/////////// มายืนยัน คำสอนของพระพุทธเจ้า ครับ ////////////

ขออนุญาติเล่านะครับ

เริ่มศึกษา

ตัวผมเองเริ่มศึกษาพุทธศาสนามาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นศึกษาแบบ
ไม่เข้าใจอะไรมากนัก จำหนังสือเล่มแรกเป็นต้นเหตุแห่งความศรัทธาในปัญญา
ของพระพุทธเจ้า คือ ไอสไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น หลังจากนั้นเริ่มฟังธรรมะมา
เรื่อย ช่วงวันหยุดก็ไปปฎิบัติธรรม อยู่ตลอด จะสนใจแต่เรื่อง ปาฎิหารย์ต่างๆ
อยากจะเห็นนรก สวรรค์ เทวดา ปฎิบัติธรรมก็หวังจะบรรลุให้ได้ในวันนี้เลย
แต่หลังจากนั้นก็เว้นช่วงไปเป็นปี เป็นช่วงที่ต้องวุ่นวายไปกับงาน และเรื่อง
ทางโลก ไม่มีเวลาได้ปฎิบัติ จะมีก็แต่ฟังธรรมะอยู่เป็นประจำ


ทุกข์เกิด

แต่ช่วงหลังมานี้ปัญหาในชีวิตเข้ามาหนักเหลือเกิน ปัญหาเข้ามาจากทุกทาง
ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเหมือนคนไม่มีแรง หมดหวังทุกอย่าง จึงได้เข้ามาศึกษา
พระพุทธศาสนาอีกครั้ง แต่คราวนี้เป้าหมายคืออยากให้ทุกข์ที่อยู่ในใจมันลด
ลงไปบ้าง


อานาปนสติ

ผมเปิดยูทูป ไปที่ อานาปนสติ ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส ในพุทธวจน ผมปฎิบัติ
โดยการรู้ลมหายใจ เข้า- ออก ไม่ได้บริการคำใด เพียงแต่มีความรู้สึกว่า
ลมเข้าออกแค่นั้น ใช้ความพยายามมากให้อยู่กับลมตลอด ไม่ให้จิตเคลื่อนไป
แต่กลับเห็นจิต มีเรื่องราวผุดขึ้นมาทั้งที่เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับสิ่งที่ทำอยู่ใน
ปัจจุบันเลย ผมรู้ลมไปได้2 วัน แต่ 2 วันนี้ผมพยายามทำความรู้สึกทั้งวัน
ทุกขณะที่ผมเดินหรือทำสิ่งต่างๆ ระหว่างนี้ผมไม่ได้นั่งสมาธิเลย ก็เฝ้าดูไป


จิตเลว

วันนั้นตอนเย็น ผมไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ ก็พยายามรู้ลมตลอดไม่ให้จิตเคลื่อน
ไป แต่ผมกลับมองไปเห็นเด็กผู้หญิงคนนึง อายุ 6-7 ขวบได้ จิตมันคิดอยาก
มีอะไรกับเด็กคนนั้น ผมพยายามดึงกลับมาที่ลม แต่ซักพัก จิตมันคิดต่อไป
และตอนนั้นเอง จิตมันก็รู้เข้าใจถึง ความที่มันบังคับไม่ได้ เปลี่ยนไปเป็นอนิจจัง
มันไม่เป็นตัวเรา จิตผมเห็นสิ่งนี้สิ่งเดียว คือ อนิจจัง หลังจากนั้นจิตมัน วาง
ตอนมีทุกข์เข้ามาที่เป็นทุกข์ธรรมดา จิตมันวางเอง แต่ถ้าเป็นทุกข์หนัก จิตมัน
ยังกระเพื่อม แต่ไม่นานมันวางเอง


มั่นคงในพระพุทธเจ้า

ตัวผมเองเชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างสุดใจ และเป็นที่พึ่งของผม
เพียงสิ่งเดียว ไม่พึ่งอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นตอนดวงตก เมื่อก่อน ผมก็จะไป
รดน้ำมนต์ ขอสิ่งศักศิทธิ์ หรือทำอะไรที่เค้าชอบทำกันเวลาดวงไม่ดี
เอาตาลปัตรไปถวายพระ หวังให้ชีวิต กลับตาลปัตรให้เป็นดี ก็ทำมาแล้วทั้งนั้น
ซึ่งหลังจากนั้นมันไม่ทำเลย เป็นไปอัตโนมัตินะครับ ผมไม่ได้บังคับความคิด
และเห็นคนรอบข้างทำอย่างนั้น ก็มีความคิดแต่ว่า เมื่อก่อนเราก็โง่ไปทำอย่าง
นั้น แต่ไม่ได้ตำหนิเค้านะครับ คิดว่าเมื่อก่อนเราหลงไปทำ ถ้าไม่มีธรรมะของ
พระพุทธเจ้า เราไม่สามารถหลุดมาจากสิ่งนั้นมาได้เลย เพราะมันเป็นสิ่งที่ผม
สนใจตั้งแต่เด็กเรื่อง ไสยศาสตร์ และพิธีกรรมต่างๆ


รอบตัวมีแต่ทุกข์

ทุกข์ที่เกิดขึ้นที่มากระทบใจ ถ้ามันไม่แรงจริง มันรู้สึกว่ามันเกิดขึ้น แต่จิตมัน
วางเอง ส่วนทุกข์หนักที่มากระทบใจ มันรู้สึกหวั่นไหวแต่ก็ไม่นาน ต่างจาก
เมื่อก่อน คืนทั้งคืนอาจจะนอนไม่หลับเลยก็ได้
ผมเห็นคนรอบตัวเป็นทุกข์กับสิ่งสารพัด ทุกข์เล็ก ทุกข์น้อย กังวลไปเรื่องราว
ที่มันไม่เห็นน่าจะทุกข์ แต่ถ้ามองย้อนไปเรื่องนั้นผมก็เคยหลงไปทุกข์กับมัน
บางครั้งทุกข์ของคนอื่นก็เอามาเป็นทุกข์ ของตนเอง
คนรอบข้างมักถามผมว่า ผมไม่ทุกบ้างหรอ ผมก็ได้แต่บอกเค้าว่า"ทุกข์ทำไม"


คนธรรมดา

ผมเองไม่ได้มีความรู้ อะไรมากมาย ศึกษาพุทธสาสนามาไม่มาก คำศัพท์บาลี
หรือการสวดมนต์ แม้แต่บทพาหุง ก็ยังท่องไม่จบ แต่ผมอยากจะบอกว่า
ธรรมะของพระพุทธเจ้า อัศจรรย์ สามารถทำมนุษย์ปุถุชนที่หนาไปด้วยกิเลส
สิ่งรอบตัวธรรมดาไปด้วยทุกข์ ได้พ้นจากทุกข์ได้แม้ยังไม่ทั้งหมด และยังมี
กิเลสอยู่ทุกตัว รัก โลภ โกรธ หลง รู้ว่ายังมีอยู่ในจิต แต่ทุกครั้งที่มันโผล่มา
สติจะตามไปรู้และดับมันลงไปได้เร็ว ส่วนความสุข ก็ไม่ได้สุขกับมันเหมือน
แต่ก่อน เหมือนจิตมันรู้ว่า เดี๋ยวสุขมันจะปวนแปรไป และดับไปเอง

นาทีที่เข้าถึงธรรม มันเป็นนาทีที่ธรรมดาทั่วไป ทุกคนรอบตัว ก็เป็นธรรมดา
ไม่ได้นั่งสมาธิเข้าฌาน ไม่มีฟ้าร้อง ไม่มีแผ่นดินสั่นสะเทือนใดๆ เป็นเพียง
การเข้าถึงธรรมะของจิตดวงหนึ่งเท่านั้น



สิ่งที่อยากบอกกับนักปฎิบัติที่มุ่งถึงพระนิพพาน ว่า เราพยายามเรียนรู้ธรรมะ
ให้มาก แต่ตอนที่ปฎิบัติ ขอแค่ตั้งใจพิจารณาเพียงแค่ตัวเดียว ทำอย่างจริงจัง
ในกฎไตรลักษณ์ ถ้าเห็นแจ้งตัวเดียว ก็จะเห็นธรรมะของพระองค์ทั้งหมด
เหมือนในครั้งพุทธกาลพระพุทธเจ้าแสดงธรรมเพียงประโยคเดียว ก็สามารถ
บรรลุธรรมได้ ซึ่งเมื่อก่อนผมยังรู้สึกแคลงใจ แต่ตอนนี้กลับเห็นว่าเป็นจริง
ตามนั้น ไม่แปลกเลย ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ฆราวาสอย่างเรา ท่านก็
สามารถ เข้าถึงธรรมได้ ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว ท้าให้เรามา พิสูจน์ดูเถิด

ผมเชื่อว่าผู้ปฎิบัติทุกคนล้วนมีบุญบารมีมากที่จะบรรลุธรรม ชาตินี้ที่เราเกิดมา
อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะพ้นจากทุกข์ จากการเกิดการที่เราได้เป็นมนุษย์
มีสุข ทุกข์ที่เห็นได้ตลอด และธรรมะของพระพุทธองค์ก็ยังดำรงอยู่ครบ ผลของ
การปฏิบัตินั้นมันคุ้มเหลือเกิน เราไม่อาจรู้วันตายได้ อาจเป็นเดือนนี้ วันนี้
ชั่วโมงนี้ หรือนาทีนี้ก็ได้ อย่าปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปเลย .................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่