วันอาทิตย์

กระทู้สนทนา
ทานกาแฟหรือยังครับ ถ้ายัง ก็ ไปชงกาแฟ มาล้อมวง คุยกันดีกว่า
เช้า ๆอย่างนี้ ตอนนี้ อีสาณของผม อากาศ เย็น  แต่ยังไม่ถึงกับหนาว
กลางวัน ก้ไม่ร้อนมาก ภาษาเขียน เขาเรียก ปลายฝนต้นหนาว ฟ้าโปร่ง ๆ
ไม่มีฝนเลย  ท่านใด เคย อ่าน นิยายปลายฝนต้นหนาวของ โบตั๋น ไหมครับ
มันเข้ากับ บรรยากาศ ตอนนี้จัง นิยายเรื่องนี้ เปรียบผุ้หญิง เหมือน ฤดูกาล เอาแน่ไม่ได้ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
เหมือนหน้าฝน  อายุมาก เหมือนกับปลายฝน กำลังจะเข้าหน้าหนาว กำลังกลัวว่าจะหาสามีไม่ได้
ยังไม่ทันหนาวจริง จะว่าขึ้นคาน ก็ไม่ไช่  ครับ อ่านแล้ว ก็ นึกขำ ที่ แกเปรียบได้
เข้าที  ท่านที่ล้อมวง อยู่นี่ อย่าหาว่าผม เกินเลยไปนะครับ ไม่ได้หมายความตามนั้น

เมื่ออาทิตย์ ที่แล้ว ผมไป คุยให้ ชาวเขมราฐ ฟัง ขับรถ ผ่านทุ่งนา ข้าว กำลัง
ออกรวง บางแห่ง ก็เหลือง แต่ยังไม่สุก ปีนี้ ชาวบ้านบอก ข้าว ดีมาก ก้เตรียมตัว
ขายกัน อีก ไปถึง ชาวบ้านเอาข้าวเม่า มาให้  ข้าวเม่า เป็นข้าว ที่ยังไม่สุก เอามาทำ
เป็นอาหาร หรือขนม สำหรับ ชาวบ้านกัน  อย่า ดูแคลนนะว่า ราคาถูก ข้าวสาร
ราคา กิโลละ 30กว่าบาท แต่ข้าวเม่า นี่ 6 - 70 บาททีเดียว  มาดูวิธีทำข้าวเม่ากันบ้าง

ข้าว ที่ออกรวง หลังจากเป็นเมล็ด แต่ยังไม่สุก เขาจะเก็บเอามา ตากแห้ง  แต่ถ้าจะให้ดี
ก็คั่ว เลยก็ได้ ที้งไว้จนเย็น เอามา ตำ ครับไม่เอาไปสีนะครับ ตำด้วยครก ตำข้าว  เดี๋ยวนี้
ครก ตำข้าว เขาพัฒนา ใช้มอเตอร์ แล้วครับ ไม่เมื่อย  ตำเพื่อกระเทาะเปลือกออก ไม่แรงจน
ข้าวแบน ยับเยิน เมื่อได้ข้าวที่กระเทาะเปลือกมาแล้ว ก้ไป นึ่ง ตอนนี้ ก้พรม ด้วยน้ำใบเตย
เพื่อให้หอม และออกสีเขียว นึ่ง เสร็จ จึงออกมาตากให้แห้ง แล้วถึง แจกจ่าย หรือขายกันได้

ผมชอบให้แม้บ้าน เอามาคลุก ด้วยน้ำตาลทรายเป้น ข้าวเม่าคลุก  วิธีทำข้าวเม่าคลุก เขา
เอาข้าวเม่า มาพรมด้วยน้ำอุ่น ๆให้นี่ม แล้ว โรยด้วยน้ำตาลทราย  จนทั่ว ขูดมะพร้าวให้เป็น
เส้นใหญ่ ๆไม่ใหญ่มาก เคี้ยวลำบาก มะพร้าว ที่ใช้ ต้องเป็นมะพร้าว ไม่อ่อนมากนะครับ
และไม่แก่ จนทึนทึก อันนั้น เขาใช้ทำ แกง   คลุกกับข้าวเม่า  เวลาทาน มีกล้วยใข่ เป็น
เครื่องแนม อร่อยมาก ผมทานมาตั้งแต่เด็ก ย่าทำให้ทานบ่อย ๆ

ข้าวเม่า นอกจาก เอามาคลุก แบบที่ผมว่า ยังเอามากวน กับน้ำกระทิ ใส่น้ำตาล เป็นของหวาน
เขาเรียกข้าวเม่ากวน  ข้าวเม่า นี่บางพื้นที่ ของอีสาณ ทำขายเป็นอาชีพเลยครับ ไม่ขายเป็นข้าวเปลือก
เพราะราคาดีกว่ากันมาก ต่างกัน 4 - 5 เท่า  ท่าน ใดเคยลองชิม บ้างไหมครับ

วันนี้ ผมใส่บาตรตอนเช้า อย่างเคย แต่ ทำปี่นโตเพิ่มเป็นสังฆทานให้ กับ น้อง ๆที่จากไปเมื่อ
40 ปีมาแล้ว พระที่ผ่านหน้าบ้าน มีสององคื ไม่แปลกใจ ที่ผม ถวายปี่นโต เพราะทำ มาทุกปี
ท่านสวด ตาม ธรรมเนียม ของการถวาย สังฆทาน แล้ว ยืนคุยกับท่าน เรื่อง ที่ผ่านมา เสร็จ
แล้ว กรวดน้ำ ให้กับ เด็กทั้งสองคน  เด็กสองคน อายุแค่ 22 ปี แต่ต้องมาเสียไป โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า
ไอ้ที่เขา แสวงหามันอยู่ตรงไหน และ ถ้าแกหยั่งรู้ได้ ก็คงเสียใจเหมือนผม ที่ตามหากัน มา 40 ปี
แล้ว ยังไม่เจอ  ถึง ปีที่ก็มาพูดกัน บางคนเป็นครูบาอาจารย์ แต่ เวลาที่ผ่านมา ไม่สอน ไม่ ทำ
ความจริงให้ปรากฏ บางคนไปเข้ากับเผด็จการเฉยเลย  เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนไปจริง ๆ

เรื่อง 14 ตุลา ผมมา ได้ฟังอีกหลายนคนว่า รวมทั้ง ท่านที่ผมนับถือ อาจารย์หม่อม ท่านบอกว่า
เป็นความขัแย้ง ของทหาร สองฝ่าย ถือ โอกาศ สร้างเรื่องขึ้น เพื่อล้มอีกฝ่าย แล้วมัน ก้เลยเถิด
ไปทำให้ เด็ก ๆต้องรับเคราะห์ กรรม  เรื่องนี้ ผู้นำ นิสิต นักศึกษาคงรู้ดี  เพราะหลังจากนั้น
พวกนี้ ก็ไปเรียนต่างประเทศ ด้วยเงิน บริจาก ของ ประชาชน ที่บริจากให้กัน จำได้ว่าเป็นเงินกว่า
20 ล้านบาท สมัยนั้น 20 ล้านนี่ มันคงเป็นพันล้านสำหรับเดี๋ยวนี้  ถามคุณเสกสรรค์ น่าจะรู้ดี

และ นจ่าจะเป็นอุทาหรณ์ สำหรับ การได้มาซึ่ง อำนาจของ นักศึกษา เพราะต่อมา มีเรื่องที่ไม่ดีงาม
มาปลุกระดมกัน คงจำ เรื่อง 4 ย 5 ยกันได้  ผมสอนหนังสือ ไม่ค่อยได้ เพราะเด็กนักเรียนจะไม่ฟัง
ครูเลย แก บอก ครูทำหน้าที่ไป ผมจะเรียนหรือไม่เป็น สิทธิของผม แน่ะฟังแกพูด วันสองวัน เรียกไป
ชุมนุม กัน อีกแล้ว ไม่ต้องเรียนหนังสือกัน นึกภาพนะครับ เด็ก ๆใส่รองเท้ายาง  นุ่งกางเกงยีน ผมยาว
สะพายย่าม กัน ผม ถามว่า มันโก้มากหรือ แกบอก ถ้าไม่ทำอย่างนี้ มันไม่ใช่ ผมเลยต้องปล่อย  ครับตอนนั้นปลุกกัน
จนถึงกับ บอกกันว่า พ่อ แม่ ทำให้แกเกิด มาด้วยความสนุก ไม่ต้องนับถือ กันมากนัก
  ผมจบ มากลับมาสอน ในปี 2517 เจอปัญหาพวกนี้มาก จนในที่สุด ก็เกิด เหตุการณ์ 6 ตุลา ขึ้นมาอีก
ถ้ามานั่งคิด ดูให้ละเอียด  บางครั้ง คนที่ได้รับเสรีภาพ และขาดการ ยั้งคิด เสพ เสรีภาพ จน เกิน
ขนาด มันก็ควบคุมไม่ได้

เหตุการณ์ ปี 19 ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะตอนนั้น ไปสร้างโรงเรียน ที่ วัดปากแซง ริมโขง อยู่ที่นั่น ตั้งแต่ กลางกันยา
แต่ ก็ได้ข่าว จาก พรรคพวก ว่า มีเรื่อง ที่ กรุงเทพ แบบเดิม และเริ่มเซ็ง กับพฤติกรรมที่เลยเถิด
ได้แต่คุย กับ นักเรียน ที่ไปด้วยกัน ถึงเรื่องราวเก่า ๆ แกก็เข้าใจ เด็ก ๆรุ่นนั้น เจอกัน ทีไร แก เข้ามากอดผม
คิดถึงกันตลอด เป็นครู ก้ดี อย่างนี้ มีแต่ ลูกศิษย์

เรื่องราวเก่า ที่เล่ากัน หลายครั้ง ก็เป็นเรื่อง เศร้า สำหรับคนสูญเสีย  แต่ผม ว่าเรา มองไปข้างหน้ากันดีกว่า
ผมไม่ลืม เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ เป็น อุทาหรณ์ สำหรับ การจะ ทำงานเพื่อสี่งที่ผม หวังต่อไป ว่า
เราต้อง รอบคอบ มองไปข้างหน้า และไม่ลืมข้างหลัง ที่เกิดขึ้น

เริ่ม วันอาทิตย์ ด้วยสี่งดี ๆ แต่มาจบเอาเรื่องเศร้า ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เป็นไงครับ กาแฟ ขมขึ้นมาหรือ รสจืดไป
ดื่มอีกแก้วเป็นไงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่