ลุ้นหุ้นไทยปีหน้าแตะ 1,650-1,700 จุด

กระทู้ข่าว
credit : bangkokbiznews.com
------

"สภาธุรกิจตลาดทุนไทย" มองเป้าดัชนีหน้า ลุ้นแตะ 1,650 -1,700 จุด ชี้กลุ่มส่งออกเด่นสุด หลังเศรษฐกิจจีน - ยุโรปฟื้น

       นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า เป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีหน้ามีโอกาสแตะระดับ 1,650-1,700 จุด เนื่องจากมีมุมมองภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมี P/E ต่ำอยู่ที่ระดับ 15 เท่า Earning อยู่ที่ 14-15% โดยภาพรวมของหุ้นที่น่าจะได้รับอานิสงส์โดดเด่นในปีหน้าเป็นกลุ่มส่งออก เพราะมองว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือจีน ซึ่งจะสนับสนุนให้ภาคส่งออกของไทยดีขึ้น สังเกตได้จากหลายฝ่ายประเมินภาคส่งออกฟื้นตัวโดดเด่นในปีหน้า

       นอกจากนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกในเรื่องตลาดเกิดใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบตลาดหุ้นในภูมิภาคยังถือว่าถูกที่สุด โดยมองว่าเม็ดเงินคงไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหลังจากสหรัฐมีการใช้มาตรการ QE มีเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเหลือวงเงินเพียง 3,000 ล้านเหรียญ จึงคาดว่าเม็ดเงินในส่วนที่ไหลออกไปจะมีโอกาสไหลกลับเข้ามา รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

       นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกถือว่ายังคงเป็นจุดเริ่มต้นในช่วงขาขึ้นเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูต้นทุนของดอกเบี้ยที่อยู่ระดับประมาณ 0% จะมีอัตราเพิ่มขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงเป็นผลบวกของภาพรวมตลาดหุ้น ส่วนปัญหาการคลังของสหรัฐมองว่าเป็นเพียงปัญหาแค่ชั่วคราวเกี่ยวกับด้านการเมืองเท่านั้น ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มดีขึ้น และแก้ไขได้ในที่สุด

       "ผมยังมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้ในปีหน้า จากปัจจัย 5 ข้อ คือ ปัญหาสหรัฐที่มองว่าเป็นแค่ปัญหาเทคนิคในด้านการเมืองเท่านั้น ด้านอัตราดอกเบี้ยแม้เป็นขาขึ้น แต่ยังขึ้นได้ในอัตราที่ต่ำ ซึ่งเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น ทั้งยุโรปและจีน ซึ่งจะช่วยหนุนจีดีพีเติบโตดี และไทยได้รับอานิสงส์ภาคส่งออก ส่วนตลาดเกิดใหม่ยังน่าสนใจ โดยเฉพาะไทยที่ยังถูกกว่าตลาดในกลุ่มภูมิภาค และสุดท้ายงบบริษัทจดทะเบียนของไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายไพบูลย์ กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่