"ทำไมบุคคลดีๆระดับประเทศที่เคยร่วมงานกับทักษิณ จึงถอยห่างจากทักษิณกันหมด"
http://pantip.com/topic/31137220
ติดใจและอยากทำความเข้าใจ
1. เรื่อง “คนดีระดับประเทศ” โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับคุณสมบัติตรงนี้ เหมือนที่ไม่เห็นด้วยกับคำว่า “ราษฏรอาวุโส”ที่ใครต่อใครขนานให้คุณประเวศ วะสี(แล้วคุณประเวศแกก็เอาคุณสมบัตินี้หากินในสังคมได้ระดับหนึ่ง: ระดับที่นายกฯ และนายบรรหารต้องง้อ) พุทธศาสนามองว่าการทำคุณงามความดีไม่ว่าจะยาจกหรือเจ้าแห่งแว่นแคว้นที่ไหนก็คือการทำความดีและคนๆ นั้นก็ถือว่าเป็นคนดี โดยไม่มีจำแนกว่าดีระดับยาจกหรือดีระดับแว่นแคว้น แต่ถ้าหากว่าคุณธันวาจะว่าเก่งระดับประเทศก็ว่าไปอีกอย่าง
2. การมองว่าคนๆ หนึ่งเป็น “คนดี” แล้วตั้งคำถามในทำนองว่า “ทำไมคนดีๆ อย่างนาย ก. ถึง ทำงานกับนาย ข. ไม่ได้” ฟังเผินๆ ก็นับว่าเป็นความฉลาดในการตั้งข้อสังเกตุ คือเพื่อพยายามที่จะสร้างจินตนาการให้คนทั่วไปเข้าใจว่านาย ข. ไม่น่าจะใช่คนดี(หรือไม่ก็เป็นคนเลวเลย)เพราะขนาดคนดี(ระดับประเทศ)อย่างนาย ก. ยังร่วมงานไม่ได้ แต่หากมองลงไปทีละชั้นๆ ก็จะเห็นความใจแคบ แล้งน้ำใจ และการขาดวิจารณญาณของคนถามอยู่กลายๆ เพราะดูเหมือนว่าคนถามจะไม่นำพาเลยว่านาย ก. มีคุณสมบัติอย่างไร เป็นคนดีระดับไหนนายข.ถึงร่วมงานไม่ได้?? อีกทางหนึ่ง นายก. ทำคุณงามความดีอะไรไว้ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็น “คนดี” และนายข. ได้ทำความดีอะไรไว้หรือว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่างถึงไม่ได้ถูกมองว่าเป็น “คนดี”???
3. กับสิ่งที่ คุณทักษิณก็ดี คุณปุระชัยก็ดี คุณสุรเกียร์ติก็ดี และคุณสมคิดก็ดี ได้ร่วมกัน“บริหารประเทศ” ในหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่อาจมองว่าเป็นการสร้างความดีในเชิงศาสนา(แล้วถูกยกย่องว่าเป็น “คนดี”) แต่ผมมองว่าเป็นการ “สร้างผลประโยชน์” ให้กับประเทศชาติ อย่างไรก็แล้ว....หากคุณธันวายืนยันว่านั่นเป็นการสร้างความดี ผมก็พอจะอ้อมแอ้มคล้อยตามได้ระดับหนึ่งว่าเป็น “ความดี” ในเชิงโลกิยะ ที่ในบางครั้งต้องมีโลภ โกรธ หลงเข้ามาข้องแวะ เช่นน่าจะมีการตัดสินใจสักครั้งบ้างที่การตัดสินใจ “สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ” ของคุณ ทักษิณ ปุระชัย สุรเกียร์ติ และคุณสมคิดต้องอิงแอบ ราคะ โทสะ โมหะ และเมื่อผลของการตัดสินนั้นเอื้อประโยชน์ให้ส่วนรวม
4. การบริหารงานใดๆ ก็แล้วแต่ย่อมมีความซับซ้อนยิ่งการบริหารระดับประเทศแล้วน่าจะมีความซับซ้อนหลายชั้น การตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่จุดนี้ของคนเก่งระดับ ปุระชัย สุรเกียร์ติ และสมคิด เขาก็ย่อมตระหนักดี และการเดินจากไปไปของพวกเขามันก็ย่อมมีอะไรที่ซับซ้อน ซึ่งไม่น่าจะใช่การเป็น “คนดี” และ “คนไม่ดี” เพราะพวกเขาทั้งหมดล้วนต่างก็เป็น “คนดี” และ “ไม่ดี”คละเคล้ากัน ตราบใดที่เราๆ ท่านๆ ยังเวียนว่ายในทะเลแห่งโลภ โกรธ หลงอยู่ ทั้งคุณและผมรวมถึงทุกคนในประเทศไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ก่อนและหลังการตัดสินใจไม่ร่วมงานกับรัฐบาลทักษิณของ ปุระชัย สุรเกียร์ติ สมคิด การลาออกของปุระชัยมีเพียงปุระชัยเท่านั้นที่รู้ดี ฯลฯ การที่พยายามจะสรุปในเชิงว่า เพราะปุระชัยเป็นคนดีแล้วร่วมงานกับทักษิณไม่ได้นั้น ผมมองว่าเป็นมุมมองที่คับแคบและแล้งน้ำใจเหลือเกิน
......ขอคุญกับคุณธันวา ไกรฤกษ์ ว่าด้วยเรื่อง คนดีๆ อย่าง ดร สมเกียร์ติ ดร สมคิด ดร ปุระชัย......
ติดใจและอยากทำความเข้าใจ
1. เรื่อง “คนดีระดับประเทศ” โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับคุณสมบัติตรงนี้ เหมือนที่ไม่เห็นด้วยกับคำว่า “ราษฏรอาวุโส”ที่ใครต่อใครขนานให้คุณประเวศ วะสี(แล้วคุณประเวศแกก็เอาคุณสมบัตินี้หากินในสังคมได้ระดับหนึ่ง: ระดับที่นายกฯ และนายบรรหารต้องง้อ) พุทธศาสนามองว่าการทำคุณงามความดีไม่ว่าจะยาจกหรือเจ้าแห่งแว่นแคว้นที่ไหนก็คือการทำความดีและคนๆ นั้นก็ถือว่าเป็นคนดี โดยไม่มีจำแนกว่าดีระดับยาจกหรือดีระดับแว่นแคว้น แต่ถ้าหากว่าคุณธันวาจะว่าเก่งระดับประเทศก็ว่าไปอีกอย่าง
2. การมองว่าคนๆ หนึ่งเป็น “คนดี” แล้วตั้งคำถามในทำนองว่า “ทำไมคนดีๆ อย่างนาย ก. ถึง ทำงานกับนาย ข. ไม่ได้” ฟังเผินๆ ก็นับว่าเป็นความฉลาดในการตั้งข้อสังเกตุ คือเพื่อพยายามที่จะสร้างจินตนาการให้คนทั่วไปเข้าใจว่านาย ข. ไม่น่าจะใช่คนดี(หรือไม่ก็เป็นคนเลวเลย)เพราะขนาดคนดี(ระดับประเทศ)อย่างนาย ก. ยังร่วมงานไม่ได้ แต่หากมองลงไปทีละชั้นๆ ก็จะเห็นความใจแคบ แล้งน้ำใจ และการขาดวิจารณญาณของคนถามอยู่กลายๆ เพราะดูเหมือนว่าคนถามจะไม่นำพาเลยว่านาย ก. มีคุณสมบัติอย่างไร เป็นคนดีระดับไหนนายข.ถึงร่วมงานไม่ได้?? อีกทางหนึ่ง นายก. ทำคุณงามความดีอะไรไว้ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็น “คนดี” และนายข. ได้ทำความดีอะไรไว้หรือว่าไม่ได้ทำอะไรสักอย่างถึงไม่ได้ถูกมองว่าเป็น “คนดี”???
3. กับสิ่งที่ คุณทักษิณก็ดี คุณปุระชัยก็ดี คุณสุรเกียร์ติก็ดี และคุณสมคิดก็ดี ได้ร่วมกัน“บริหารประเทศ” ในหลายปีที่ผ่านมา ผมไม่อาจมองว่าเป็นการสร้างความดีในเชิงศาสนา(แล้วถูกยกย่องว่าเป็น “คนดี”) แต่ผมมองว่าเป็นการ “สร้างผลประโยชน์” ให้กับประเทศชาติ อย่างไรก็แล้ว....หากคุณธันวายืนยันว่านั่นเป็นการสร้างความดี ผมก็พอจะอ้อมแอ้มคล้อยตามได้ระดับหนึ่งว่าเป็น “ความดี” ในเชิงโลกิยะ ที่ในบางครั้งต้องมีโลภ โกรธ หลงเข้ามาข้องแวะ เช่นน่าจะมีการตัดสินใจสักครั้งบ้างที่การตัดสินใจ “สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ” ของคุณ ทักษิณ ปุระชัย สุรเกียร์ติ และคุณสมคิดต้องอิงแอบ ราคะ โทสะ โมหะ และเมื่อผลของการตัดสินนั้นเอื้อประโยชน์ให้ส่วนรวม
4. การบริหารงานใดๆ ก็แล้วแต่ย่อมมีความซับซ้อนยิ่งการบริหารระดับประเทศแล้วน่าจะมีความซับซ้อนหลายชั้น การตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่จุดนี้ของคนเก่งระดับ ปุระชัย สุรเกียร์ติ และสมคิด เขาก็ย่อมตระหนักดี และการเดินจากไปไปของพวกเขามันก็ย่อมมีอะไรที่ซับซ้อน ซึ่งไม่น่าจะใช่การเป็น “คนดี” และ “คนไม่ดี” เพราะพวกเขาทั้งหมดล้วนต่างก็เป็น “คนดี” และ “ไม่ดี”คละเคล้ากัน ตราบใดที่เราๆ ท่านๆ ยังเวียนว่ายในทะเลแห่งโลภ โกรธ หลงอยู่ ทั้งคุณและผมรวมถึงทุกคนในประเทศไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ก่อนและหลังการตัดสินใจไม่ร่วมงานกับรัฐบาลทักษิณของ ปุระชัย สุรเกียร์ติ สมคิด การลาออกของปุระชัยมีเพียงปุระชัยเท่านั้นที่รู้ดี ฯลฯ การที่พยายามจะสรุปในเชิงว่า เพราะปุระชัยเป็นคนดีแล้วร่วมงานกับทักษิณไม่ได้นั้น ผมมองว่าเป็นมุมมองที่คับแคบและแล้งน้ำใจเหลือเกิน