ปรึกษา--->อาการคุณพ่อเป็นแบบนี้ ต้องไปพบจิตแพทย์หรือเปล่า

อยากขอความเห็นจากหลายๆท่านก่อนการตัดสินใจ เนื่องจากได้ลองพูดคุยปรึกษากับคุณแม่แล้วเห็นว่า น่าจะ..พาไปพบจิตแพทย์ค่ะแต่ก็เป็นความคิดเห็นกันเพียงสองคน เลยอยากจะขอความคิดเห็นจาก เพื่อนๆ พี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ ฯลฯ อีกทางหนึ่งว่าแต่ละท่านคิดเหมือนเรากับแม่รึเปล่า หรือเป็นอาการของโรคชนิดอื่นมั้ย

      คือ...คุณพ่อเป็นข้าราชการเกษียณค่ะ เกษียณมาได้ 3 ปี ปัจจุบันอายุ 63 ปี ช่วงต้นตอนเกษียณใหม่ๆ ปกติดีค่ะ มีความสุข อยู่บ้านแต่งรถ (คุณพ่อชอบเล่นรถโบราณ) ส่องพระ อะไรไป   คือ เรา(ขอแทนตัวเองว่าเราน่ะค่ะ) เป็นคนอยู่ติดบ้านไม่ค่อยชอบไปไหน ไม่เที่ยว คุณพ่อคุณแม่ทราบดีค่ะ  ทำธุรกิจก็อยู่ที่บ้าน  ส่วนคุณแม่มีหน้าที่ทำกับข้าว แม่ชอบทำค่ะ แล้วก็งานบ้านเล็กๆน้อยๆ  ชีวิตสามคน พ่อ แม่ ลูก Happy มากกก
         

           จนกระทั่ง มีอยู่วันนึงตอนเช้าคุณพ่อเข้ามาปลุกเราให้ตื่นนอน ตอน 7.00 โมง (ปกติตื่นสายค่ะ 8 โมงทุกวัน แต่ก็ปกติน่ะเพราะพ่อแม่เค้าจะรู้ว่าทำงานดึก พ่อเป็นคนบอกให้ตื่นสายกว่านี้ด้วยซ้ำ ) แต่ไม่ค่ะยังไม่พ่อ คุณพ่อโกรธกับการตื่นสายของเรามากกก บ่นกับแม่ แล้วก็บ่นทั้งวัน  เราก็แบบว่าเฮ้ยเกิดอะไรขึ้น และหลังจากนั้นก็มีหน้าที่มาปลุกเราจากที่นอนและเป็นแบบนี้ทุกวันเรื่อยมา

            หลังจากนั้นค่ะ อาการอีกหลายอย่างก็ตามมาเช่น  เวลาพ่อให้ใครทำอะไรต้องทำเดี๋ยวนั้น ลุกทันที ห้ามมีข้อแม้ (หรืออาจเป็นเพราะคุณพ่อเป็นตำรวจเก่า พยายามคิดในแง่ดี  ) ถ้าใครไม่ทำตามคุณพ่อก็จะพูดจนกว่าจะทำ แล้วก็จะบอกว่า ปวดหัวแล้ว หัวจะระเบิด ถ้ามีคนขัดใจ

            อาหารที่แม้ทำให้ทานก็บ่นว่าไม่อร่อย ลุกขึ้นมาถูบ้านตอน ห้าทุ่ม วันนั้นเราลงมาเจอกำลังถูบ้าน เราแบบว่า เฮ้ย.. ทำไงดีเนี่ย พ่อแลเป็นหนัก

            เวลางอนคนในบ้านแบบ ไม่มีใครทำอะไรน่ะ ทุกคนปกติ ไม่ได้ทะเลาะ แต่อยู่ดีๆ พ่อจะงอนแล้วไม่พูดกับใครเลยค่ะ เป็นวันๆ

             แล้วก็มีอาการ เข้าห้องน้ำแล้วลืมปิดก็อกน้ำล้างมือ ล้างเสร็จเดินออกมาเฉยๆ  เราต้องตามเข้าไปปิด  ไฟก็ไม่ปิด พอบอกว่าลืมปิดก็อกน้ำน่ะป๊า ก็จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บอกว่าห้ามพูดรู้แล้ว เอ่อ..แค่เตือนเรื่องก็อกน้ำเอง

            แต่อาการที่ชัดเจนคือขี้โมโห หงุดหงิดง่าย เอาแต่ใจตัวเองมาก คุณแม่เคยเรียกมาถามค่ะเรียกมาพูดคุย แม่กับโดนซะงั้น ที่บ้านไม่มีใครกล้าว่าแล้วค่ะ ทำไงดีค่ะ  อาการแบบนี้ต้องพาคุณพ่อไปพบจิตแพทย์มั้ยหรือเป็นอาการแสดงของโรคอะไรร้ายแรงรึเปล่า

             และถ้าคุณพ่อต้องพบจิตแพทย์จริงๆ มีวิธีไหนที่แบบไม่ทำให้คุณพ่อรู้มั้ยค่ะ กลัวว่าเค้าจะไม่ยอมไป

            เขียนยาวมากขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านและให้คำปรึกษาน่ะค่ะ