ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ชาวโลกต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงบ่อยครั้งยิ่งขึ้นเนื่องจากสภาวะอากาศที่ขาดสมดุลตามธรรมชาติ เป็นผลจากการสร้างก๊าซเรือนกระจก และการใช้ทรัพยากรป่าไม้มากเกินไป นับเนื่องมานานกว่า 100 ปี และด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนี้เองทำให้เกิด "ผู้ลี้ภัยสภาพอากาศ" ขึ้นมาแล้วบนโลกใบนี้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มวัย 37 ปีจากประเทศคิริบาติ รัฐเอกราชที่ตั้งอยู่บนเกาะปะการังขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ได้ใช้เวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมาร้องขอต่อศาลในประเทศนิวซีแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอสิทธิให้เขาและครอบครัวที่ประกอบไปด้วยภรรยา และลูกอีก 3 คน (ที่เกิดบนแผ่นดินนิวซีแลนด์) ได้รับสิทธิผู้ลี้ภัยในนิวซีแลนด์ โดยอ้างเหตุผลว่า ประเทศของตนกำลังจมลงไปในทะเลเนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี ซึ่งทำให้ตนเองและครอบครัวมีอันตรายอย่างมากหากต้องกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ในแดนกีวีปฏิเสธคำขอของชายหนุ่มจากประเทศเกาะปะการังมาแล้ว จึงเหลือที่พึ่งอีกแห่งเดียว คือ ศาลสูง ที่จะเปิดพิจารณาคดีของกระทาชายนายนี้ในวันที่ 16 ตุลาคม โดยนายไมเคิล คิดด์ ทนายผู้เชี่ยวชาญด้านคดีสิทธิมนุษยชน ผู้ว่าความให้ครอบครัวชาวเกาะทะเลใต้ ยืนยันว่า ยังมีช่องทางที่จะทำให้ศาลสูงเห็นใจและมีคำสั่งให้ครอบครัวชาวเกาะทะเลใต้ย้ายมาใช้ชีวิตในนิวซีแลนด์
ที่ตั้งประเทศคิริบาติ
ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Kiribati
กรณีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวจากคิริบาตินี้เป็นเพียงน้ำจิ้มของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่คาดกันว่าจะมีผู้อพยพจำนวนมากจากเกาะในทะเลและมหาสมุทรต่างๆ ที่กำลังจะจมหายไปในท้องทะเล เกาะคิริบาติเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น มีประชากรราว 103,000 คน อาศัยอยู่บนเกาะปะการัง 33 เกาะที่รวมตัวกันเป็นประเทศๆ หนึ่ง ที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ในเส้นทางระหว่างประเทศออสเตรเลียกับรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า คิริบาติเป็นดินแดนที่มีความเสี่ยงต่อการเผชิญภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากเกาะปะการังแห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียงนิดเดียว
การประเมินของนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า ภายในปลายศตวรรษนี้ ระดับน้ำทะเลในโลกจะขยับตัวสูงขึ้นราว 1 เมตร ซึ่งนั่นก็หมายว่า เกาะคิริบาติจะจมหายไปในทะเลอย่างแน่นอน
และเชื่อกันว่า ในอนาคตจะต้องมีผู้ลี้ภัยสภาพอากาศอีกมากมายตามมาด้วยเช่นกัน และการตัดสินของศาลสูงนิวซีแลนด์จะใช้เป็นมาตรฐานโลกในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการขอสิทธิอพยพลี้ภัยสภาพอากาศต่อไปในอนาคต
ร้องศาลกีวี... 'ขอลี้ภัยสภาพอากาศ'
ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ชาวโลกต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงบ่อยครั้งยิ่งขึ้นเนื่องจากสภาวะอากาศที่ขาดสมดุลตามธรรมชาติ เป็นผลจากการสร้างก๊าซเรือนกระจก และการใช้ทรัพยากรป่าไม้มากเกินไป นับเนื่องมานานกว่า 100 ปี และด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนี้เองทำให้เกิด "ผู้ลี้ภัยสภาพอากาศ" ขึ้นมาแล้วบนโลกใบนี้
สื่อต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มวัย 37 ปีจากประเทศคิริบาติ รัฐเอกราชที่ตั้งอยู่บนเกาะปะการังขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ได้ใช้เวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมาร้องขอต่อศาลในประเทศนิวซีแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอสิทธิให้เขาและครอบครัวที่ประกอบไปด้วยภรรยา และลูกอีก 3 คน (ที่เกิดบนแผ่นดินนิวซีแลนด์) ได้รับสิทธิผู้ลี้ภัยในนิวซีแลนด์ โดยอ้างเหตุผลว่า ประเทศของตนกำลังจมลงไปในทะเลเนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกปี ซึ่งทำให้ตนเองและครอบครัวมีอันตรายอย่างมากหากต้องกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ในแดนกีวีปฏิเสธคำขอของชายหนุ่มจากประเทศเกาะปะการังมาแล้ว จึงเหลือที่พึ่งอีกแห่งเดียว คือ ศาลสูง ที่จะเปิดพิจารณาคดีของกระทาชายนายนี้ในวันที่ 16 ตุลาคม โดยนายไมเคิล คิดด์ ทนายผู้เชี่ยวชาญด้านคดีสิทธิมนุษยชน ผู้ว่าความให้ครอบครัวชาวเกาะทะเลใต้ ยืนยันว่า ยังมีช่องทางที่จะทำให้ศาลสูงเห็นใจและมีคำสั่งให้ครอบครัวชาวเกาะทะเลใต้ย้ายมาใช้ชีวิตในนิวซีแลนด์
ที่ตั้งประเทศคิริบาติ
ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Kiribati
กรณีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวจากคิริบาตินี้เป็นเพียงน้ำจิ้มของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่คาดกันว่าจะมีผู้อพยพจำนวนมากจากเกาะในทะเลและมหาสมุทรต่างๆ ที่กำลังจะจมหายไปในท้องทะเล เกาะคิริบาติเป็นหนึ่งในกลุ่มนั้น มีประชากรราว 103,000 คน อาศัยอยู่บนเกาะปะการัง 33 เกาะที่รวมตัวกันเป็นประเทศๆ หนึ่ง ที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ในเส้นทางระหว่างประเทศออสเตรเลียกับรัฐฮาวายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า คิริบาติเป็นดินแดนที่มีความเสี่ยงต่อการเผชิญภัยจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากเกาะปะการังแห่งนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียงนิดเดียว
การประเมินของนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมระบุว่า ภายในปลายศตวรรษนี้ ระดับน้ำทะเลในโลกจะขยับตัวสูงขึ้นราว 1 เมตร ซึ่งนั่นก็หมายว่า เกาะคิริบาติจะจมหายไปในทะเลอย่างแน่นอน
และเชื่อกันว่า ในอนาคตจะต้องมีผู้ลี้ภัยสภาพอากาศอีกมากมายตามมาด้วยเช่นกัน และการตัดสินของศาลสูงนิวซีแลนด์จะใช้เป็นมาตรฐานโลกในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการขอสิทธิอพยพลี้ภัยสภาพอากาศต่อไปในอนาคต