“อรรถพล ใหญ่สว่าง” อสส.เผย สั่งฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ระบุพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ไม่มีการเมืองกดดัน ด้านโฆษกอัยการ ยันไม่โต้แย้งอำนาจ ป.ป.ช.รับไต่สวนคดีสั่งสลายม็อบ นปช.ปี 53 ชี้ไม่กระทบคดีอาญาที่ อสส.สั่งฟ้องส่วนประเด็นมีอำนาจฟ้องหรือไม่ สุดท้ายศาลจะวินิจฉัยเอง
วันนี้ (31 ต.ค.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด กล่าวถึงการพิจารณาสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คดีวิสามัญฆาตกรรม
ข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ว่า
ได้พิจารณาอย่างรอบคอบตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่การสั่งคดีตามกระแสบ้านเมือง เพราะตนไม่ใช่นักการเมือง โดยรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ให้อิสระอัยการในการสั่งคดี และมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย พยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ปรากฏตามสำนวนโดยไม่มีอะไรกดดัน ขณะที่การสั่งคดีก็ได้ให้ความเป็นธรรม และกระทำด้วยความรอบคอบแล้ว คือ พิจารณาและมีความเห็นสั่งฟ้องว่า เป็นการกระทำกรรมเดียวเพราะการออกคำสั่งเป็นการออกครั้งเดียว แต่ครอบคลุมถึงการเสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย มิใช่เป็นการกระทำหลายกรรม ตามความเห็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
“การสั่งคดีของอัยการไม่มีอะไรที่เป็นความเสี่ยง ขออย่างเดียวให้ยึดความถูกต้อง ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ก็จะเป็นเกราะคุ้มครองพวกเราในการทำงานทั้งสิ้น เราต้องอย่างเอียงข้าง เปรียบเสมือนยืนอยู่บนสันเหรียญที่ตั้งตรง ถ้าเป็นกลางก็ไม่มีวันที่จะหล่นแน่นอน และหากผมไม่เป็นกลาง
สุดท้ายความจริงก็ย่อมจะปรากฏให้เห็น และไม่หนักใจการสั่งคดีต่างๆ ในอนาคตด้วย” อัยการสูงสุดกล่าว
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136081
น่าจะแยกเป็นรายคดีหน่อยมั้ยครัช มาร์ค เทือก เค้าพร้อมสู้ทุกคดีอยู่แล้ว
อัยการสูงสุดยันสั่งฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” คดีสลายม็อบ นปช.เหมาะสมแล้ว
“อรรถพล ใหญ่สว่าง” อสส.เผย สั่งฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ระบุพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ไม่มีการเมืองกดดัน ด้านโฆษกอัยการ ยันไม่โต้แย้งอำนาจ ป.ป.ช.รับไต่สวนคดีสั่งสลายม็อบ นปช.ปี 53 ชี้ไม่กระทบคดีอาญาที่ อสส.สั่งฟ้องส่วนประเด็นมีอำนาจฟ้องหรือไม่ สุดท้ายศาลจะวินิจฉัยเอง
วันนี้ (31 ต.ค.) นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุด กล่าวถึงการพิจารณาสั่งฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คดีวิสามัญฆาตกรรม ข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ว่า ได้พิจารณาอย่างรอบคอบตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่การสั่งคดีตามกระแสบ้านเมือง เพราะตนไม่ใช่นักการเมือง โดยรัฐธรรมนูญปี 2550 ก็ให้อิสระอัยการในการสั่งคดี และมั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย พยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ปรากฏตามสำนวนโดยไม่มีอะไรกดดัน ขณะที่การสั่งคดีก็ได้ให้ความเป็นธรรม และกระทำด้วยความรอบคอบแล้ว คือ พิจารณาและมีความเห็นสั่งฟ้องว่า เป็นการกระทำกรรมเดียวเพราะการออกคำสั่งเป็นการออกครั้งเดียว แต่ครอบคลุมถึงการเสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย มิใช่เป็นการกระทำหลายกรรม ตามความเห็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
“การสั่งคดีของอัยการไม่มีอะไรที่เป็นความเสี่ยง ขออย่างเดียวให้ยึดความถูกต้อง ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ก็จะเป็นเกราะคุ้มครองพวกเราในการทำงานทั้งสิ้น เราต้องอย่างเอียงข้าง เปรียบเสมือนยืนอยู่บนสันเหรียญที่ตั้งตรง ถ้าเป็นกลางก็ไม่มีวันที่จะหล่นแน่นอน และหากผมไม่เป็นกลาง สุดท้ายความจริงก็ย่อมจะปรากฏให้เห็น และไม่หนักใจการสั่งคดีต่างๆ ในอนาคตด้วย” อัยการสูงสุดกล่าว
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136081
น่าจะแยกเป็นรายคดีหน่อยมั้ยครัช มาร์ค เทือก เค้าพร้อมสู้ทุกคดีอยู่แล้ว