"ทักษิณ" กดปุ่ม ชนทุกด่าน วิเคราะห์การเมือง ไทยรัฐออนไลน์

สแกนยุทธการ “เสียงข้างมาก” เดินหน้าแตกหัก

พายุฝนประจำฤดูทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยประสบ กับภาวะน้ำท่วม
โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคตะวันออกเจอน้ำท่วมอ่วมไปตามๆกัน

ตามสถานการณ์กระตุกต่อมตื่นตัวให้รัฐบาลและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องต้องอยู่ในภาวะเฝ้าระวัง ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
น้ำท่วมใหญ่ปี 2554

อย่างน้อยก็ไม่ประมาท ถ้าเผลอนิ่งนอนใจ เดี๋ยวจะเอาไม่อยู่

และก็ได้ใจ ได้คะแนนไป กับภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นั่งเครื่องบิน ขึ้นรถ ลงเรือ ลุยน้ำเยี่ยมประชาชน ผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดปราจีนบุรี
ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีลงพื้นที่สั่งการแก้ปัญหาแบบทันท่วงที

เอาใจใส่ความเดือดร้อนของชาวบ้าน ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงเสียดทานทางการเมือง

ตามท้องเรื่องเลยได้จังหวะเบี่ยงกระแสเผือกร้อนที่พุ่งเข้าใส่ให้ลดโทนลงไป

อย่างไรก็ตาม โดยยุทธศาสตร์ที่วางแผน กำหนดโปรแกรม ล็อกปฏิทินกันไว้หมดแล้ว

ไม่มีการชะลอเวลาแต่อย่างใด

<
<
<

“นายใหญ่” สั่งเดินหน้าฝ่าทุกด่าน

นั่นก็เพราะประเมินแนวต้านแล้ว ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องหลบให้อีกต่อไป

ไม่ว่าจะเป็น ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ที่อยู่ในสภาพตั้งหลักไม่ติด

โดยเฉพาะเครดิตของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หมดไปเยอะภายหลังนำทีมเปิดเกม
ป่วน โห่ ฮา ขว้างแฟ้ม ทุ่มเก้าอี้ ไม่เหลือภาพของผู้ทรงเกียรติในสภา

ลากกระแสไปจุดไฟม็อบนอกสภา ก็โดนสังคมกังขาอยู่เบื้องหลังม็อบสวนยางอาละวาด

ไหนจะวาทกรรมแรงๆ บนเวทีปราศรัย “Eโง่–แรด–Karee”ที่บ่งบอกอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
อาการหงุดหงิดของ “ชายอกสามศอก” เจอบทที่นิ่งยิ่งกว่าผู้ชายของ “ผู้นำหญิง” เข้าไป

ประชาธิปัตย์ทำอะไรไม่ได้ ไปกันไม่เป็น

เอาเป็นว่า แค่รับผิดชอบกับการทำให้สถาบันการเมืองเก่าแก่กว่า 67 ปี
ต้องมัวหมองลงไปในยุคที่ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์”และทีมงาน
ก็เคลียร์คนในค่ายเดียวกันเหนื่อย มันก็ไม่ต้องพูดถึงโอกาสจะหวนกลับมา
ครองเกมอำนาจในระยะเวลาอันใกล้ แทบจบข่าวเลย

ในสถานการณ์ที่เกมมวลชนของฝ่ายต้านก็แผ่วบาง เพราะขาดปัจจัย ไร้น้ำเลี้ยง
ไม่มีเสบียงจากกลุ่มทุนมาสนับสนุน

ม็อบแป้ก ปลุกไม่ขึ้น

<
<
<

หรือในกรณีถ้าศาลรัฐธรรมนูญฟันธงการแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา
เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญตามที่พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายฝ่ายต้านยื่น
ให้ลงโทษยุบพรรคเพื่อไทย ก็ยังมีช่องให้ยื้อต่อ เพราะกรรมการบริหาร
พรรคส่วนใหญ่เป็น ส.ส.ปาร์ตีลิสต์ เลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาแทนที่ได้

เสียงของรัฐบาลไม่ได้หายไปไหน

แต่ถ้าถึงทางตันไปต่อไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์ถ้าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2
ล้านล้านบาท “เดิมพัน” สำคัญของยี่ห้อ “ทักษิณ”ไม่ผ่านด่านสกัด

ก็มีการพูดถึงขนาดว่า จะจัดช่อดอกไม้สวยๆ ไปมอบให้ศาลรัฐธรรมนูญ

ขอบคุณกันเป็นนัยเบิ้ลบลัฟที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนสงสารจากสังคม
ที่มองอย่างกลางๆ พร้อมๆ กับเอาโปรเจกต์ 2 ล้านล้านบาท บวกกระแสสงสาร
ไปลงสนามเลือกตั้ง คืนอำนาจให้ประชาชนได้ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทย
กลับมาดำเนินโครงการในฝันหรือไม่

ในอารมณ์ของโคตรเซียนเลือกตั้งใช้คำว่า “คะแนนล้นเข่ง”แน่

อดีตนายกฯทักษิณส่งสัญญาณผ่านรัฐมนตรีและส.ส.ที่เดินทางไปพบที่เมืองนอก
บอกให้คนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อ
ไทยลงพื้นที่หาเสียงกับชาวบ้านล่วงหน้า

เผื่อสถานการณ์ถึงขั้นยุบสภาจะได้ลงสนามได้ทันที

นั่นย่อมแสดงว่า “นายใหญ่” วางแผนล่วงหน้า เตรียมรับมือทุกกระบวนท่า

ตามเงื่อนไขที่รองรับไว้ทุกสถานการณ์ จึงไม่ต้องกลัวคว่ำกลางกระดาน
เพราะถ้ามีอุบัติเหตุระหว่างทาง ไม่สามารถฝ่าด่านสกัดได้
จริงๆ ก็ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินกันใหม่

ยึดตามกติการัฐธรรมนูญ
มั่นใจเลือกตั้งเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยก็ชนะกลับมาเป็นฝ่ายถืออำนาจ

เกมยาวยากจะสกัด“ทักษิณ”อยู่

ตามปรากฏการณ์มาถึงจุดที่ชัดแล้วว่า “เสียงข้างมาก”ไม่มีอะไรคานอยู่

ได้เวลาเดินหน้าฝ่าทุกด่าน “นายใหญ่”สั่งลุยทะลุสุดซอย

เส้นทางกลับบ้านอยู่ใกล้ที่สุดแล้ว.

http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/374093

ตามไปอ่านกันเต็มจาก linkได้  เพราะมันยาว   คุณเสือ  ชอบแบบย่อ  อ่านแค่นี้ก็แล้วกัน  
อ้อ  จะวิเคราะห์ต่อทำไม   เขาเขียมาออกชัดเจน  จริงมะ ....  ?  

มาแก้ไข ..เพื่อขอบคุณ ในอารมณ์ขัน  ของ  คุณข้างบูรพา ....