เดือนตุลาคมของทุกปี เป็นเดือนที่มีความเกี่ยวข้องหรือความสำคัญกับภาพยนตร์ในหลายๆ ด้าน แม้จะไม่ได้ปรากฏอย่างชัดเจนบนปฏิทิน แต่ก็มีความสัมพันธ์ในทุกๆ ด้าน ดังนั้น จขกท. จึงขอรวบรวมวันที่สำคัญที่เกี่ยวข้องดังกล่าวดังนี้
4 ตุลาคม วันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย
วันดังกล่าวมีความสำคัญ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2509 คณะอนุกรรมการการสื่อสารมวลชน ในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงเป็นประธาน ได้มีมติเสนอให้หอสมุดแห่งชาติเปิดแผนกเก็บรักษาฟิล์มภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อให้ยุวชนได้เข้าศึกษาค้นคว้าอย่างสะดวก โดยองค์ประธานและอนุกรรมการบางท่าน ได้แสดงเจตนาจะบริจาคฟิล์มภาพยนตร์ที่สำคัญจำำนวนหนึ่งประเดิมแก่หอสมุดด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ความคิดเรื่องการอนุรักษ์ภาพยนตร์ในเมืองไทยได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังและเผยแพร่สู่สาธารณะ
แต่กว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ต้องรอเป็นเวลานานกว่า 18 ปี จึงจะมีหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ นั่นคือ หอภาพยนตร์แห่งชาติ
8 ตุลาคม วันครบรอบมรณกรรม “มิตร ชัยบัญชา”
ชื่อของพระเอกภาพยนตร์ไทยยอดนิยมในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึง พ.ศ. 2513 ยังอยู่ในความทรงจำของหลายๆ ท่าน ภายหลังจากการเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุขณะถ่ายทำฉากจบของภาพยนตร์เรื่อง “อินทรีทอง” เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ทำให้มีกลุ่มคนที่รักและชื่นชอบพระเอกยอดนิยม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดกิจกรรมรำลึกเป็นประจำทุกปี
17 ตุลาคม วันสรรพสาตร
วันสรรพสาตร เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันประสูติกาลของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ พระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ที่ทรงสถิตในฐานะ “พระบิดาแห่งภาพยนตร์สยาม” จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญในเชิงช่างคนสำคัญของสยาม ในส่วนของทางภาพยนตร์ พระองค์ทรงเป็นผู้ถ่ายทำภาพยนตร์รายแรกในสยาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 และยังเป็นชาวสยามรายแรกที่จัดฉายภาพยนตร์เผยแพร่สู่สาธารณชนในปีเดียวกันนั้นอีกด้วย โดยพระองค์ได้ออกร้าน ฉาย “หนังฝรั่ง” ในงานวัดเบญจมบพิตร งานฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่และคึกคักที่สุดในสยาม โดยพระองค์เริ่มออกร้านตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 ซึ่งเป็นปีแรกที่จัดงาน และออกร้านเป็นประจำต่อเนื่องไปตลอดจนสิ้นรัชกาล
27 ตุลาคม วันมรดกโสตทัศน์โลก (WORLD DAY FOR AUDIOVISUAL HERITAGE)
ยูเนสโก หรือ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 27 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันมรดกโสตทัศน์โลก (World Day for Audiovisual Heritage) เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของสื่อภาพเคลื่อนไหว และสื่อบันทึกเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มภาพยนตร์ แถบบันทึกภาพโทรทัศน์ กระบอกเสียง จานเสียง แถบบันทึกเสียง ฯลฯ ที่ได้ทำหน้าที่บันทึกเรื่องราวอันมีคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์มากว่าร้อยปีแล้ว ปัจจุบันอยู่ในภาวะความเสี่ยง ทั้งในเรื่องความเปราะบาง และการสูญสลายโดยไม่คาดคิด เราอาจได้ทิ้งภาพอดีต ผ่านการทิ้งฟิล์มภาพยนตร์ ทิ้งวิดีโอ ทิ้งแผ่นเสียง ทิ้งสื่อโสตทัศน์ไป เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสื่อบันเทิง ทั้งที่จริงแล้วภาพและเสียงที่เคยเห็นเคยได้ยิน เป็นส่วนเติมเต็มประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการดูแลเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไป ปีนี้ก็มีคำขวัญที่ว่า Saving Our Heritage for the Next Generation.
สำหรับ จขกท. ในฐานะที่สะสมสิ่งของที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิล์ม หรือสิ่งของที่เกี่ยวเนื่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อีกทั้งยังได้ทำหน้าที่ช่วยทำให้ฟิล์มภาพยนตร์เก่า กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ตอนนี้จะยังเป็นการสะสม และเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังเคยนำไปใช้ในกิจกรรมบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งขอเรียกว่า Private to Public ซึ่งก็ยังดำเนินการอยู่โดยตลอด และทยอยนำเสนอเป็นระยะๆ และในปีนี้ ใกล้จะครบรอบปีที่ 7 แล้ว จึงได้ออกแบบสัญลักษณ์ขึ้นมา มาจากนามของโรงภาพยนตร์เก่า (ปิดกิจการไปนานแล้ว แต่ยังมีร่องรอยให้เห็นอยู่) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ จขกท. ซึ่งทุกกระทู้ที่ผมตั้ง รวมทั้งใน Bloggang ก็จะเห็นบ้างแล้วครับ
เดือนตุลาคม กับวันสำคัญเกี่ยวกับภาพยนตร์ของไทย
4 ตุลาคม วันอนุรักษ์ภาพยนตร์ไทย
วันดังกล่าวมีความสำคัญ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2509 คณะอนุกรรมการการสื่อสารมวลชน ในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ทรงเป็นประธาน ได้มีมติเสนอให้หอสมุดแห่งชาติเปิดแผนกเก็บรักษาฟิล์มภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของชาติ เพื่อให้ยุวชนได้เข้าศึกษาค้นคว้าอย่างสะดวก โดยองค์ประธานและอนุกรรมการบางท่าน ได้แสดงเจตนาจะบริจาคฟิล์มภาพยนตร์ที่สำคัญจำำนวนหนึ่งประเดิมแก่หอสมุดด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ความคิดเรื่องการอนุรักษ์ภาพยนตร์ในเมืองไทยได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังและเผยแพร่สู่สาธารณะ
แต่กว่าจะเริ่มเห็นเป็นรูปธรรมและจับต้องได้ ต้องรอเป็นเวลานานกว่า 18 ปี จึงจะมีหน่วยงานที่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ นั่นคือ หอภาพยนตร์แห่งชาติ
8 ตุลาคม วันครบรอบมรณกรรม “มิตร ชัยบัญชา”
ชื่อของพระเอกภาพยนตร์ไทยยอดนิยมในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2500 ถึง พ.ศ. 2513 ยังอยู่ในความทรงจำของหลายๆ ท่าน ภายหลังจากการเสียชีวิตจากการประสบอุบัติเหตุขณะถ่ายทำฉากจบของภาพยนตร์เรื่อง “อินทรีทอง” เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ทำให้มีกลุ่มคนที่รักและชื่นชอบพระเอกยอดนิยม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมจัดกิจกรรมรำลึกเป็นประจำทุกปี
17 ตุลาคม วันสรรพสาตร
วันสรรพสาตร เป็นวันที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันประสูติกาลของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ พระอนุชาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ที่ทรงสถิตในฐานะ “พระบิดาแห่งภาพยนตร์สยาม” จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ทรงเป็นผู้เชี่ยวชาญในเชิงช่างคนสำคัญของสยาม ในส่วนของทางภาพยนตร์ พระองค์ทรงเป็นผู้ถ่ายทำภาพยนตร์รายแรกในสยาม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 และยังเป็นชาวสยามรายแรกที่จัดฉายภาพยนตร์เผยแพร่สู่สาธารณชนในปีเดียวกันนั้นอีกด้วย โดยพระองค์ได้ออกร้าน ฉาย “หนังฝรั่ง” ในงานวัดเบญจมบพิตร งานฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่และคึกคักที่สุดในสยาม โดยพระองค์เริ่มออกร้านตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 ซึ่งเป็นปีแรกที่จัดงาน และออกร้านเป็นประจำต่อเนื่องไปตลอดจนสิ้นรัชกาล
27 ตุลาคม วันมรดกโสตทัศน์โลก (WORLD DAY FOR AUDIOVISUAL HERITAGE)
ยูเนสโก หรือ องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 27 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันมรดกโสตทัศน์โลก (World Day for Audiovisual Heritage) เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของสื่อภาพเคลื่อนไหว และสื่อบันทึกเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มภาพยนตร์ แถบบันทึกภาพโทรทัศน์ กระบอกเสียง จานเสียง แถบบันทึกเสียง ฯลฯ ที่ได้ทำหน้าที่บันทึกเรื่องราวอันมีคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์มากว่าร้อยปีแล้ว ปัจจุบันอยู่ในภาวะความเสี่ยง ทั้งในเรื่องความเปราะบาง และการสูญสลายโดยไม่คาดคิด เราอาจได้ทิ้งภาพอดีต ผ่านการทิ้งฟิล์มภาพยนตร์ ทิ้งวิดีโอ ทิ้งแผ่นเสียง ทิ้งสื่อโสตทัศน์ไป เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสื่อบันเทิง ทั้งที่จริงแล้วภาพและเสียงที่เคยเห็นเคยได้ยิน เป็นส่วนเติมเต็มประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการดูแลเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานต่อไป ปีนี้ก็มีคำขวัญที่ว่า Saving Our Heritage for the Next Generation.
สำหรับ จขกท. ในฐานะที่สะสมสิ่งของที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิล์ม หรือสิ่งของที่เกี่ยวเนื่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อีกทั้งยังได้ทำหน้าที่ช่วยทำให้ฟิล์มภาพยนตร์เก่า กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ตอนนี้จะยังเป็นการสะสม และเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังเคยนำไปใช้ในกิจกรรมบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งขอเรียกว่า Private to Public ซึ่งก็ยังดำเนินการอยู่โดยตลอด และทยอยนำเสนอเป็นระยะๆ และในปีนี้ ใกล้จะครบรอบปีที่ 7 แล้ว จึงได้ออกแบบสัญลักษณ์ขึ้นมา มาจากนามของโรงภาพยนตร์เก่า (ปิดกิจการไปนานแล้ว แต่ยังมีร่องรอยให้เห็นอยู่) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ จขกท. ซึ่งทุกกระทู้ที่ผมตั้ง รวมทั้งใน Bloggang ก็จะเห็นบ้างแล้วครับ