คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
1. เจียงเป็นทั้งนักปกครองและนักการเมืองครับ หรือพูดง่ายๆว่าเขาเป็นขุนศึกนั่นแล เขามองในเรื่องผลประโยชน์ เรื่องได้เรื่องเสีย มาเป็นอันดับหนึ่ง
ในช่วงปี 1931-1936 เจียงไม่รบกับญี่ปุ่นไม่ใช่ว่าเพราะไม่อยากรบ แต่เขาและก๊กมินตั๋งไม่พร้อมจะรบครับ โอกาสชนะญี่ปุ่นมีน้อยมาก ในขณะที่ก๊กมินตั๋งเองยังไม่ได้แข็งแกร่งและไม่ได้มีอำนาจปกครองทั่วประเทศจีนอย่างจริงจัง การไปรบกับญี่ปุ่นในปี 1932-33 เป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ที่เจียงคำนวนแล้วว่าทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายยังจะถูกญี่ปุ่นบีบให้ลงนามในสนธิสัญญาเสียเปรียบเพิ่มเติมอีก
เจียงจึงเลือกจะใช้วิธีทางการทูตเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น ผ่านสันนิบาติชาติ ซึ่งญี่ปุ่นก็ตอบโต้โดยการถอนตัวจากสันนิบาติชาติครับ
2. พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นศัตรูทางการเมืองของเจียงอยู่แล้วครับ เจียงมองว่าพรรคคอมมิวนิสต์เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเขา และเป็นอุปสรรคหลักด้านความมั่นคงทางอำนาจบนแผ่นดินใหญ่ของเจียง การขจัดพรรคคอมมิวนิสต์ก็เป็นการบอกเหล่านายทุนเจ้าที่ดินทั่วประเทศว่า เจียงสนับสนุนและยืนอยู่ข้างพวกเขา
3. ตอนนั้นต้องยอมรับว่า เจียงไล่ปราบพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาตั้งแต่ปี 1927 แล้ว และทำมาต่อเนื่องกว่า 6 ปีจนถึงปี 1932 ที่เกือบจะชนะอยู่แล้ว อยู่ๆจะให้เลิกง่ายๆเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ในช่วงปี 1931-1936 เจียงไม่รบกับญี่ปุ่นไม่ใช่ว่าเพราะไม่อยากรบ แต่เขาและก๊กมินตั๋งไม่พร้อมจะรบครับ โอกาสชนะญี่ปุ่นมีน้อยมาก ในขณะที่ก๊กมินตั๋งเองยังไม่ได้แข็งแกร่งและไม่ได้มีอำนาจปกครองทั่วประเทศจีนอย่างจริงจัง การไปรบกับญี่ปุ่นในปี 1932-33 เป็นการฆ่าตัวตายชัดๆ ที่เจียงคำนวนแล้วว่าทำไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายยังจะถูกญี่ปุ่นบีบให้ลงนามในสนธิสัญญาเสียเปรียบเพิ่มเติมอีก
เจียงจึงเลือกจะใช้วิธีทางการทูตเพื่อต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น ผ่านสันนิบาติชาติ ซึ่งญี่ปุ่นก็ตอบโต้โดยการถอนตัวจากสันนิบาติชาติครับ
2. พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นศัตรูทางการเมืองของเจียงอยู่แล้วครับ เจียงมองว่าพรรคคอมมิวนิสต์เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเขา และเป็นอุปสรรคหลักด้านความมั่นคงทางอำนาจบนแผ่นดินใหญ่ของเจียง การขจัดพรรคคอมมิวนิสต์ก็เป็นการบอกเหล่านายทุนเจ้าที่ดินทั่วประเทศว่า เจียงสนับสนุนและยืนอยู่ข้างพวกเขา
3. ตอนนั้นต้องยอมรับว่า เจียงไล่ปราบพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาตั้งแต่ปี 1927 แล้ว และทำมาต่อเนื่องกว่า 6 ปีจนถึงปี 1932 ที่เกือบจะชนะอยู่แล้ว อยู่ๆจะให้เลิกง่ายๆเป็นไปไม่ได้แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเจียงไคเช็คถึงอยากปราบพวกคอมมิวนิสต์มากกว่าจะสู้กับญี่ปุ่นละครับ