"วิพากษ์ยุคสมัยที่เราหยุดแสวงหา เพราะต่างคิดว่าตนได้พบคำตอบ "
GM : ท่านได้ตรวจสอบความเชื่อเรื่องสันติวิธี อหิงสาธรรม ของท่านอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เห็นมีแต่ข่าวคนไทยทะเลาะกัน นี่อาจจะแสดงว่าแท้จริงแล้ว ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ ไม่สอดคล้องกับสันติวิธี อหิงสาธรรม ของท่านเลยก็ได้
พระไพศาล : ที่คุณว่านั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไป ยังมีอีกด้านหนึ่ง คนที่เขาแก้ปัญหาโดยที่ไม่ใช้ความรุนแรงก็มีมากมาย ในชีวิตประจำวันของเรา เราแสดงออกด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันมากกว่าการใช้ความรุนแรง คนไทยที่เป็นฆาตกรหรืออาชญากรนั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ใช้ชีวิตปกติไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แม้แต่เวลาที่ไม่ปกติอย่างเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ก็เห็นคนมากมายช่วยเหลือกัน เป็นจิตอาสา เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้บนท้องถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่สาธารณะ แม้เราจะบ่นว่ามันน้อยลงๆ
แต่อาตมาคิดว่าการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน หรืออย่างน้อยก็ไม่เบียดเบียนกัน เป็นปรากฏการณ์ทั่วไป การทะเลาะเบาะแว้งหรือใช้ความรุนแรงต่อกันสิ ถือเป็นเรื่องแปลก ที่เป็นข่าวเยอะๆ ก็เพราะมันเป็นเรื่องแปลก ถ้ามันเป็นเรื่องธรรมดา มันก็ไม่เป็นข่าวใช่ไหม
GM : เหตุที่เราช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อาจเป็นเพราะเราสมประโยชน์กันอยู่ แต่พอเราขัดประโยชน์กัน เราก็มีวิธีแก้ปัญหาแบบที่ไหลลู่ไปสู่ความรุนแรงเสมอ
พระไพศาล : (หัวเราะ) ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปัจจัยภายใน คืออารมณ์และทัศนคติของผู้คน กับปัจจัยภายนอก เช่น กฎหมาย ระเบียบ กติกา รวมทั้งผู้คนแวดล้อม ถ้ามีอคติ หรือมีความโกรธเกลียดต่อกันเป็นพื้น มันก็อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ง่าย
แต่ถ้าสังคมแวดล้อมไม่นิยมส่งเสริมความรุนแรง รังเกียจคนที่ใช้ความรุนแรง คนที่มีความขัดแย้งกัน ก็จะรู้สึกว่าใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ยาก หรือถ้าสังคมนั้นมีกลไกแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ที่น่าเชื่อถือ ผู้คนก็จะหันไปพึ่งพากลไกนั้น ทำให้ความขัดแย้งไม่ลงเอยด้วยความรุนแรง
แต่ถ้าสังคมนั้นไม่มีกลไกที่ว่า หรือมีแต่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ศาลก็ไม่น่าเชื่อถือ ตำรวจก็ซื้อได้ คนที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ก็หันไปหาความรุนแรง แล้วใช้เงินเป่าคดี เมืองไทยก็กำลังเป็นแบบนี้มากขึ้น
อาตมาคิดว่าปัญหาของการใช้สันติวิธี ไม่ได้อยู่ตรงที่ธรรมชาติของมนุษย์ แต่อยู่ตรงที่กลไกเครื่องมือที่จะเอื้อให้เกิดสันติวิธีมากกว่า เช่น ระบบศาล ระบบยุติธรรม รัฐสภา หรือองค์กรอิสระ
ถ้าคนจำนวนมากไม่เชื่อในระบบเหล่านี้ ว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะคิดว่าไม่เป็นกลางอย่างแท้จริง เขาก็จะไม่ใช้กลไกเหล่านี้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่หันไปใช้วิธีนอกระบบ เช่นการประท้วง การประท้วงนั้นยังเป็นสันติวิธีอยู่ แต่ถ้าช่องทางสื่อสารถูกปิด เขาก็อาจทำอะไรที่ปริ่มๆ กฎหมาย หรือบางทีใช้ความรุนแรงก็มี เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือกดดันให้รัฐบาลต้องโอนอ่อนผ่อนตามเขา
ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐก็มีโอกาสที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงได้ง่าย หากระบบศาล รัฐสภา องค์กรอิสระเป็นฝ่ายรัฐ หรือภาคประชาสังคมไม่เข้มแข็ง ในอเมริกาและยุโรป เขาก็มีการประท้วง แต่ทำไมไม่ค่อยเกิดความรุนแรง ก็เพราะระบบต่างๆ ในสังคมของเขายังทำงานอยู่ ไม่เอื้อให้ทุกฝ่ายใช้ความรุนแรงตามอำเภอใจ
อาตมาจึงคิดว่าระบบต่างๆ ในสังคมจะช่วยให้ความขัดแย้งคลี่คลายไปได้ด้วยสันติวิธี ซึ่งตอนนี้ของไทยเรายังมีปัญหาอยู่มาก จึงเกิดความรุนแรงบ่อยๆ
http://www.ruendham.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A5/
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ผมในนามประธานชมรมมุสลิมเพื่อสันติภาพไม่นิยมความรุนแรง ขอขอบพระคุณพระคุณเจ้ามา ณ ที่นี้ด้วย
พี่จิม
อนึ่งฝ่ายทางพุทธศาสนาเค้าดำเนินการแล้ว นี่คือสัญญานนึงว่า เกิดความร่วมมือกัน ระหว่างสองศาสนา พุทธ และอิสลาม ในการที่จะผดุงไว้ซึ่งสันติภาพบนโลกใบนี้
มุมมองของพระสงฆ์ท่าน ต่อกระบวนการสันติภาพ
GM : ท่านได้ตรวจสอบความเชื่อเรื่องสันติวิธี อหิงสาธรรม ของท่านอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เห็นมีแต่ข่าวคนไทยทะเลาะกัน นี่อาจจะแสดงว่าแท้จริงแล้ว ธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ ไม่สอดคล้องกับสันติวิธี อหิงสาธรรม ของท่านเลยก็ได้
พระไพศาล : ที่คุณว่านั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไป ยังมีอีกด้านหนึ่ง คนที่เขาแก้ปัญหาโดยที่ไม่ใช้ความรุนแรงก็มีมากมาย ในชีวิตประจำวันของเรา เราแสดงออกด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันมากกว่าการใช้ความรุนแรง คนไทยที่เป็นฆาตกรหรืออาชญากรนั้นมีน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ใช้ชีวิตปกติไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
แม้แต่เวลาที่ไม่ปกติอย่างเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ก็เห็นคนมากมายช่วยเหลือกัน เป็นจิตอาสา เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้บนท้องถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานที่สาธารณะ แม้เราจะบ่นว่ามันน้อยลงๆ
แต่อาตมาคิดว่าการเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน หรืออย่างน้อยก็ไม่เบียดเบียนกัน เป็นปรากฏการณ์ทั่วไป การทะเลาะเบาะแว้งหรือใช้ความรุนแรงต่อกันสิ ถือเป็นเรื่องแปลก ที่เป็นข่าวเยอะๆ ก็เพราะมันเป็นเรื่องแปลก ถ้ามันเป็นเรื่องธรรมดา มันก็ไม่เป็นข่าวใช่ไหม
GM : เหตุที่เราช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อาจเป็นเพราะเราสมประโยชน์กันอยู่ แต่พอเราขัดประโยชน์กัน เราก็มีวิธีแก้ปัญหาแบบที่ไหลลู่ไปสู่ความรุนแรงเสมอ
พระไพศาล : (หัวเราะ) ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปัจจัยภายใน คืออารมณ์และทัศนคติของผู้คน กับปัจจัยภายนอก เช่น กฎหมาย ระเบียบ กติกา รวมทั้งผู้คนแวดล้อม ถ้ามีอคติ หรือมีความโกรธเกลียดต่อกันเป็นพื้น มันก็อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ง่าย
แต่ถ้าสังคมแวดล้อมไม่นิยมส่งเสริมความรุนแรง รังเกียจคนที่ใช้ความรุนแรง คนที่มีความขัดแย้งกัน ก็จะรู้สึกว่าใช้ความรุนแรงกับอีกฝ่ายหนึ่งได้ยาก หรือถ้าสังคมนั้นมีกลไกแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี ที่น่าเชื่อถือ ผู้คนก็จะหันไปพึ่งพากลไกนั้น ทำให้ความขัดแย้งไม่ลงเอยด้วยความรุนแรง
แต่ถ้าสังคมนั้นไม่มีกลไกที่ว่า หรือมีแต่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ศาลก็ไม่น่าเชื่อถือ ตำรวจก็ซื้อได้ คนที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ก็หันไปหาความรุนแรง แล้วใช้เงินเป่าคดี เมืองไทยก็กำลังเป็นแบบนี้มากขึ้น
อาตมาคิดว่าปัญหาของการใช้สันติวิธี ไม่ได้อยู่ตรงที่ธรรมชาติของมนุษย์ แต่อยู่ตรงที่กลไกเครื่องมือที่จะเอื้อให้เกิดสันติวิธีมากกว่า เช่น ระบบศาล ระบบยุติธรรม รัฐสภา หรือองค์กรอิสระ
ถ้าคนจำนวนมากไม่เชื่อในระบบเหล่านี้ ว่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะคิดว่าไม่เป็นกลางอย่างแท้จริง เขาก็จะไม่ใช้กลไกเหล่านี้ในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่หันไปใช้วิธีนอกระบบ เช่นการประท้วง การประท้วงนั้นยังเป็นสันติวิธีอยู่ แต่ถ้าช่องทางสื่อสารถูกปิด เขาก็อาจทำอะไรที่ปริ่มๆ กฎหมาย หรือบางทีใช้ความรุนแรงก็มี เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือกดดันให้รัฐบาลต้องโอนอ่อนผ่อนตามเขา
ขณะเดียวกันฝ่ายรัฐก็มีโอกาสที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงได้ง่าย หากระบบศาล รัฐสภา องค์กรอิสระเป็นฝ่ายรัฐ หรือภาคประชาสังคมไม่เข้มแข็ง ในอเมริกาและยุโรป เขาก็มีการประท้วง แต่ทำไมไม่ค่อยเกิดความรุนแรง ก็เพราะระบบต่างๆ ในสังคมของเขายังทำงานอยู่ ไม่เอื้อให้ทุกฝ่ายใช้ความรุนแรงตามอำเภอใจ
อาตมาจึงคิดว่าระบบต่างๆ ในสังคมจะช่วยให้ความขัดแย้งคลี่คลายไปได้ด้วยสันติวิธี ซึ่งตอนนี้ของไทยเรายังมีปัญหาอยู่มาก จึงเกิดความรุนแรงบ่อยๆ
http://www.ruendham.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A5/
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ผมในนามประธานชมรมมุสลิมเพื่อสันติภาพไม่นิยมความรุนแรง ขอขอบพระคุณพระคุณเจ้ามา ณ ที่นี้ด้วย
พี่จิม
อนึ่งฝ่ายทางพุทธศาสนาเค้าดำเนินการแล้ว นี่คือสัญญานนึงว่า เกิดความร่วมมือกัน ระหว่างสองศาสนา พุทธ และอิสลาม ในการที่จะผดุงไว้ซึ่งสันติภาพบนโลกใบนี้
https://www.facebook.com/groups/492824780735210/permalink/680645698619783/