คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
คือถ้ามีกฎเกณฑ์ในการใช้ชีวิตร่วมกันเยอะอย่างนี้ แนะนำอยู่เดี่ยวค่ะ ไม่ได้ตั้งใจต่อว่านะ แต่จากประสบการณ์อยู่หอเรา คนที่ชอบตั้งกฎเกณฑ์เยอะๆ ท้ายสุดต้องอยู่เดี่ยวกันส่วนใหญ่
1. เพื่อนคุยเรื่องที่เราไม่ชอบคุยแล้วหงุดหงิด ต้องแก้ที่ตนเอง
2. นิสัยในการเล่าเรื่องคุณกับเพื่อนต่างกัน คุณจะเล่าก็ต่อเมื่อมีคนถาม เพื่อนคุณก็เล่าไปทั้งที่คุณไม่ได้ถาม เรื่องราววิธีการคุยต่างกัน ก็เอามาเป็นประเด็น
คือถ้าไม่อยากฟังเพื่อนก็บอกเพื่อนไป แต่มันคนละเรื่องกับเพื่อนไม่ถามไถ่ เพราะต้องดูว่าเพื่อนไม่ถามไถ่คุณทุกเรื่องหรือเฉพาะเรื่องนี้ อันนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ ขึ้นอยู่กับนิสัยเค้า นิสัยคุณ บรรยากาศในห้องพัก
แต่ถ้าเป็นประเด็นเรื่องคุณอยากแชร์บ้าง คุณพูดไปเลยไม่ต้องรอเค้าถาม
3.ไม่ทำความสะอาดต้องจัดเวร จากประสบการณ์ถ้าคนทีาไม่ใช้รักษาความสะอาดระดับใกล้เคียงกันอยู่กันยาก เพราะการแก้สันดานรักษาความสะอาดคนๆนึงมันยาก ซึ่งจริงๆแล้วข้อนี้เราเห็นใจคุณมากกว่าเพราะต้องอยู่กับคนไม่รักสะอาด แต่อย่างที่ว่า เรื่องแบบนี้แก้ยากมาก
4.อาบน้ำนาน คงต้องจัดเวลา เพราะน่าจะเป็นนิสัยที่แก้ยากกว่า ทำความสะอาดอีก
1. เพื่อนคุยเรื่องที่เราไม่ชอบคุยแล้วหงุดหงิด ต้องแก้ที่ตนเอง
2. นิสัยในการเล่าเรื่องคุณกับเพื่อนต่างกัน คุณจะเล่าก็ต่อเมื่อมีคนถาม เพื่อนคุณก็เล่าไปทั้งที่คุณไม่ได้ถาม เรื่องราววิธีการคุยต่างกัน ก็เอามาเป็นประเด็น
คือถ้าไม่อยากฟังเพื่อนก็บอกเพื่อนไป แต่มันคนละเรื่องกับเพื่อนไม่ถามไถ่ เพราะต้องดูว่าเพื่อนไม่ถามไถ่คุณทุกเรื่องหรือเฉพาะเรื่องนี้ อันนี้มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ ขึ้นอยู่กับนิสัยเค้า นิสัยคุณ บรรยากาศในห้องพัก
แต่ถ้าเป็นประเด็นเรื่องคุณอยากแชร์บ้าง คุณพูดไปเลยไม่ต้องรอเค้าถาม
3.ไม่ทำความสะอาดต้องจัดเวร จากประสบการณ์ถ้าคนทีาไม่ใช้รักษาความสะอาดระดับใกล้เคียงกันอยู่กันยาก เพราะการแก้สันดานรักษาความสะอาดคนๆนึงมันยาก ซึ่งจริงๆแล้วข้อนี้เราเห็นใจคุณมากกว่าเพราะต้องอยู่กับคนไม่รักสะอาด แต่อย่างที่ว่า เรื่องแบบนี้แก้ยากมาก
4.อาบน้ำนาน คงต้องจัดเวลา เพราะน่าจะเป็นนิสัยที่แก้ยากกว่า ทำความสะอาดอีก
แสดงความคิดเห็น
หงุดหงิดเพื่อน มึความคิดเห็นไม่ค่อยตรงกับเพื่อร่วมห้องค่ะ ทำไงดีค่ะ
ใครเคยเจอบ้าง????????????
ข้อที่ 1 แต่บางครั้งเรารู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เค้าคุยกันอยู่แค่ 2 คน ประมาณว่าเรื่องเครื่องสำอางค์ เพราะชอบแต่งตัวแต่งหน้า
ข้อที่ 2 บางครั้งรู้สึกไม่ชอบเวลาอีกคนพอเลิกงานมาก็คุยแต่เรื่องงานตัวเองให้ฟัง ว่าหนัก เหนื่อย เพื่อนร่วมงานยังนั้น อย่างนี้ ทุกวัน โดยที่บางครั้งเรารู้สึกว่า เยอะไปไหม ไม่อยากรับฟัง (แต่ก็ต้องฟังอ่ะน่ะ ) แต่กลับไม่เคยถามไถ่เราบ้างงานเป็นไง ดีไหม เพื่อร่วมงานดีไหม (พอดีเราเปลียนงานใหม่) ไม่เค้ย ไม่เคย เรารู้สึกว่าไมีมีน้ำใจเลย เห็นแก่ตัว รู้สึกอึดอัด
ข้อที่สาม คือ ทั้งสองคน ไม่ได้เป็นคนรักษาความสะอาดห้อง เราเบื่อ บางครั้งก็ปล่อยให้
ข้อสี่ ข้อนี้รับไม่ได้ แต่ก็ต้องรับอย่างแรง เพื่อนที่บอกว่าชอบแต่งตัว อาบน้ำนานมากกกกกกกกก ถึงมากที่สุด ทั้งเช้าก่อนไปทำงาน และ เย็น ไม่รู้ว่าจะขัดสีฉวีวรรณ ไปถึงไหน ก็ไม่ได้เป็นขาวหรอกน่ะ ผิวดำๆ ตอนแรกที่เข้ามาอยู่คือรอนานมาก เพระางานเราเข้าเช้า เราโมโห เลยถามว่า ทำไมแกอาบน้ำนานจังว่ะ นานนนนนมากกกกกกก หลังจากนั้น ก็คิดว่าน่าจะปรับปรุงตัวเอง แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง เซ็งๆๆๆๆมาก เบื่อมากที่สุด
สุดท้ายเราก็เลี่ยงที่จะไม่พูดเพราะเราคิดว่าเออ อยู่ด้วยกัน ยังดีที่มีเพื่อหารค่าห้อง คิดอย่างเดียวเลย แต่ก็ต้องอดทนกับอีกหลายเรื่อง มันใช่แล้วเหรอ กำลังคิดในใจอยู่
ปล.แค่อยากระบาย อึดอัดสุดๆๆๆๆ