ในสภาวะตลาดขาลง นักเล่นหุ้นหลายคนพยายามมองหาหุ้นที่บวกสวนตลาด ไม่ว่าจะใช้ทั้งการวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานหรือทางเทคนิค เพื่อหวังว่าจะเกาะไปกับหุ้นตัวนั้นและทำผลตอบแทนเป็นบวก เพื่อหนีจากสภาพตลาดแดงไม่ว่าจะเป็นการพักฐาน หรือเข้าสู่ภาวะตลาดหมีก็ตาม
แต่ในความเป็นจริง เมื่อตลาดปรับลง หุ้นส่วนใหญ่บนกระดานก็จะลงไปกับตลาดด้วยเช่นกัน และอาจจะมีเพียงไม่ถึง 10% ของหุ้นทั้งหมดที่สามารถบวกสวนกับเทรนในตอนนั้นได้ และหวังผลกำไรที่ตั้งอยู่บนความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าสภาวะตลาดขาลงนั้นจะแค่พักตัว หรือจะลงไปลึกมากน้อยเพียงใด
การพยายามเลือกเฟ้นหา สุดยอดหุ้น ในตลาดขาลง ก็เหมือนกับการไปควานหาเมล็ดผักที่ดี ในกระสอบที่เต็มไปด้วยเมล็ดเน่า เมื่อได้เมล็ดที่คิดว่าดีแล้วก็จะเอาไปปลูกในฤดูแล้ง โดยที่เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมล็ด (หุ้น) นั้นจะเป็นเมล็ดที่ดีจริงหรือไม่? และจะสามารถมีน้ำ (สภาวะตลาด) พอเพียงในการดูแลผักให้เก็บผลกินได้หรือไม่?
สิ่งหนึ่งที่หลายคนลืมไปก็คือ ในสภาวะตลาดขาลง เราสามารถเปลี่ยนจากหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบ ไปถือสินทรัพย์ที่มีค่าเป็นบวกได้ อาจจะเดากันยากหน่อยว่าสินทรัพย์นั้นคืออะไร คำตอบก็ดูเหมือนเส้นผมบังภูเขา เพราะคำตอบง่ายๆของคำถามนี้ก็คือ เงินสด นั่นเอง !!
ในกรณีนี้เราจะเปรียบเทียบเฉพาะ เงินสด กับ หุ้น เพียงเท่านั้น โดยสมมติฐานที่ว่า ในเมื่อตลาดหุ้นลดลงไป เงินสดของเราที่อดทนถือไว้ และหักห้ามใจไม่ให้กระโดดไปหวังกำไรเพียงจุดสองจุดระหว่างตลาดขาลง จะมีค่ามหาศาลกว่าที่หลายๆคนคิด ลองดูตัวอย่างกันครับ
สมมติว่าเรามีเงินสด 10,000 บาท ในขณะที่ตลาดตอนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของขาลง และหุ้น A ราคา 10 บาท คำนวณง่ายๆเราสามารถซื้อหุ้น A ได้ 1,000 หุ้น ถูกต้องไหมครับ..?
เมื่อหุ้นตกลงไป 10% เงินสดของเราก็ยังคงมี 10,000 บาทเท่าเดิม ส่วนหุ้น A ราคาจะเหลือ 9 บาท หลายคนอาจจะบอกว่าเงินก็เท่าเดิม แล้วจะเป็นบวกได้ยังไง.... ลองดูสิครับว่าตอนนี้เรามี อำนาจในการซื้อหุ้น A เพิ่มขึ้นแล้ว
จากเดิมเราสามารถซื้อหุ้น A ได้ 1,000 หุ้น แต่ตอนนี้เราสามารถซื้อหุ้น A ได้มากถึง 1,111 หุ้น เพียงเพราะหุ้น A ราคาลดลงไป 10% แต่เงินสดที่เราถือไว้ ทำให้อำนาจในการซื้อของเราเพิ่มสูงถึง 11.11% !!
แล้วถ้าหุ้นตกลงไปอีก เงินสดของเราจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ตัวอย่างตามตารางนี้
จะเห็นได้ว่าหากหุ้น A ราคาตกลงไป 50% แต่เงินสดที่เราถือไว้ ทำให้เรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้นสูงถึง 100% ได้อย่างสบายๆ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรกับมันให้ยากเลย นอนอยู่บ้านตากพัดลมสบายๆก็มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาแล้ว.... ทีนี้พอตลาดกลับมาสู่ขาขึ้น เช่นหลังจากลงไป 50% แล้วบวกเพิ่มมาอีก 20% ตอนนั้นเราค่อยเข้าไปก็ยังไม่มีอะไรเสียหาย ดีกว่าที่เราเข้าไปรับตอนตลาดลงไป 20% แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะลงไปอีก 50% รึเปล่านั่นเอง
ปล. บทความนี้เขียนขึ้นมาเพียงเพราะอยากจะให้เห็นถึง อำนาจในการซื้อ ของเงินสดที่เรากอดไว้เฉยๆในสภาพตลาดขาลง โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเฟ้อหรืออะไรอื่นๆ ใครที่อ่านแล้วมีข้อเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็คอมเมนท์มาบอกกันได้นะครับ ถือว่าได้แลกเปลี่ยนความรู้กันครับผม.....
ถ้าชอบใจก็ฝากแฟนเพจเกี่ยวกับหุ้นไว้ในอ้อมอกอ้อมใจหน่อยนะครับ
https://www.facebook.com/pages/Kitten-Investor/169400256602386 จะหาสิ่งดีๆมาฝากกันบ่อยๆครับผม ^^
ที่มา:
http://www.kitteninvestor.com/?p=1
สิ่งที่คุณควรจะทำมากที่สุดในตลาดหุ้นขาลง ไม่ใช่การพยายามหาสุดยอดหุ้น... คุณเข้าใจผิดแล้ว!!
แต่ในความเป็นจริง เมื่อตลาดปรับลง หุ้นส่วนใหญ่บนกระดานก็จะลงไปกับตลาดด้วยเช่นกัน และอาจจะมีเพียงไม่ถึง 10% ของหุ้นทั้งหมดที่สามารถบวกสวนกับเทรนในตอนนั้นได้ และหวังผลกำไรที่ตั้งอยู่บนความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าสภาวะตลาดขาลงนั้นจะแค่พักตัว หรือจะลงไปลึกมากน้อยเพียงใด
การพยายามเลือกเฟ้นหา สุดยอดหุ้น ในตลาดขาลง ก็เหมือนกับการไปควานหาเมล็ดผักที่ดี ในกระสอบที่เต็มไปด้วยเมล็ดเน่า เมื่อได้เมล็ดที่คิดว่าดีแล้วก็จะเอาไปปลูกในฤดูแล้ง โดยที่เราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าเมล็ด (หุ้น) นั้นจะเป็นเมล็ดที่ดีจริงหรือไม่? และจะสามารถมีน้ำ (สภาวะตลาด) พอเพียงในการดูแลผักให้เก็บผลกินได้หรือไม่?
สิ่งหนึ่งที่หลายคนลืมไปก็คือ ในสภาวะตลาดขาลง เราสามารถเปลี่ยนจากหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบ ไปถือสินทรัพย์ที่มีค่าเป็นบวกได้ อาจจะเดากันยากหน่อยว่าสินทรัพย์นั้นคืออะไร คำตอบก็ดูเหมือนเส้นผมบังภูเขา เพราะคำตอบง่ายๆของคำถามนี้ก็คือ เงินสด นั่นเอง !!
ในกรณีนี้เราจะเปรียบเทียบเฉพาะ เงินสด กับ หุ้น เพียงเท่านั้น โดยสมมติฐานที่ว่า ในเมื่อตลาดหุ้นลดลงไป เงินสดของเราที่อดทนถือไว้ และหักห้ามใจไม่ให้กระโดดไปหวังกำไรเพียงจุดสองจุดระหว่างตลาดขาลง จะมีค่ามหาศาลกว่าที่หลายๆคนคิด ลองดูตัวอย่างกันครับ
สมมติว่าเรามีเงินสด 10,000 บาท ในขณะที่ตลาดตอนนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของขาลง และหุ้น A ราคา 10 บาท คำนวณง่ายๆเราสามารถซื้อหุ้น A ได้ 1,000 หุ้น ถูกต้องไหมครับ..?
เมื่อหุ้นตกลงไป 10% เงินสดของเราก็ยังคงมี 10,000 บาทเท่าเดิม ส่วนหุ้น A ราคาจะเหลือ 9 บาท หลายคนอาจจะบอกว่าเงินก็เท่าเดิม แล้วจะเป็นบวกได้ยังไง.... ลองดูสิครับว่าตอนนี้เรามี อำนาจในการซื้อหุ้น A เพิ่มขึ้นแล้ว
จากเดิมเราสามารถซื้อหุ้น A ได้ 1,000 หุ้น แต่ตอนนี้เราสามารถซื้อหุ้น A ได้มากถึง 1,111 หุ้น เพียงเพราะหุ้น A ราคาลดลงไป 10% แต่เงินสดที่เราถือไว้ ทำให้อำนาจในการซื้อของเราเพิ่มสูงถึง 11.11% !!
แล้วถ้าหุ้นตกลงไปอีก เงินสดของเราจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ตัวอย่างตามตารางนี้
จะเห็นได้ว่าหากหุ้น A ราคาตกลงไป 50% แต่เงินสดที่เราถือไว้ ทำให้เรามีอำนาจในการซื้อเพิ่มขึ้นสูงถึง 100% ได้อย่างสบายๆ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรกับมันให้ยากเลย นอนอยู่บ้านตากพัดลมสบายๆก็มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาแล้ว.... ทีนี้พอตลาดกลับมาสู่ขาขึ้น เช่นหลังจากลงไป 50% แล้วบวกเพิ่มมาอีก 20% ตอนนั้นเราค่อยเข้าไปก็ยังไม่มีอะไรเสียหาย ดีกว่าที่เราเข้าไปรับตอนตลาดลงไป 20% แล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะลงไปอีก 50% รึเปล่านั่นเอง
ปล. บทความนี้เขียนขึ้นมาเพียงเพราะอยากจะให้เห็นถึง อำนาจในการซื้อ ของเงินสดที่เรากอดไว้เฉยๆในสภาพตลาดขาลง โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเฟ้อหรืออะไรอื่นๆ ใครที่อ่านแล้วมีข้อเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็คอมเมนท์มาบอกกันได้นะครับ ถือว่าได้แลกเปลี่ยนความรู้กันครับผม.....
ถ้าชอบใจก็ฝากแฟนเพจเกี่ยวกับหุ้นไว้ในอ้อมอกอ้อมใจหน่อยนะครับ https://www.facebook.com/pages/Kitten-Investor/169400256602386 จะหาสิ่งดีๆมาฝากกันบ่อยๆครับผม ^^
ที่มา: http://www.kitteninvestor.com/?p=1