เราแต่งงานได้ ปีกว่าๆแล้วค่ะ ซื้อบ้านแยกต่างหากออกมาอยู่กัน 2 คน ยังไม่มีลูกค่ะ เรารักกันเมื่อ 7ปีก่อน สามีเป้นคนไม่มีอะไรเรย ครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย แต่เราก้รักเค้าตรงที่เค้าเป็นตัวเค้า เราก้เลือกเค้าเพราะเค้าไม่ใช่คนรวยแต่เค้าเป้นคนดี พอแต่งงานมาเนื่องจากเค้าเป้นคนเก่ง+เฮง หน้าที่การงานก้าวขึ้นอย่างเร็วมาก อายุ30 ได้เงินเดือนหลักแสน แต่สามีต้องจุนเจือครอบครัวเค้า ส่งน้องเรียนเอกชนเทอมละ 5หมื่น ซื้อรถให้พ่อแม่ ให้เงินใช้ รักษาผ่าตัดตอนป่วย ซึ่งเราก้คิดว่าเป้นส่วนที่ดี ที่ควรจะกตัญญู ส่วนเราที่บ้านมีธุรกิจเรามีเงินเดือนและปันผลจากธุรกิจครอบครัว จึงไม่ต้องแบมือขอเงินสามีค่ะ
ประเด็นเรื่องรถยนต์ --ขออนุญาติเล่าเท้าความก่อนหน้าแต่งงาน เราตัดสินใจซื้อรถร่วมกัน (คันแรก) เมื่อ 4ปีก่อน (ตอนนั้นเรายังไม่ได้มาช่วยธุรกิจที่บ้านเราทำงานบ.เอกชน) เรา2คนเก็นเงินเอาไปดาวน์รถคนละครึ่ง และก้ช่วยกันผ่อนคนละครึ่ง เรามีความสุขมากกะรถคันแรกที่เราได้ใช้ด้วยกัน มันเป้นรถยนต์ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเรา2คน พ่อและแม่ของว่าที่สามี (ในตอนนั้น)ใช้รถยุโรปเก่าๆ ซึ่งเสียบ่อยมาก เวลาซ่อมก้ต้องมาเอาเงินจากสมีเราไปซ่อมรถครั้งละ 2หมื่น สมีเราบอกไม่ไหว ขอร้องให้เค้าเปลี่ยนรถ จึงไปหารถมือสองมาให้ ทางพ่อแม่ก้ไม่เอา บอกว่า รถเก่าไม่ชอบอยากได้รถใหม่ ยังไงก้ไม่เอา ทางสมีจึงมาขอร้องเราว่า ให้เราเอารถใหม่ที่เราซื้อมา(โดยที่เงินเราอยู่ในรถใหม่ด้วย) ให้พ่อกะแม่ไปใช้ก่อน แล้วเรา2คนเอารถคันเก่ามาใช้ ทีแรกเราไม่ยอม แต่สงสารสมีถ้าเราไม่ยอมเอารถเก่ามาใช้สมีก้ต้องจ่ายค่าซ่อมรถยุโรปไปเรื่อยๆซึ่งแพงมาก เราจึงตัดใจยอมเค้าให้เค้าไป เค้าก้เอารถคันใหม่ของเราที่ซื้อกะสมีไปใช้อย่างสบายใจ ส่วนเราก้สมีก้เอารถเก่ามาใช้ซ่อมไป ติดแก๊ส ทำปรกันไปก้ใช้เงินคู่ พอใช้ไประยะนึง น้องชายเค้าขับรถคันใหม่เราไปชนท้ายมา เราก้ไม่ได้ว่าอะไร เอามาให้เราไปซ่อม ให้เราจ่ายค่าแอคเซปอีก พอใช้ไปพักนึง แม่เค้าบอกว่า รถคันใหม่นี่มันนั่งแล้วปวดหลังจังเรย กระดูกทรุด ขอเปลี่ยนเอารถอีกคันได้มั๊ย สมีก้มาบอกเรา เราเริ้มหงุดหงิดละนะ พอเราเอารถไปทำขัดสี ติดแก๊สมาอย่างดีก้จะมาเอาไป แล้วเอารถใหม่ที่ชนมาคืนหรอ สมีบอกว่า ให้ไปเถอะ เราเอารถเรากลับมาไม่ดีหรือไง ถ้าเบื่อก้จะขายแล้วซื้อคันใหม่ใหญ่ๆให้จะจ่ายให้หมดเรยเราไม่ตั้องออกเงินแล้ว ถือว่าเป็นการชดเชยให้เราส่วนที่เราเสียไป เราสงสารสมี เค้าคงรักพ่อแม่เค้ามาก เราเรยให้ไป ก้มหน้าก้มตาซ้อมรถที่น้องชายขับไปชนมาแล้วเอามาใช้ต่อไป
ประเด็นเรื่องบ้าน--บ้านที่เราอยู่เป้นบ้านแฝดอยู่กัน2คน มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก (เล็กมาก)1ห้อง ห้องแต่งตัว buildin 1ห้อง ห้องนอนใหญ่มีแอร์ ที่นอน5+3ฟุต ทำเผื่อมีลูก นอนสบายมาก มีเครื่องฟอกอากาศ เป็นเฟอร์บิวอินอย่างที่เราชอบ บ้านสวยเหมือนรีสอร์ทค่ะ อยู่แล้วมีความสุขมาก เวลาเราอยู่กันสองคน นี่หละคือชีวิตที่เราต้องการในบ้านหลังน้อย พ่อกะแม่เค้าก้มาเยี่ยม มาค้างบ้างแรกๆก้ไม่บ่อยค่ะ เราก้พอทนได้ แต่เวลามาแต่ละครั้ง สมีจะให้กุญแจบ้านไว้กะพ่อแม่ ซึ่งเค้าจะมาเมื่อไหร่ก้ได้ ไม่มีการบอกกล่าวเรา บอกแต่สมี สมีก้ไม่ได้บอกเราไว้ บางครั้งเรายังนอนอยู่ก้ไขประตูเข้ามากดสัญญานกันขโมย เราตกใจมากแต่ก้ไม่ได้ว่าไร ทุกครั้งที่เค้ามานอนค้างจะมากันพ่อแม่น้อง คนใช้ พ่อแม่น้องจะมานอนห้องนอนเรากะสมี บนที่นอน ซึ่งแรกๆเราไม่ได้ว่า ก้นอนเบียดๆกันไป 4-5 คน แต่เราอึดอัดมาก นอนไม่หลับเพราะเบียด เราก้บอกสมีว่าเรานอนไม่ได้เพราะสมีเบียด สมีก้ย้ายลงไปนอนพื้นให้เรานอนบนที่นอนกะพ่อแม่เค้า เค้ามาทีไรก้จะมานอนที่นอนเรา มาแต่งตัวห้องเรา มาใช้ชีวิตเสมอเป็นเจ้าของบ้าน เราไม่ว่าไรเพราะคือพ่อแม่ผัว พักหลังช่วงวันหยุดยาวที่สมีไม่อยู่ (ต้องไปทำงานช่วงสงกรานต์ปีใหม่) พี่แม่น้องเค้าจะมานอนที่บ้านเราประจำทีละนานๆๆ แล้วเราก้จะย้ายไปนอนที่บ้านพ่อแม่เรา เรารู้สึกอึดอัดเพราะสมีไม่ถามเราสักคำว่าได้มั๊ย ไม่มีความเกรงใจเรยสักนิด ทั้งที่เป้นห้องส่วนตัวของเรา ล่าสุด มาพักกัน 1อาทิตย์ มาถึงก้เอ่ยปากว่า ให้เราไปนอนบ้านพ่อแม่เรา เพราะเค้าเป้นหวัด เราก้ย้ายไป ไม่ว่าไร ยังไม่ทันเก้บของใช้ส่วนตัวอะไรทั้งนั้นก้ไล่กลับ ทั้งที่ที่นั่นบ้านเรากะสมี อยู่กัน 1 อาทิตย์ วันพฤ เราจะกลับเข้าบ้านไปทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปู สมีบอกไม่ต้องเดี่ยวเค้าจะมากันอีกศุกร-อาทิต เราเริ้มโมโหละ นี่มันอะไรกันนี่ นี่บ้านฉันนะ นั้นก้ห้องฉัน ของฉัน หมอน ที่นอน ผ้าห่ม ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง มาแบบไม่ถามความเห็น นิดหน่อยไม่ว่า นี่มันจะเยอะไปแล้ว เราเรยตัดสินใจพูดกะแฟนไปตรงๆว่า ห้องเล็กเราติดแอร์แล้วซื้อที่นอนมาให้พ่อกะแม่เวลามาเที่ยวบ้านเราเค้าจะได้มีความเป้นส่วนตัวดีมั๊ย สามึตอบว่า เพื่ออะไร เราก้บอกเค้าไปอีกว่า เรารู้สึกไม่เป็นส่วนตัว เราถูกเลี้ยงมาแบบมีห้องนอนส่วนตัว พ่อกะแม่ไม่เคยแม้แต่วุ้นวายในห้องเราและของเราเรย เราพูดกะสมีตรงๆว่าเรารู้สึกว่าไม่ส่วนตัว สามีพูดกลับมาคำนึงว่า "มันเรื่องของเธอ" เราเสียใจมากที่ได้ยินคำนั้น เสียใจที่สุด เราไม่เข้าใจจิงๆว่า เค้าคิดว่าบ้านนั้นเป้นบ้านของเค้า ทุกอย่างเป็นของเค้าคนเดียว ไม่คิดว่าต้องแชร์ควาาสุขความทุกข์กันเรย ณ.วันนี้เราตัดสินใจจะไปย้ายของใช้ส่วนตัวออกจากบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะไปต่างประเทศ เราคิดว่าพ่อแม่เค้าคงต้องมาค้างอีกแน่ เราไม่ทำไรที่รุนแรง แต่เรารู้สึกว่าเค้าข้ามเส้นมากเกินไป สมีคงจะรักพ่อกะแม่มากเกินไป จนไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคู่ ไม่แคร์ความรู้สึกของเรา แต่เรายังโชคดีที่มีบ้านพ่อแม่ เราขอหลบพักมาอยู่บ้านนี้ให้สบายไป ไปเที่ยวต่างประเทศสักพัก
อันที่จิงเราไม่ได้หวงบ้านหรือไรเรยนะค่ะ ถ้ามาค้างหรือจะมาอยู่ แต่ต้องอยู่ในที่ของแขกนะค่ะ แต่เค้ากลับมาอยู่ในที่ของเราแล้วไล่เราออกจากบ้านไป อันนี้มันเกินไปมั๊ยค่ะ เราควรจะทำยังไง จากที่เราไม่มีอะไรกะพ่อแม่เค้า พอเกิดเหตุการ์ณนี้เริมมีอคติแล้วค่ะ เวลามาปั้นหน้าไม่ถูกเฟคหน้าไม่เป็นค่ะ เป็นคนตรงๆ ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเรย อยากออกมาให้พ้นๆ
ถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวจากครอบครัวสามีค่ะ ควรทำไงดีค่ะ
ประเด็นเรื่องรถยนต์ --ขออนุญาติเล่าเท้าความก่อนหน้าแต่งงาน เราตัดสินใจซื้อรถร่วมกัน (คันแรก) เมื่อ 4ปีก่อน (ตอนนั้นเรายังไม่ได้มาช่วยธุรกิจที่บ้านเราทำงานบ.เอกชน) เรา2คนเก็นเงินเอาไปดาวน์รถคนละครึ่ง และก้ช่วยกันผ่อนคนละครึ่ง เรามีความสุขมากกะรถคันแรกที่เราได้ใช้ด้วยกัน มันเป้นรถยนต์ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของเรา2คน พ่อและแม่ของว่าที่สามี (ในตอนนั้น)ใช้รถยุโรปเก่าๆ ซึ่งเสียบ่อยมาก เวลาซ่อมก้ต้องมาเอาเงินจากสมีเราไปซ่อมรถครั้งละ 2หมื่น สมีเราบอกไม่ไหว ขอร้องให้เค้าเปลี่ยนรถ จึงไปหารถมือสองมาให้ ทางพ่อแม่ก้ไม่เอา บอกว่า รถเก่าไม่ชอบอยากได้รถใหม่ ยังไงก้ไม่เอา ทางสมีจึงมาขอร้องเราว่า ให้เราเอารถใหม่ที่เราซื้อมา(โดยที่เงินเราอยู่ในรถใหม่ด้วย) ให้พ่อกะแม่ไปใช้ก่อน แล้วเรา2คนเอารถคันเก่ามาใช้ ทีแรกเราไม่ยอม แต่สงสารสมีถ้าเราไม่ยอมเอารถเก่ามาใช้สมีก้ต้องจ่ายค่าซ่อมรถยุโรปไปเรื่อยๆซึ่งแพงมาก เราจึงตัดใจยอมเค้าให้เค้าไป เค้าก้เอารถคันใหม่ของเราที่ซื้อกะสมีไปใช้อย่างสบายใจ ส่วนเราก้สมีก้เอารถเก่ามาใช้ซ่อมไป ติดแก๊ส ทำปรกันไปก้ใช้เงินคู่ พอใช้ไประยะนึง น้องชายเค้าขับรถคันใหม่เราไปชนท้ายมา เราก้ไม่ได้ว่าอะไร เอามาให้เราไปซ่อม ให้เราจ่ายค่าแอคเซปอีก พอใช้ไปพักนึง แม่เค้าบอกว่า รถคันใหม่นี่มันนั่งแล้วปวดหลังจังเรย กระดูกทรุด ขอเปลี่ยนเอารถอีกคันได้มั๊ย สมีก้มาบอกเรา เราเริ้มหงุดหงิดละนะ พอเราเอารถไปทำขัดสี ติดแก๊สมาอย่างดีก้จะมาเอาไป แล้วเอารถใหม่ที่ชนมาคืนหรอ สมีบอกว่า ให้ไปเถอะ เราเอารถเรากลับมาไม่ดีหรือไง ถ้าเบื่อก้จะขายแล้วซื้อคันใหม่ใหญ่ๆให้จะจ่ายให้หมดเรยเราไม่ตั้องออกเงินแล้ว ถือว่าเป็นการชดเชยให้เราส่วนที่เราเสียไป เราสงสารสมี เค้าคงรักพ่อแม่เค้ามาก เราเรยให้ไป ก้มหน้าก้มตาซ้อมรถที่น้องชายขับไปชนมาแล้วเอามาใช้ต่อไป
ประเด็นเรื่องบ้าน--บ้านที่เราอยู่เป้นบ้านแฝดอยู่กัน2คน มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง ห้องนอนเล็ก (เล็กมาก)1ห้อง ห้องแต่งตัว buildin 1ห้อง ห้องนอนใหญ่มีแอร์ ที่นอน5+3ฟุต ทำเผื่อมีลูก นอนสบายมาก มีเครื่องฟอกอากาศ เป็นเฟอร์บิวอินอย่างที่เราชอบ บ้านสวยเหมือนรีสอร์ทค่ะ อยู่แล้วมีความสุขมาก เวลาเราอยู่กันสองคน นี่หละคือชีวิตที่เราต้องการในบ้านหลังน้อย พ่อกะแม่เค้าก้มาเยี่ยม มาค้างบ้างแรกๆก้ไม่บ่อยค่ะ เราก้พอทนได้ แต่เวลามาแต่ละครั้ง สมีจะให้กุญแจบ้านไว้กะพ่อแม่ ซึ่งเค้าจะมาเมื่อไหร่ก้ได้ ไม่มีการบอกกล่าวเรา บอกแต่สมี สมีก้ไม่ได้บอกเราไว้ บางครั้งเรายังนอนอยู่ก้ไขประตูเข้ามากดสัญญานกันขโมย เราตกใจมากแต่ก้ไม่ได้ว่าไร ทุกครั้งที่เค้ามานอนค้างจะมากันพ่อแม่น้อง คนใช้ พ่อแม่น้องจะมานอนห้องนอนเรากะสมี บนที่นอน ซึ่งแรกๆเราไม่ได้ว่า ก้นอนเบียดๆกันไป 4-5 คน แต่เราอึดอัดมาก นอนไม่หลับเพราะเบียด เราก้บอกสมีว่าเรานอนไม่ได้เพราะสมีเบียด สมีก้ย้ายลงไปนอนพื้นให้เรานอนบนที่นอนกะพ่อแม่เค้า เค้ามาทีไรก้จะมานอนที่นอนเรา มาแต่งตัวห้องเรา มาใช้ชีวิตเสมอเป็นเจ้าของบ้าน เราไม่ว่าไรเพราะคือพ่อแม่ผัว พักหลังช่วงวันหยุดยาวที่สมีไม่อยู่ (ต้องไปทำงานช่วงสงกรานต์ปีใหม่) พี่แม่น้องเค้าจะมานอนที่บ้านเราประจำทีละนานๆๆ แล้วเราก้จะย้ายไปนอนที่บ้านพ่อแม่เรา เรารู้สึกอึดอัดเพราะสมีไม่ถามเราสักคำว่าได้มั๊ย ไม่มีความเกรงใจเรยสักนิด ทั้งที่เป้นห้องส่วนตัวของเรา ล่าสุด มาพักกัน 1อาทิตย์ มาถึงก้เอ่ยปากว่า ให้เราไปนอนบ้านพ่อแม่เรา เพราะเค้าเป้นหวัด เราก้ย้ายไป ไม่ว่าไร ยังไม่ทันเก้บของใช้ส่วนตัวอะไรทั้งนั้นก้ไล่กลับ ทั้งที่ที่นั่นบ้านเรากะสมี อยู่กัน 1 อาทิตย์ วันพฤ เราจะกลับเข้าบ้านไปทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปู สมีบอกไม่ต้องเดี่ยวเค้าจะมากันอีกศุกร-อาทิต เราเริ้มโมโหละ นี่มันอะไรกันนี่ นี่บ้านฉันนะ นั้นก้ห้องฉัน ของฉัน หมอน ที่นอน ผ้าห่ม ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง มาแบบไม่ถามความเห็น นิดหน่อยไม่ว่า นี่มันจะเยอะไปแล้ว เราเรยตัดสินใจพูดกะแฟนไปตรงๆว่า ห้องเล็กเราติดแอร์แล้วซื้อที่นอนมาให้พ่อกะแม่เวลามาเที่ยวบ้านเราเค้าจะได้มีความเป้นส่วนตัวดีมั๊ย สามึตอบว่า เพื่ออะไร เราก้บอกเค้าไปอีกว่า เรารู้สึกไม่เป็นส่วนตัว เราถูกเลี้ยงมาแบบมีห้องนอนส่วนตัว พ่อกะแม่ไม่เคยแม้แต่วุ้นวายในห้องเราและของเราเรย เราพูดกะสมีตรงๆว่าเรารู้สึกว่าไม่ส่วนตัว สามีพูดกลับมาคำนึงว่า "มันเรื่องของเธอ" เราเสียใจมากที่ได้ยินคำนั้น เสียใจที่สุด เราไม่เข้าใจจิงๆว่า เค้าคิดว่าบ้านนั้นเป้นบ้านของเค้า ทุกอย่างเป็นของเค้าคนเดียว ไม่คิดว่าต้องแชร์ควาาสุขความทุกข์กันเรย ณ.วันนี้เราตัดสินใจจะไปย้ายของใช้ส่วนตัวออกจากบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวเราจะไปต่างประเทศ เราคิดว่าพ่อแม่เค้าคงต้องมาค้างอีกแน่ เราไม่ทำไรที่รุนแรง แต่เรารู้สึกว่าเค้าข้ามเส้นมากเกินไป สมีคงจะรักพ่อกะแม่มากเกินไป จนไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคู่ ไม่แคร์ความรู้สึกของเรา แต่เรายังโชคดีที่มีบ้านพ่อแม่ เราขอหลบพักมาอยู่บ้านนี้ให้สบายไป ไปเที่ยวต่างประเทศสักพัก
อันที่จิงเราไม่ได้หวงบ้านหรือไรเรยนะค่ะ ถ้ามาค้างหรือจะมาอยู่ แต่ต้องอยู่ในที่ของแขกนะค่ะ แต่เค้ากลับมาอยู่ในที่ของเราแล้วไล่เราออกจากบ้านไป อันนี้มันเกินไปมั๊ยค่ะ เราควรจะทำยังไง จากที่เราไม่มีอะไรกะพ่อแม่เค้า พอเกิดเหตุการ์ณนี้เริมมีอคติแล้วค่ะ เวลามาปั้นหน้าไม่ถูกเฟคหน้าไม่เป็นค่ะ เป็นคนตรงๆ ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเรย อยากออกมาให้พ้นๆ