอไม่อยากแตกหักกับเค้าคนนั้น ... เธอเลือกที่จะห่วงความรู้สึกของเค้า มากกว่าความรู้สึกผม ผมขอให้เธอบอกเลิกคุยกับคนที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 10 วัน แล้วหยุดทุกอย่าง แต่เธอทำให้ผมไม่ได้ ...
ผมเชื่อนะ ว่าทุกคนต่างมีคนที่ใช่สำหรับตัวเองแหละ เราคงไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ได้แน่หรอกว่าใครใช่ ... ที่ผมคิด คนนี้แหละใช่ แต่คง ไม่ใช่ที่สุด ... การเราชอบใคร รักใคร ทุกครั้งมักเกิดจากคำว่า 'ใช่' แหละ ไม่มากก็น้อยความรู้สึกก็ยังบอกผมแบบนั้น แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ "ใช่ ที่สุด" แต่สิ่งนั้น มันคงเกิดจากการที่เราเติบโต ช่วยกันสร้างคำว่า 'ที่สุด' มากกว่า ... มากกว่าการที่จะเจอว่าเค้าที่สุดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ผมรักเธอมากครับ กว่าจะมารู้สึกยิ่งกว่าเดิมก็เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น บางทีมันอาจสายไปแล้ว เธอให้คำตอบผมมาแล้ว และนั่นทำให้ผมบอกเลิกเธอ ... แต่ในใจผมกลับว้าวุ่น เหมือนกำลังรอให้เธอกลับมา รอให้เธอเดินมาหาที่สุดท้าย ที่เราได้จบทุกอย่างลงไว้เมื่อวาน ตอนนี้ผมกำลังพิมอยู่นี้ ผมก็อยู่ที่ตรงนี้แหละครับ เพียงแต่ผมกำลังจะออกจากที่แห่งนี้ไปแล้ว ... โดยที่เธออาจจะรู้ หรือไม่รู้ แต่ที่ผมรู้คือ
ที่แห่งนี้ ตอนที่ผมกำลังก้าวออกไป ... ผมอยู่คนเดียว
เสียใจที่เมื่อก่อนผมอาจไม่ได้ใส่เธอมากพอก็ได้ แต่ตอนนี้ ... จะกลับไปแก้ไขอดีต ก็ไม่ทันแล้ว