ขอปรึกษาหน่อยครับ อยากขายคอนโดแต่ที่บ้านไม่ยอม

สวัสดีครับ พอดีมีปัญหาหนักใจพอสมควรครับ อยากทราบความเห็นหลายๆความเห็น ขออนุญาติ ติด tag 3 ห้องเลยนะครับ

เมื่อประมาณมี 2011
ผมได้ไปคอนโดเพื่อนมาริมทะเลแล้วชอบ หลังจากกลับกรุงเทพไม่นาน ก็มี SMS จาก CBRE ให้ลองไปดูงานเปิดตัวคอนโดใหม่ ริมทะเลที่พัทยาผมก็เลยคิดว่า ไม่เสียหลายลองไปดูดีกว่า ก็เลยพาที่บ้านไป ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ไปงานเปิดตัวที่กรุงเทพ โดยส่วนตัวแล้ว คุณแม่ท่านชอบคอนโดมากๆ อยากอยู่สูงๆ แต่คุณพ่อไม่ชอบ เพราะเหมือนไปอยู่ที่เล็กๆ (กว่าบ้าน) ไม่ส่วนตัว แถมต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนกลางยุ่งยาก  ทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ ขัดกันบ่อยครั้ง  แต่ครั้งนี้ ผมซื้อของผมเอง เงินของผม100%  คุณพ่อก็ขัดไม่ได้ คุณแม่ก็สนับสนุน

ห้องที่ไปดูนั้น ถือว่าโชคดีมาก ห้องที่ดีที่สุดในโครงการ (สำหรับ type นี้) คืออยู่ชั้นสูงที่สุดและมุมดีที่สุด ทะเลเต็มๆ ไม่มีอะไรบังเลย และในอนาคตก็จะไม่มีอะไรมาบังด้วย มีคนมาต่อคิวรอหลายคนแต่เพราะผมมาก่อนเลยโชคดีได้ไป (มีฝรั่งรอผม ว่าถ้าผมไม่เอาเขาเอาต่อทันที)

พอจะรูดบัตรเครดิต จ่ายเงินจอง เหมือนตัวผมเองก็ยังไม่แน่ชัด ว่าจะซื้อเพราะอะไรกันแน่  หลายอารมณ์ประดังเข้ามา แต่มีเหตุผล หลักๆอยู่สองข้อที่ซื้อ
1. ห้องนี้ดี ปล่อยเช่าก็น่าจะพอได้ ขายต่อก็น่าจะกำไร  เป็นการลงทุนที่มีลุ้น
2. อยากเท่ มีคอนโดพัทยา ดูดี ไว้เป็นที่ ไปเที่ยวกับที่บ้าน ไม่ก็ Hang out กับเพื่อน พัทยาไม่ได้ไกล ขับรถแป้บเดียวถึง

อยากเก็บหรืออยากขายเป็นสิ่งที่...ตอบไม่ได้ ณ ตอนนั้น

สุดท้ายก็จองไป  ผ่อนไปเรื่อยๆ ดูความก้าวหน้าอย่างมีความสุข

ตอนนี้ ปี 2013   ผมผ่อนดาวน์กับโครงการหมดแล้ว แต่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ ที่ช้าเพราะ EIA อนุมัติ ช้าตอนน้ำท่วม ไม่เป็นไรไม่ซีเรียส ผมไม่ได้รีบ ทว่าเพื่อนผมรู้ว่า ผมมีคอนโดนี้ แล้วเพื่อนเขาสนใจอยากซื้อต่อ เพราะโครงการนี้ขายไปเกือบหมดตั้งนานแล้ว (ตอนนี้เหลือแต่ห้องไม่ค่อยดีอยู่   ซึ่งมีปริมาณแค่ 10%) ผมก็ชั่งใจเพราะก็แอบเสียดาย แต่ส่วนตัวคิดว่าขายก็เพราะ
1. รายได้ผมก็ไม่ได้เยอะ อายุก็ยังน้อย (26 ตอนซื้อ  ตอนนี้ 28) ไม่มีภาระ แต่ถ้าผมสร้างภาระผม ณ ตอนนี้อีก 20-30 ปี  ผมอาจจะพลาดโอกาสหลายๆอย่าง  ถ้าผ่อนกับธนาคาร ก็ผมต้องเสียเงินประมาณ 40-50% ของรายได้ผมทุกเดือน
2. คอนโดที่พัทยา ผมอาจจะไม่ได้ไปบ่อยมากจนคุ้มค่าใช้จ่าย ที่ต้องเสียดอกเบี้ยธนาคารแพงๆ เงินสดผมอาจจะมีโป๊ะได้ ทำให้กูแค่ 30% ก็ได้แต่ ผมก็จะพลาดโอกาส ทำเงิน ต่อเงินอีก
3. ขายตอนนี้ กำไรตอนนี้ เห็นชัดๆ ขายอีก 5 ปีข้างหน้า  ค่าดอกเบี้ย ค่าตกแต่ง ค่าดูแล ค่าอื่นๆ .....กำไรจะเยอะแค่ไหน  ตอบไม่ได้
4. ให้เช่า... เป็น option ที่ดูดีแต่..ผมซื้อผมก็อยากไปเที่ยวของผม เมื่อไหร่ก็ไป  ถ้าให้เช่า อาจจะมีเรื่องวุ่นวายอย่างอื่นต่อเนื่อง

สรุปผมฟันธงละ...ขายชัวร์

ทีนี้ ผมก็เปรยบอกคุณพ่อและแม่... ผมจะขายคอนโดแล้วนะครับ คุณแม่ตอบกลับมาว่า  "แม่ไม่ว่าถ้าลูกจะขายเพราะอันนี้ เงินของลูก แต่ถ้าจะซื้อคอนโดอื่นอีก ไม่ต้องพาแม่ไปดูนะ แม่เสียความรู้สึก"
อย่างที่บอกครับ แม่ผมชอบคอนโดมาก  แม่เคยเล่าว่า แม่มีความฝันว่า มีคอนโดริมทะเล วันๆนอนนั่งนับคลื่น แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว  แม่ผมอายุ 60 ปลายๆแล้ว เกษียณแล้วครับ อยากสบายๆแล้ว

ทีนี้ผม ตันเลยครับ คิดไม่ออก
ถ้าขาย --> ผมมีเงินเยอะขึ้น  ลดทุน ทำโน่นนี้ ให้งอกเงยได้เยอะขึ้น   แต่  ถึงแม้ว่าในอนาคตผมจะหาตังได้เยอะขึ้น  แต่ตอนนี้ผมก็สงสารแม่ผมครับ
ถ้าเก็บ --> ผมอาจจะมีภาระหนักขึ้น แต่ก็สานฝันคุณแม่ได้ แต่คิดในแง่การลงทุนแล้ว  ไม่คุ้มเลยครับ (ถ้าปล่อยเช่าคุ้มแน่ๆครับ )

ถ้าคิดในมุมมองเฉพาะชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลล้วนๆ การมีคอนโดที่ตากอากาศ เป็นอะไรที่ Spoil ตัวเองเกินไปนิดๆครับ  เพราะผมยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองในกรุงเทพ และยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง  ผมยังต้องเตรียมตัวอีกเยอะสำหรับชีวิตข้างหน้า

ตอนนี้รู้สึกผิด กับเจ็บใจตัวเอง  อยากมีเงินเยอะกว่านี้  อยากทำให้แม่มีความสุข ถ้ามีเงินจนใช้อารมณ์เหนือเหตุผลได้

สุดท้าย อยากได้ความคิดเห็นจากท่านอื่นบ้าง  บอกตรงๆว่า มึนเหมือนกันครับ ผมเป็นคนมีเหตุผลในการตัดสินใจมาก พยาม weight ส่วนดี ส่วนเสีย ก่อนการตัดสินใจ...แต่ครั้งนี้ ผมไม่สามารถ weight ข้อดีข้อเสียได้จริงๆครับ เพราะในทางการลงทุนเห็นชั้นๆว่าผมไม่คุ้ม แต่ถ้าจะไปเทียบกับความสุขคุณแม่ มันจะกลายเป็นแบบ แค่นี้ผมทำให้แม่ไม่ได้หรอ ซึ่งวัดระดับหรือเหตุผลไม่ได้จริงๆ

ขอบคุณครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ถ้าแม่พูดขนาดนี้แล้วเป็นผมเลือกที่จะเก็บไว้นะ  เพราะเอาจริงๆเพราะเราเองที่ไปให้ความหวังแก่แม่เองตั้งแต่แรก พาแม่ไปดูห้องไปช่วยเลือกโครงการ ระหว่าง 2 ปีนั้น เขาอาจจะเฝ้ารอเพื่อที่จะเห็นคอนโด ได้ไปสัมผัสมัน  แต่พอตอนนี้คอนโดใกล้จะสร้างเสร็จ ดันพบว่าลูกจะขายทิ้งไป

แม่ไม่ได้โกรธคุณหรอก แต่คงจะเสียใจนิดๆ เหมือนกับคนที่มีความหวังแล้วหายไปนั่นแหละ

แล้วแม่ก็อายุ เกือบ 70 แล้ว ซึ่งร่างกายก็คงจะแข็งแรงได้อีกไม่นาน ให้ท่านได้ทำอะไรที่อยากทำก่อนที่จะแก่ตัวไปกว่านี้เถอะ บางครั้งทางเลือกที่ทำเงินได้ดีกว่าก็อาจจะทำให้เราต้องมานั่งเสียใจทีหลัง ว่าตอนที่ทำดีกับท่านได้ แล้วทำไมถึงไม่ทำมัน  ซึ่งต่อให้ตอนนั้นถึงจะร่ำรวยเป็นพันล้าน เรื่องนี้ก็อาจจะกลายเป็นปมฝังในใจไปตลอดกาล เป็นปมที่ไม่อาจแก้ไขกลับกลายได้อีก

ดังนั้นผมเลือกที่จะเก็บมันไว้ ให้แม่ได้ไปพักผ่อนสักหลายครั้งจนพอใจ แล้วหลังจากนั้นสักปีสองปี หรือจะรอให้ครบ 5 ปี ค่อยขายก็ได้  ซึ่งถึงตอนนี้คุณแม่ท่านก็ได้ทำตามความฝันแล้ว คงจะพอใจแล้ว  ยังไงคอนโดราคามันไม่ได้ตกลงง่ายๆหรอก มันมีแต่จะขึ้นในระยะยาว
ความคิดเห็นที่ 2
"แม่ไม่ว่าถ้าลูกจะขายเพราะอันนี้ เงินของลูก แต่ถ้าจะซื้อคอนโดอื่นอีก ไม่ต้องพาแม่ไปดูนะ แม่เสียความรู้สึก"
อย่างที่บอกครับ แม่ผมชอบคอนโดมาก  แม่เคยเล่าว่า แม่มีความฝันว่า มีคอนโดริมทะเล วันๆนอนนั่งนับคลื่น แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว  แม่ผมอายุ 60 ปลายๆแล้ว เกษียณแล้วครับ อยากสบายๆแล้ว

ประโยคนี้ประโยคเดียวครับ ทำให้ลำบากใจ
ในความเห็ฌนผม มันเป็นแค่ความฝันครับ อยู่แบบนั้นทุกวัน มันไม่ได้มีความสุขจริงๆหรอก

เหตุผลที่คุณจะขายมีครบถ้วน และผมก็เห็นด้วยทั้งหมด
ลองคุยกับคุณแม่ว่า เพื่ออนาคต เอาเงินมาลงทุนให้งอกเงย ถ้ามีเงินมากขึ้น จะซื้อคอนโดดีๆริมทะเล ไม่ใช่เรื่องยาก
ในระหว่างสร้างตัว ถ้าคุณแม่อยากไปพักผ่อนอาจจะหาเช่าระยะยาวหรือระยะยสั้นก็ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่