มีใครอาศัยอยู่ในประเทศ......ฮังการี.....บ้างคะ?

ก็อยากทราบว่าภาษายากไหมคะ....คุณเรียนยังไง?....ที่ไหน?อยู่มานานหรือยังคะ?
นิสัยคนฮังการีและขนมธรรมเนียม....มีเวลาพิมพ์เล่าสู่กันฟังบ้างไ้ไหมคะ?
ไปพักร้อนเพิ่งกลับมาเห็นบ้านและที่ดินติดประกาศขายเยอะมาก  ทราบมาว่า
บางเมืองคนย้ายออก...อยากทราบเศษรฐกิจของประเทศนี้เป็นอย่างไร
รวมทั้งอาหารการกินอะไรอร่อยบ้าง?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
สวัสดี ค่ะ

ก่อนอื่นขอแทนตัวเองว่า พี่ นะ ค่ะ
และพี่ขอพูดถึงประเทศฮังการีและคนฮังการีในอีกแง่มุมนึง ซึ่งดูเหมือนจะแตกต่างจากน้องที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ
พี่มาทำงานในฐานะ Thai Therapist หรือ พูดง่ายๆคือนวดแผนไทย ที่ประเทศฮังการีนี้ได้ 4 ปี แล้ว
ความจริงก่อนมาที่นี่พี่ก็ทำงานออฟฟิตทั่วไป แต่พอช่วงตกงานก็เลยได้ไปเรียนนวดแผนไทยแล้วก็มีคนมีติดต่อให้ไปทำงานเมืองนอก
ตอนนั้นก็งงๆ ว่างานนวดแผนไทยมีที่เมืองนอกด้วยหรอ เพราะคิดว่าเรามีแต่ในบ้านเรา
แต่ความจริงก็คือนวดแผนไทยเราได้รับความนิยมมาก จนมีไปทั่วโลกแล้วก็ว่าได้

อย่างที่บอกว่ามีคนมาติดต่อพูดง่ายๆ นายหน้า เสียค่าหัว (ตอนนั้น 30,000 บาท) แล้วเค้าบอกว่าได้เงินเดิอน 25.000-30.000 บาท
แล้วได้มาทำงานอย่างถูกต้อง (คือได้วีซ่าทำงาน) ซึ่งพี่คิดว่าก็ฟังดูดี ได้มาเมืองนอก เงินเดือนก็ดี และพี่มีความคิดจะเรียนต่อโท
เพราะว่าในสัญญาระบุว่า ทำงาน 8 ชั่วโมง 2 วันต่อสัปดาห์ และสัญญามีการประทับตราจากสถานทูตไทย ณ กรุงบูดาเปส
ก็เลยทำให้พีตัดสินในมาฮังการี

ช่วงสัปดาห์แรกของการมาอยู่ที่ฮังการีทุกอย่างดูดีไปหมด วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แหละเจ้านายที่ดูใจดีแหละดูแลทุกอย่าง
แต่หลังจากหนึ่งสัปดาห์ความไม่สวยงามก็ค่อยๆเริ่มขึ้น เจ้านายเรียกล่ามคนไทยมาช่วยแปล (เจ้านายพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย) เรื่องเกี่ยวกับระบบการทำงาน จากในสัญญาจะทำงาน 8 ชั่วโมง 2 วัน จะต้องทำงานวันละ 12 ชั่วโมง และมีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน
พี่โกรธมากและได้พยามโต้แย้งต่างๆ นานา ว่าทำไมไม่เหมือนในสัญญา คำตอบที่ได้รับคือ "ถ้าฉันไม่ทำสัญญาแบบนี้ เธอก็ไม่ได้มาที่นี่หรอก" แล้วเงินเดือนล่ะ? เงินเดือนเค้ายังคงให้ตามที่ตกลงกันไว้ 120.000 Forint แต่คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ได้แค่ 20.000 (ตอนนั้นอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็น 1 Euro = 50 บาท) สรุปโดนทั้งคนฮังการีทั้งคนไทยด้วยกันหลอก
ที่แรกกะว่าจะไปเพิ่งสถานทูต แต่ด้วยความที่เพิ่งมาอยู่ยังไม่รู้ว่าทางไหนเป็นทางไหน จึงต้องทนอยู่ อีกทั้งเราก็เสียค่าใช้จ่ายมาค่อนข้างสูง คิดว่าทนเก็บเอาเงินติดไม้ติดมือกลับเืมืองไทยบ้างก็ยังดี

พอพี่อยู่ต่อไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้จักคนไทยมากขึ้น ส่วนใหญ่คนไทยที่อยู่ที่ฮังการีจะทำงานนวดแผนไทยและก็กุ๊กเสียเป็นส่วนใหญ่ และอีกส่วนนึงก็แต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่นี่หรือไม่ก็มาเรียน ก็ได้รู้ว่าเราสามารถย้ายบริษัทได้ (ที่นี่ถ้าจะทำร้านนวดไทยและมีคนต่างชาติมาทำงาน จะต้องเปิดเป็นบริษัทเท่านั้น) ก็เลยเริ่มมีการย้ายบริษัทเกิดขึ้น (อยู่มา 4 ปี ย้ายมา 4 บรัษัท) แต่ไม่ว่าจะไปทำงานบริษัทไหน ก็เหมือนกันหมด คือถูกเจ้านายเอารัดเอาเปรียบทั้งสิ้น พี่เข้าใจความรู้สึกของแรงงานพม่าบ้านเราเลย อารมณ์ประมาณนั้น แต่ที่ดีกว่าหน่อยคือเรามาแบบถูกกฎหมาย อย่างน้อยถ้ามีปัญหาเราก็ยังได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายบ้านนี้

เรื่องผู้คนต่างที่บอกเรื่องการเอาเปรียบอย่างแรก แต่เรื่องที่เจอบ่อยมากคือการคดโกง ทุจริส มีในทุกวงการ
เหมือนประเทศบ้านเรา (แหม ก็มาเหมือนกันในเรื่องที่ไม่ดีนี่นะ)
ซื้อของเห็นเราเป็นคนต่างชาติก็จะไม่ทอนตังค์บ้าง ชั่งของไม่ตรงบ้าง คิดเงินเกินบ้าง โดยเฉพาะพวกเจ้านาย โอทีไม่เคยจ่าย
วันหยุดสำคัญบ้านนี้ก็ไ่ม่ให้หยุด หรือให้หยุดแต่ให้เราไปทำชดเชย

อีกอย่างที่สำคัญเลยคือภาษา คนฮังการีจะเรียกตัวเองว่า " Magyar " อ่านว่า "มอยอเรอะ" และภาษาจะเรียกว่า" Magyarul " อ่านว่า "มอยอรูล" มีสระและพยัญชนะคล้ายภาษาไทย อย่างตัว R จะออกเสียง เหมือน ร เรือ ในภาษาไทย (หมายถึงต้องกระดกลิ้น) และ ตัว A จะออกเสียงสระ " ออ " ถ้าถามว่าอยากไหม? ก็ตอบเลยว่า มากกก ภาษีฮังการีเป็นภาษีที่ยากเ็ป็นอันดับ 2 ของโลก (ซึ่งตอนนี้พี่กำลังเรียนอยู่) ซึ่งภาษาจำเป็นมากเวลาไปตลาดซื้อของ เพราะคนที่นี่เค้าจะไม่พูดภาษาอื่นและก็จะไม่สนใจเราด้วยถ้าเราพูดแล้วเค้าไม่เข้าใจ พูดง่ายไม่อยากจะขายให้ด้วยซ้ำ แต่บางคนก็ใจดี

คนฮังการีส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นมิตรโดยเฉพาะกับคนต่างชาติ โดยเฉพาะการบริการนี่แย่มาก ยกตัวอย่างเลยนะ ร้านแมคโดนัล บริการห่วยและก็กวนตีนด้วย อย่างเราสั่งอะไรแล้วมันไม่เข้าใจหรือเราพูดไม่ชัด มันก็จะบอกว่าที่นี่ไม่มีขาย
ตัวอย่าง ไปซื้อนักเกต 6 ชิ้น เราก็ ไอ วูด ไลค์ ซิกส์ นักเก็ต พลีส . มันบอกไม่มี มันมีแต่ นักเก็ตสสสสสส์ คือแบบลืมเติม s ไง โอเคฉันพูดอังกฤษไม่ชัด มอยอรูล ก็งูๆ ปลา แต่ฉันก็มีเงินจ่ายนะจ๊ะ แต่ก็ทำให้ถูกสายตาอีกหลายคู่จ้องมอง จนทำให้การซื้อของในแม็คครั้งต่อไป ต้องจัดเต็ม (ดัดจริสสุด)

และก็ชอบดูถูกคนเอเซีย คนที่นี่จะรังเกียจคนจีนมาก เค้าจะเรียกคนจีนว่า กีนอย เพราะคิดว่ามาแย่งอยู่แย่งกินเค้า (คนจีนที่นี่เยอะมาก เป็นล้านแล้วมั้ง) และก็ยังมีคนเวียดนาม และมองโกลอีก
และยังมีพวกยิปซี กลุ่มนี้น่ารังเกียจสุด สำหรับคนฮังการี เพราะไม่ทำงานทำการ ชอบลักเล็กขโมยน้อย เป็นคนจรจัดบ้าง ขอทานบ้าง

เศรษฐกิจ ไม่ถือว่าดี เงินเฟ้อสูง เพราะว่าถ้าดีคงไทยเข้าสู่ระบบเงินยูโรไปแล้ว...เพราะคุยไว้ว่าจะเข้าสูระบบเงินยูโรตั้งแต่ปี 2004 ตอนนี้ปาเข้าไปจะสิบปีแล้วก็ยังไม่เห็นเปลี่ยน และก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนง่ายๆ ด้วย เพราะรายได้หลักของที่นี่คือการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าเกษต  แต่ก็ยังถือดีกว่าหลายๆประเทศในยุโรปตะวันออก ที่เคยอยู่ในระบอบคอมมิวนิส เพราะฮังการีเป็นประเทศแรกๆที่ให้บริษัทผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต่างๆ มาตั้งฐานการผลิต และได้ยินข่าวว่าตอนนี้ บริษัท บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยักษ์ใหญ่ของไทยก็จะมา ตั้งฐานที่นี่เหมือนกัน

ที่เขียนมาขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ ซึ่งมันเป็นประสบการตรงของพี่ และในฐานะคนที่อยู่มาค่อนข้างนานและอยู่ในฐานะคนทำงาน สบการณ์และมุมมองอาจจะแตกต่างออกไปกับน้องที่มาเรียน และก็เจอแต่แง่มุมที่ไม่คุ่อยดี  

แต่ถ้าเป็นเรื่องดีๆ ของที่นี่เมืองสวย อากาศดี รถไม่ติด การเดินทางสะดวกมาก ถ้ามีตั๋วเดือน ขึ้นรถได้ทุกอย่างไม่จำกัดรอบ อาหารการกินก็รสชาติไม่จืดชืด มีเผ็ด ถึงเผ็ดมากก็มี ข้าวของราคาไม่แพงนัก (ราคาพอๆกับเมืองไทย) ค่อนข้างเงียบสงบไม่วุ่นวาย ส่วนผู้คนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเอาเสียเลย คนดีๆ ก็ยังพอมีอยู่ โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดจะใจดีและเ็ป็นมิตรกว่าคนในเมืองเยอะ

หวังว่าจะเ็ป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะค่ะ

Oktogon
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่