คอลัมน์ : จากปากกายอดทอง โดย.. ยอดทอง
ชะตากิเลน
ช่วงนี้ วิถีลูกหนังของทีมยอดนิยมสีแดงๆ บ้านเรากับบ้านเขาที่อังกฤษ ก็มีอะไรแปลกๆ คล้ายๆ กันนะครับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ เดวิด มอยส์ เปิดซีซั่น แข่ง 6 นัด แพ้ไปแล้ว 3 เป็นปรากฏการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 24 ปีของประวัติสโมสร
ขณะที่บ้านเรา ทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยอดขวัญใจชาวกรุง สู้คู่ปรับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ทั้งบอลลีกบอลถ้วย กำลังปิดซีซั่นด้วย การไร้ถ้วย ผิดกับซีซั่นก่อนที่ฮึกเหิมกับศักดิ์ศรี แชมป์ไร้พ่าย
เดวิด มอยส์ จะรอดหรือไม่ เพราะมีกระแสฮึ่มๆ จากแฟนบอลปีศาจแดง ให้สโมสรไล่ออกไป ผมว่าถ้าแมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อีกสักสองทีติด มอยส์ก็ไม่น่ารอด ส่วน เอสซีจี เมืองทอง จะไล่ เรเน่ เดอซาเยียร์ หรือไม่ ก็ต้องดูช่วงปิดซีซั่น
แต่กับสภาพของ เอสซีจี เมืองทอง น่าจะเปรียบได้กับ กิเลนเจ็บ เดินกะเผลก ในหลายอาการ
บอลอาชีพยุคนี้ เอาแค่ชื่อชั้นมาขู่กันไม่ได้แล้ว ทุกแมตช์ใส่กันเต็ม แพ้ชนะอยู่ที่ใครแกร่งกว่า สู้กันจนหยาดหยดสุดท้ายของเกม ในเมื่อสตาฟฟ์โค้ช กุนซือ จะปรับทีมอย่างไร ก็ไม่อาจหาจุดที่จะสามารถรีดศักยภาพของนักเตะ ประสิทธิภาพของทีมออกมาให้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ เจอคู่แข่งบดมาร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ กิเลนเจ้าสำราญจะเอาอะไรไปหายใจทัน
ไหนจะขาดนายทวารมือหนึ่งคนสำคัญ ที่เป็นทั้งปราการด่านสุดท้ายเหนียวหนึบสุดๆ และเป็นกำลังใจความวางใจของแผงกองหลัง (สำคัญนะครับ กองหลังหวังเหวิด พลาดกันบ่อยๆ เพราะความระแวงข้างหลังตัวเองนี่แหละ) กวินทร์ "ตอง" ธรรมสัจจานันท์ ปีนี้เหมือนคนดวงตก กระดูกขาแตกมาครึ่งปีแรก ยังมาเอ็นข้อศอกฉีก ไม่ต้องลงสนามเลยในครึ่งปีหลัง เป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนที่กิเลน ขากะเผลกปลายทาง
สภาพของทีมก็ป่วยอย่างนี้ ยังมีมะเร็งเข้ามาเกาะภาพลักษณ์สโมสรอีกจุดหนึ่ง ซ้ำเติมเข้าไปอีก
นั่นคือ คนกลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวเองว่า เป็นแฟนอุลตร้ากิเลนฮาร์ดคอร์ ใส่ชุดดำ โพกหัวสีดำ เป็น แบล็กอาร์มี่ กองทัพกิเลนทมิฬ แสดงตนกลุ่มนักรบแนวหน้า ปะ ฉะ ดะ ตอบโต้แฟนบอลคู่อริด้วยความรุนแรง
กระทำการไปแล้ว เมื่อแมตช์ล่าสุด ที่เอสซีจี เมืองทอง พ่ายบุรีรัมย์ เผาตราสโมสรคู่แข่ง โยนประทัดยักษ์เข้าใส่เขาก่อน รปภ.ฝ่ายเดียวกันห้ามขอร้อง ยังทำท่าจะยำพวกเดียวกันอีก แล้วหลังเกมก็ยังมีไล่ตีกัน ในสภาพ ขี้แพ้ชวนตี
พวกนี้ ไม่ใช่แฟนบอลที่ให้หัวใจกับสโมสรหรอก แต่อาศัยชื่อทีมชื่อสโมสรเข้ามา เพื่อหาเรื่องชวนตี เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังใส่ในวิถีลูกหนังของสโมสร ไม่ได้มาเพื่อเชียร์บอลด้วยหัวใจ ดีใจก็ดีใจด้วยกัน ร้องไห้ก็ร้องด้วยกัน
แต่มาเพื่อถะถั่งความถ่อย ไม่ได้แตกต่างกับ พวกนักเรียนเหลือขอช่างกลอาชีวะ ที่พ่อแม่หาเงินกราบให้มันเรียนหนังสือ ก็กลับมาตีกัน ฆ่ากัน เพียงเสื้อคนละสี ชุดคนละพวก แล้วบอกว่า..นี่แหละศักดิ์ศรีกู
พวกบ้าหรือเปล่า ?
มันไม่ใช่แฟนบอลอุลตร้า แต่เป็น hooligan อันธพาลลูกหนัง
เป็นเชื้อร้ายตัวทำลายวงการฟุตบอลอาชีพที่สุด ไม่ว่าในอังกฤษ, อิตาลี เป็นที่น่ารังเกียจ ตำรวจจับลงทะเบียนอาชญากรสังคมทั้งนั้น ของเรามีอะไรที่ดีๆ น่ายกย่อง ก็ยัง
เอามะเร็งเน่าๆ อย่างนั้นมาใส่สโมสรอีก
อุลตร้าเมืองทอง มีจารีตที่งดงาม เป็นกลุ่มแฟนบอลที่แนบหัวใจกับทีมและสโมสร ครอบครัวอุ้มลูกจูงหลานมาดูบอลร่วมกันอย่างสุขใจ จนเป็นเอกลักษณ์ ไปที่ไหนก็มีเพื่อนแฟนบอลด้วยกันทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ เราสามารถตำหนิแฟนบอลถ่อยของสโมสรอื่นได้เต็มปาก..มาอย่างนี้ก็เหมือนถูกขี้ละเลงหน้าบ้างละ กิเลนยามนี้ กะปลกกะเปลี้ยด้วยตัวเองเต็มที ยังจะมีเซลล์มะเร็งอันธพาลลูกหนังมาขย่มซ้ำอีก
นโยบายสโมสรต้องเด็ดขาดจริงจัง ริดให้หมดไป ก่อนที่มะเร็งอันธพาลลูกหนังกองทัพทมิฬพวกนี้ จะลามกินอุลตร้าเมืองทอง ที่เป็นสมบัติมีค่าของสโมสร
ถ้าปล่อยปละละเลย ระวังสักวัน
กิเลนตัวนี้ จะขาดใจ
-ยอดทอง-
http://www.siamsport.co.th/Column/131001_110.html
ถึงจะไม่ชอบหลายๆอย่างในข้อเขียนเเกก่อนหน้านี้ แต่กรณีนี้อย่างน้อยๆแกก็ออกมาพูดเรื่องหลังเกมส์นั้นแบบไม่เข้าข้างเมืองทอง ไม่เงียบไปเเบบตาบี หรือคนอื่นๆนะ
อ่านข้อเขียนนี้ของยอดทองเเล้ว อืม อย่างน้อยเเกก็ยังดีกว่าตาบี บางปะกงแฮะ
ชะตากิเลน
ช่วงนี้ วิถีลูกหนังของทีมยอดนิยมสีแดงๆ บ้านเรากับบ้านเขาที่อังกฤษ ก็มีอะไรแปลกๆ คล้ายๆ กันนะครับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของ เดวิด มอยส์ เปิดซีซั่น แข่ง 6 นัด แพ้ไปแล้ว 3 เป็นปรากฏการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 24 ปีของประวัติสโมสร
ขณะที่บ้านเรา ทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยอดขวัญใจชาวกรุง สู้คู่ปรับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ได้ทั้งบอลลีกบอลถ้วย กำลังปิดซีซั่นด้วย การไร้ถ้วย ผิดกับซีซั่นก่อนที่ฮึกเหิมกับศักดิ์ศรี แชมป์ไร้พ่าย
เดวิด มอยส์ จะรอดหรือไม่ เพราะมีกระแสฮึ่มๆ จากแฟนบอลปีศาจแดง ให้สโมสรไล่ออกไป ผมว่าถ้าแมนฯ ยูไนเต็ด แพ้อีกสักสองทีติด มอยส์ก็ไม่น่ารอด ส่วน เอสซีจี เมืองทอง จะไล่ เรเน่ เดอซาเยียร์ หรือไม่ ก็ต้องดูช่วงปิดซีซั่น
แต่กับสภาพของ เอสซีจี เมืองทอง น่าจะเปรียบได้กับ กิเลนเจ็บ เดินกะเผลก ในหลายอาการ
บอลอาชีพยุคนี้ เอาแค่ชื่อชั้นมาขู่กันไม่ได้แล้ว ทุกแมตช์ใส่กันเต็ม แพ้ชนะอยู่ที่ใครแกร่งกว่า สู้กันจนหยาดหยดสุดท้ายของเกม ในเมื่อสตาฟฟ์โค้ช กุนซือ จะปรับทีมอย่างไร ก็ไม่อาจหาจุดที่จะสามารถรีดศักยภาพของนักเตะ ประสิทธิภาพของทีมออกมาให้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ เจอคู่แข่งบดมาร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ กิเลนเจ้าสำราญจะเอาอะไรไปหายใจทัน
ไหนจะขาดนายทวารมือหนึ่งคนสำคัญ ที่เป็นทั้งปราการด่านสุดท้ายเหนียวหนึบสุดๆ และเป็นกำลังใจความวางใจของแผงกองหลัง (สำคัญนะครับ กองหลังหวังเหวิด พลาดกันบ่อยๆ เพราะความระแวงข้างหลังตัวเองนี่แหละ) กวินทร์ "ตอง" ธรรมสัจจานันท์ ปีนี้เหมือนคนดวงตก กระดูกขาแตกมาครึ่งปีแรก ยังมาเอ็นข้อศอกฉีก ไม่ต้องลงสนามเลยในครึ่งปีหลัง เป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนที่กิเลน ขากะเผลกปลายทาง
สภาพของทีมก็ป่วยอย่างนี้ ยังมีมะเร็งเข้ามาเกาะภาพลักษณ์สโมสรอีกจุดหนึ่ง ซ้ำเติมเข้าไปอีก
นั่นคือ คนกลุ่มหนึ่งที่อ้างตัวเองว่า เป็นแฟนอุลตร้ากิเลนฮาร์ดคอร์ ใส่ชุดดำ โพกหัวสีดำ เป็น แบล็กอาร์มี่ กองทัพกิเลนทมิฬ แสดงตนกลุ่มนักรบแนวหน้า ปะ ฉะ ดะ ตอบโต้แฟนบอลคู่อริด้วยความรุนแรง
กระทำการไปแล้ว เมื่อแมตช์ล่าสุด ที่เอสซีจี เมืองทอง พ่ายบุรีรัมย์ เผาตราสโมสรคู่แข่ง โยนประทัดยักษ์เข้าใส่เขาก่อน รปภ.ฝ่ายเดียวกันห้ามขอร้อง ยังทำท่าจะยำพวกเดียวกันอีก แล้วหลังเกมก็ยังมีไล่ตีกัน ในสภาพ ขี้แพ้ชวนตี
พวกนี้ ไม่ใช่แฟนบอลที่ให้หัวใจกับสโมสรหรอก แต่อาศัยชื่อทีมชื่อสโมสรเข้ามา เพื่อหาเรื่องชวนตี เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชังใส่ในวิถีลูกหนังของสโมสร ไม่ได้มาเพื่อเชียร์บอลด้วยหัวใจ ดีใจก็ดีใจด้วยกัน ร้องไห้ก็ร้องด้วยกัน
แต่มาเพื่อถะถั่งความถ่อย ไม่ได้แตกต่างกับ พวกนักเรียนเหลือขอช่างกลอาชีวะ ที่พ่อแม่หาเงินกราบให้มันเรียนหนังสือ ก็กลับมาตีกัน ฆ่ากัน เพียงเสื้อคนละสี ชุดคนละพวก แล้วบอกว่า..นี่แหละศักดิ์ศรีกู
พวกบ้าหรือเปล่า ?
มันไม่ใช่แฟนบอลอุลตร้า แต่เป็น hooligan อันธพาลลูกหนัง
เป็นเชื้อร้ายตัวทำลายวงการฟุตบอลอาชีพที่สุด ไม่ว่าในอังกฤษ, อิตาลี เป็นที่น่ารังเกียจ ตำรวจจับลงทะเบียนอาชญากรสังคมทั้งนั้น ของเรามีอะไรที่ดีๆ น่ายกย่อง ก็ยัง
อุลตร้าเมืองทอง มีจารีตที่งดงาม เป็นกลุ่มแฟนบอลที่แนบหัวใจกับทีมและสโมสร ครอบครัวอุ้มลูกจูงหลานมาดูบอลร่วมกันอย่างสุขใจ จนเป็นเอกลักษณ์ ไปที่ไหนก็มีเพื่อนแฟนบอลด้วยกันทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้ เราสามารถตำหนิแฟนบอลถ่อยของสโมสรอื่นได้เต็มปาก..มาอย่างนี้ก็เหมือนถูกขี้ละเลงหน้าบ้างละ กิเลนยามนี้ กะปลกกะเปลี้ยด้วยตัวเองเต็มที ยังจะมีเซลล์มะเร็งอันธพาลลูกหนังมาขย่มซ้ำอีก
นโยบายสโมสรต้องเด็ดขาดจริงจัง ริดให้หมดไป ก่อนที่มะเร็งอันธพาลลูกหนังกองทัพทมิฬพวกนี้ จะลามกินอุลตร้าเมืองทอง ที่เป็นสมบัติมีค่าของสโมสร
ถ้าปล่อยปละละเลย ระวังสักวัน
กิเลนตัวนี้ จะขาดใจ
-ยอดทอง-
http://www.siamsport.co.th/Column/131001_110.html
ถึงจะไม่ชอบหลายๆอย่างในข้อเขียนเเกก่อนหน้านี้ แต่กรณีนี้อย่างน้อยๆแกก็ออกมาพูดเรื่องหลังเกมส์นั้นแบบไม่เข้าข้างเมืองทอง ไม่เงียบไปเเบบตาบี หรือคนอื่นๆนะ